ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ เผยงานวิจัยล่าสุดของ Forbes Insights ชี้ชัดองค์กรธุรกิจในเอเชียแปซิฟิกเป็นผู้นำด้านดิจิทัล

พฤหัส ๒๖ มกราคม ๒๐๑๗ ๑๖:๐๗
ผู้บริหารในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกมากกว่าครึ่งหนึ่งคาดว่าองค์กรของตนพร้อมเดินหน้าแปรรูปสู่ระบบดิจิทัลครั้งใหญ่ในอีกสองปีข้างหน้า

รายงานวิจัยชิ้นล่าสุดของ Forbes Insights ซึ่งจัดทำร่วมกับบริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ (เอชดีเอส) ธุรกิจในเครือของบริษัท ฮิตาชิ จำกัด เรื่อง "How to Win at Digital Transformation: Insights from a Global Survey of Top Executives" (วิธีเอาชนะการแปรรูปสู่ระบบดิจิทัล: มุมมองเชิงลึกจากการสำรวจผู้บริหารระดับสูงสุดทั่วโลก) พบว่าองค์กรต่างๆ ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกำลังแซงหน้าภูมิภาคอื่นๆ ในการนำโครงการด้านดิจิทัลเข้ามาปรับใช้ภายในองค์กร โดยข้อมูลจากการสำรวจระบุว่า 55% ของผู้ตอบแบบสอบถามในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกคาดว่าองค์กรของตนพร้อมเดินหน้าแปรรูปสู่ระบบดิจิทัลครั้งใหญ่ในอีกสองปีข้างหน้า ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก (49%) ถึง 6%

การศึกษาครั้งนี้ดำเนินการสำรวจกับผู้บริหารระดับอาวุโสจำนวน 573 รายทั่วโลก ซึ่ง 34% อยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก รวมทั้งยังมีการพูดคุยแบบตัวต่อตัวกับผู้บริหารระดับสูงด้วย และจากผลการสำรวจพบว่าองค์กร (ไม่ว่าจะอยู่ภูมิภาคใดหรือในธุรกิจใดก็ตาม) กำลังได้รับแรงกดดันเกี่ยวกับการแปรรูปองค์กรสู่ระบบดิจิทัลเพื่อให้สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้อย่างทันท่วงที

มร.บรูซ โรเจอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายบริหารข้อมูลเชิงลึกของ Forbes Media กล่าวว่า ปัจจุบันการแปรรูปสู่ระบบดิจิทัลถือเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งต่อการอยู่รอดสำหรับองค์กรต่างๆ ทั้งยังเป็นการเปลี่ยนแปลงด้านการบริหารจัดการที่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับผู้คนและวัฒนธรรมยิ่งกว่าเดิม ซึ่งรวมถึงการลงทุนในเทคโนโลยีด้วย

มร.มาร์ก แอบเล็ตต์ ผู้จัดการทั่วไปและรองประธานอาวุโส บริษัท ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ เอเชีย แปซิฟิก กล่าวว่า หัวใจสำคัญของการแปรรูปคือข้อมูล ซึ่งเป็นทั้งผู้สร้างและผู้กระตุ้นให้เกิดการเคลื่อนไหวขององค์กรด้านไอที โดยพบว่าการที่ไม่สามารถปลดปล่อยศักยภาพของข้อมูลออกมาได้นั้น ส่งผลให้องค์กรไม่สามารถก้าวสู่การแปรรูปได้อย่างเต็มที่ ฮิตาชิ ดาต้า ซิสเต็มส์ จึงพร้อมให้การสนับสนุนการแปรรูปสู่ระบบดิจิทัลของลูกค้าอย่างเต็มที่ และเป็นผู้นำด้านกลยุทธ์ข้อมูลที่จะสร้างโอกาสให้กับองค์กรในการจัดการ ควบคุม ใช้ประโยชน์ เรียนรู้ และแปรรูปข้อมูลเชิงลึกให้เป็นการดำเนินการสำหรับธุรกิจเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด

