ในแต่ละปีไมโลได้จัดกิจกรรมกีฬาเพื่อส่งเสริมสุขภาพให้กับเด็ก ๆ กว่า 22 ล้านคน ทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง และภายใต้ความร่วมมือกับสโมสรฟุตบอลซึ่งเป็นที่รู้จักทั่วโลกอย่างบาร์เซโลนา ไมโลได้ตั้งเป้าที่จะเข้าถึงและส่งเสริมเด็กและเยาวชนอีกหลายล้านคนในช่วง 4 ปีข้างหน้า
ด้วยวิสัยทัศน์ที่ทั้งสององค์กรมีร่วมกันในการสนับสนุนให้เยาวชนมีสุขภาพที่ดีขึ้น ด้วยการมีแอคทีฟไลฟ์สไตล์ และเห็นความสำคัญของการออกกำลังกาย กิจกรรมต่าง ๆ ภายใต้ความร่วมมือนี้จึงมุ่งตอบโจทย์วัตถุประสงค์และออกแบบมาเพื่อปลูกฝังให้เด็กๆ มีสุขภาพดี แอคทีฟ และสอดคล้องกับการดำเนินชีวิต โดยเฉพาะช่วงอายุระหว่าง 7 - 12 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยสำคัญสำหรับการวางพื้นฐานที่ดีให้กับเยาวชน
เริ่มตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป ไมโลจะจับมือกับสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา เพื่อยกระดับและขยายกิจกรรมกีฬา ซึ่งได้พิสูจน์แล้วว่า เป็นกิจกรรมที่มุ้งเน้นการออกกำลังกายของเด็ก ๆ อย่างแท้จริงออกไปให้กว้างขวางยิ่งขึ้น นอกจากนี้ยังได้นำนวัตกรรมทางเทคโนโลยี ผสานเข้ากับกิจกรรมของเอฟซี บาร์เซโลนา เอสโคลา (โรงเรียนสอนฟุตบอลบาร์เซโลนา) เพื่อปั้นนักฟุตบอลที่มีความสามารถรุ่นใหม่ขึ้นมาอีกด้วย
ในช่วง 4 ปีข้างหน้า เด็ก ๆ ในเอเชียโอเชียเนีย แอฟริกา และลาตินอเมริกา จะได้พบกับกิจกรรมต่าง ๆ ที่จัดขึ้นโดยเนสท์เล่ ไมโลร่วมกับสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนา อาทิ
โอกาสในการพัฒนาและเสริมสร้างทักษะกีฬาฟุตบอลผ่านการแข่งขันฟุตบอล ที่ไม่ได้ให้ความสำคัญ แค่การทำประตู แต่ยังเน้นทีมเวิร์ก รวมทั้งนำสไตล์การเล่นแบบ Tiki-Taka ซึ่งเป็นเทคนิคการส่งบอลระยะสั้นและการเคลื่อนไหวรูปแบบเฉพาะของสโมสรบาร์เซโลนามาใช้ฝึกสอน
โอกาสที่จะได้รับการฝึกฝนในระดับมืออาชีพกับสุดยอดโค้ชฟุตบอลระดับโลก โดยไมโลจะคัดเลือก เยาวชน เพื่อร่วมพัฒนาฝีมือที่ "แคมป์นู" สนามฟุตบอลระดับตำนาน บ้านเกิดของสโมสรบาร์เซโลนา
ในพื้นที่ที่ขาดแคลนสนามกีฬา อุปกรณ์ และการฝึกสอนที่ได้มาตรฐาน ไมโลจะจัดส่งชุดสนามฟุตบอลเคลื่อนที่แบบ pop-up พร้อมด้วยรถไมโลที่ทุกคนชื่นชอบ เพื่อเป็นการเพิ่มพื้นที่ สันทนาการและสนามเด็กเล่นให้กับเด็ก ๆ
มร. พาทริซ บูลา รองประธานของกลุ่มเนสท์เล่ กล่าวว่า "ในฐานะผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ที่สุดของโลก เนสท์เล่มุ่งมั่นที่จะพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็ก ๆ ทั่วโลก ด้วยการให้ความรู้แก่เยาวชนเกี่ยวกับความสำคัญของการเล่นกีฬา และการออกกำลังกาย ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการดำเนินชีวิตอย่างมีสุขภาพดี และจะเป็นการสร้างอนาคตที่ดีกว่าสำหรับเด็ก ๆ รุ่นหลัง การเล่นกีฬาและทำกิจกรรมเป็นทีม ช่วยให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ถึงคุณค่าของความเสมอภาค ความมานะ พยายาม ความเคารพซึ่งกันและกัน ตลอดจนมีความมั่นใจ ด้วยค่านิยมที่ไมโลและสโมสรบาร์เซโลนามีร่วมกัน เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกับสโมสรบาร์เซโลนา เพื่อพัฒนากิจกรรมด้านกีฬาต่าง ๆ ของแบรนด์ ไมโลที่เรารู้จักกันดี โดยออกแบบโครงการเพื่อกระตุ้นให้เยาวชนเข้ามามีส่วนร่วมกับกิจกรรมกีฬา และได้รับโภชนาการที่เหมาะสม ภายใต้ความร่วมมือนี้ เราจึงตั้งเป้าที่จะยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตของเยาวชนนับล้านคนทั่วโลกให้ได้อย่างเป็นรูปธรรม"
การจับมือระหว่างผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ที่สุดของโลกและสโมสรฟุตบอลชั้นนำจากแคว้นกาตาลันในครั้งนี้ ได้ประกาศ ความร่วมมืออย่างเป็นทางการครั้งแรกเมื่อเดือนพฤศจิกายน 2559 ที่ผ่านมา ณ แคมป์นู เมืองบาร์เซโลนา โดยภายใต้ความร่วมมือนี้ ไมโลยังได้เป็นแบรนด์เครื่องดื่มโภชนาการที่ให้พลังงานของสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาอย่างเป็นทางการอีกด้วย ซึ่งนับเป็นครั้งแรกของเนสท์เล่ที่ได้ร่วมมือกับสโมสรฟุตบอลชั้นนำในระดับโลก เพื่อยกระดับการมีสุขภาพชีวิตที่ดีเช่นนี้
มร. ซาเวียร์ อาเซนซี กรรมการผู้จัดการ สโมสรบาร์เซโลนา ภาคพื้นเอเชียแปซิฟิก กล่าวว่า "ทีมเวิร์กคือหัวใจสำคัญของความร่วมมือนี้ สโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาและเนสท์เล่ ไมโลเราคือทีมเดียวกัน ค่านิยมของสโมสรฟุตบอลบาร์เซโลนาสอดคล้องกับกิจกรรมกีฬาและโครงการต่าง ๆ ของเนสท์เล่ ไมโล ซึ่งตลอดระยะเวลา 4 ปีนับจากนี้ เราจะมุ่งให้ความรู้กับเยาวชนถึงประโยชน์ของการมีไลฟ์สไตล์ที่เสริมสร้างสุขภาพที่ดี ความสำคัญของการออกกำลังกายและกิจกรรมการเคลื่อนไหวต่าง ๆ ที่เป็นส่วนสำคัญต่อการเจริญเติบโตของพวกเขาในแต่ละช่วงวัย เช่นเดียวกับไมโล เราเชื่อว่ากีฬาจะทำให้เยาวชนได้เรียนรู้สิ่งต่าง ๆ รวมถึงค่านิยมที่สำคัญต่อการดำเนินชีวิต ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของสร้างรากฐานที่ดีต่อการเติบโตเป็นผู้ใหญ่ในอนาคต"
กว่า 150 ปีที่เนสท์เล่มุ่งมั่นเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิต และมีส่วนร่วมในการสร้างอนาคตให้ผู้คนมีสุขภาพดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งช่วยให้เด็ก ๆ สามารถเริ่มต้นช่วงแรกของชีวิตได้ดีและมีประสิทธิภาพ ไมโลมีภาพลักษณ์ที่เชื่อมโยงกับกิจกรรมการออกกำลังกาย และได้จัดกิจกรรมด้านกีฬาและโภชนาการที่เข้าถึงเยาวชนราว 22 ล้านคนในแต่ละปีเป็นเวลากว่า 50 ปี ด้วยความร่วมมือระดับโลกกับสโมสรบาร์เซโลนานี้ ไมโลจะได้ขยายผลจากเยาวชน 22 ล้านคนไปสู่อีกหลายล้านคนในช่วงเวลาอีก 4 ปีข้างหน้า