งานวิจัยชิ้นนี้ยังชี้ให้เห็นด้วยว่าผู้ที่อยู่ในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกกำลังก้าวสู่เส้นทางการเติบโตทางดิจิทัลมากกว่าภูมิภาคส่วนอื่นๆ ทั่วโลก โดยให้ความสำคัญกับ 5 ขั้นตอนหลักๆ ดังนี้:

1. การกำหนดให้การแปรรูปองค์กรมีความสำคัญสูงสุดในเชิงกลยุทธ์: การสำรวจที่ดำเนินการร่วมกันระหว่าง Forbes Insights และฮิตาชิ ฯ ยืนยันให้เห็นว่าการแปรรูปสู่ระบบดิจิทัลถูกกำหนดให้เป็นความสำคัญอันดับแรกในเชิงกลยุทธ์สำหรับภูมิภาคแห่งนี้ (60% ต่อ 50% ทั่วโลก) การให้ความสำคัญเชิงกลยุทธ์ต่อการแปรรูปสู่ระบบดิจิทัลได้รับการสนับสนุนจากการบรรดาผู้บริหารที่เน้นด้านการลงทุนเป็นสำคัญ ซึ่งการลงทุนด้านเทคโนโลยีเพื่อเปิดทางให้กับการแปรรูปสู่ระบบดิจิทัลนั้นถือเป็นความสำคัญสูงสุดด้านการลงทุนในช่วง 2 ปีจากนี้ สำหรับผู้ตอบแบบสอบถามในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (65%) รวมถึงการเพิ่มขีดความสามารถด้านการใช้และการวิเคราะห์ข้อมูลด้วย (65%)

2. ผลลัพธ์ขององค์กรธุรกิจมีส่วนสำคัญต่อการผลักดันให้เกิดการแปรรูปสู่ระบบดิจิทัล (DX): โมเดลธุรกิจใหม่ๆ และคู่แข่งในธุรกิจถือเป็นตัวผลักดันที่สำคัญสำหรับ DX (โดยทั้งสองปัจจุบันนี้คิดเป็นสัดส่วน 42%) ตามด้วยเทคโนโลยีใหม่ (38%) และความคาดหวังของลูกค้า (33%) ซึ่งความสามารถในการสร้างสรรค์นวัตกรรมก็เป็นตัวชี้วัดความสำเร็จของ DX ที่สำคัญยิ่งด้วยเช่นกัน จะเห็นได้ว่าผู้ตอบแบบสอบถามจากภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเลือกคำตอบนี้มากถึง 57% ซึ่งสูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ระดับ 46% ตามด้วยการเติบโตของรายได้หรืออัตรากำไร (54% ในเอเชียแปซิฟิกเทียบกับทั่วโลกที่ระดับ 46%) และการลดต้นทุน (49% ในเอเชียแปซิฟิกเทียบกับทั่วโลกที่ระดับ 43%)

อย่างไรก็ตามยังคงมีปัญหามากมายที่องค์กรต่างๆ ต้องรับมือและดำเนินการแก้ไขไปพร้อมๆ กันด้วย นั่นคือ:

3. ศักยภาพที่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์จากข้อมูลและการวิเคราะห์: แม้ว่าองค์กรในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกไม่ถึงครึ่งหนึ่ง (45%) จะมองว่าตัวเองเป็นผู้นำหรือผู้ก้าวหน้าด้านการใช้และการวิเคราะห์ข้อมูล แต่ส่วนใหญ่ (95%) เชื่อว่าการเพิ่มขึ้นของรายได้เป็นผลมาจากการใช้ประโยชน์จากข้อมูลและการวิเคราะห์โดยตรง และภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกยังแซงหน้าทุกภูมิภาคด้วยสัดส่วน 39% ของผู้ตอบแบบสอบถามที่ตอบว่ามีรายได้เพิ่มมากกว่า5% เมื่อใช้การวิเคราะห์ข้อมูล ซึ่งเทียบกับค่าเฉลี่ยทั่วโลกอยู่ที่ระดับ 31% โดยมีเพียง 5% ของผู้ตอบแบบสอบถามจากภูมิภาคนี้เท่านั้นที่เห็นว่าไม่มีผลกระทบหรือไม่แน่ใจว่าจะเกิดผลกระทบใดๆ การศึกษาครั้งนี้ยังชี้ให้เห็นถึงแนวโน้มที่ชัดเจนของการวิเคราะห์ข้อมูลสำหรับองค์กรธุรกิจในปี 2017ด้วยเช่นกัน

4. แนวคิดการมีส่วนร่วมทั้งองค์กรเพื่อมุ่งสู่ DX ต้องได้รับการปรับใช้: ปัจจุบันการเข้ามาส่วนร่วมของทีมงานข้ามสายงานยังมีไม่มากนักในการพัฒนา (40%) หรือเริ่มใช้กลยุทธ์ดังกล่าว (40%) โดยงานในส่วนนี้มักจะดำเนินการโดยฝ่ายไอทีเป็นหลัก (57% และ 59% ตามลำดับ) สำหรับในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก 55% ของผู้ตอบแบบสอบถามเชื่อว่าไอทีมีความพร้อมอย่างเต็มที่สำหรับการแปรรูปสู่ระบบดิจิทัล ขณะที่มีเพียง 42% เท่านั้นที่มองว่าฝ่ายอื่นๆ ขององค์กรมีความพร้อมอย่างเต็มที่

5. องค์กรต้องเรียนรู้วิธีที่ดีที่สุดในการเชื่อมโยงเทคโนโลยีเข้ากับทรัพยากรมนุษย์: เทคโนโลยีถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับกลยุทธ์ด้าน DXมาอย่างยาวนาน แต่สิ่งสำคัญที่งานวิจัยครั้งนี้ค้นพบก็คือ คนยังมีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก จะเห็นได้ว่าเทคโนโลยีถูกมองว่าเป็น1 ใน 3 ความท้าทายที่สำคัญสูงสุด (26%) และเป็นตัวสนับสนุนหลักต่อความสำเร็จในการแปรรูปสู่ระบบดิจิทัล (54%) ของภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก โดยมีสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่ง (42%) ของผู้ตอบแบบสอบถามรู้สึกว่าผู้บริหารระดับสูงเป็นผู้สนับสนุนสูงสุดลำดับที่2 ต่อความสำเร็จของ DX (เทียบกับคำตอบจากทั่วโลกที่มีเพียง 29%) นอกจากนั้น 'การขาดทักษะความสามารถ' ยังถูกมองว่าเป็นปัญหาสำคัญยิ่งต่อการนำ DX มาปรับใช้ของผู้ตอบแบบสอบถามในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก (29%) ด้วย ดังนั้นองค์กรต่างๆ ที่ต้องการประสบความสำเร็จในการแปรรูองค์กรสู่ระบบดิจิทัลจะต้องเข้าใจในบทบาทดังกล่าวว่า ความสามารถและทักษะมีบทบาทอย่างมากในเรื่องนี้และต้องแน่ใจให้ได้ด้วยว่าพวกเขามีบุคลากรที่เหมาะสมสำหรับงานดังกล่าวแล้ว

นอกจากนี้ การศึกษาครั้งนี้ยังชี้ให้เห็นด้วยว่าความตระหนักถึงระบบคลาวด์และแนวคิดอินเทอร์เน็ตในทุกสรรพสิ่ง (IoT) ก็กำลังเติบโตเพิ่มมากขึ้นในภูมิภาคแห่งนี้ด้วยเช่นกัน เมื่อถามถึงความสำคัญของเทคโนโลยีในการแปรรูปสู่ระบบดิจิทัล พบว่า 64% ของผู้ตอบแบบสอบถามในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเลือกให้ระบบคลาวด์มีความสำคัญสูงสุด (เช่นเดียวกับค่าเฉลี่ยจากทั่วโลก) โดยมี 41% ที่เลือกแนวคิด IoT ซึ่งมากกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลก10% อันส่งผลให้แนวคิด IoT มีความสำคัญสูงสุดเป็นอันดับที่2 สำหรับผู้ตอบแบบสอบถามในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และเมื่อถามถึงลำดับความสำคัญในการลงทุนสูงสุด พบว่า 45% ของผู้ตอบแบบสอบถามในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกเลือกเทคโนโลยี IoT เทียบกับค่าเฉลี่ยจากทั่วโลกซึ่งอยู่ที่ระดับ 38%

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO