สัตวแพทยจุฬาฯย้ำหมู ไก่ไทยปลอดภัยต่อการบริโภค

อังคาร ๓๑ มกราคม ๒๐๑๗ ๑๒:๒๒
สัตวแพทย์จุฬาฯย้ำการใช้ยาในการเลี้ยงทั้งหมู-ไก่ของไทย ระบุโดยภาพรวมทำถูกต้อง ระบุหลักการใช้ยาเฉพาะที่จำเป็น ยืนยันหมู-ไก่ไทยปลอดภัยต่อการบริโภค

ศ.น.สพ.ดร.รุ่งโรจน์ ธนาวงษ์นุเวช คณบดีคณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์ รศ.สพ.ญ.ดร.รุ่งทิพย์ ชวนชื่น ผู้อำนวยการศูนย์ติดตามการดื้อยาของเชื้อโรคอาหารเป็นพิษ จุฬาฯ และรศ.น.สพ.ดร.ณุวีร์ ประภัสระกูล อาจารย์ประจำภาควิชาจุลชีววิทยาทางสัตวแพทย์ จุฬาฯ แถลงข่าวเรื่องเชื้อดื้อยากับการใช้ยาปฏิชีวนะในปศุสัตว์ ณ อาคาร60ปี สัตวแพทยศาสตร์จุฬาฯ

ศ.น.สพ.ดร.รุ่งโรจน์ กล่าวถึงความจำเป็นในการใช้ยาปกติชีวนะในสุกรการใช้ยาปฏิชีวนะ เนื่องจากปศุสัตว์ในฟาร์มอยู่ร่วมกันเป็นฝูงต่างจากคนและสัตว์เลี้ยง จึงมีโอกาสติดเชื้อแบคทีเรียที่มีอยู่ทั่วไปในสิ่งแวดล้อม หากภูมิคุ้มกันของร่างกายไม่สามารถต่อสู้กับเชื้อโรค โดยมีสัตวแพทย์เป็นผู้ควบคุมการใช้ยาในฟาร์ม ภายในระยะเวลาที่เหมาะสม มีระยะเวลาในการหยุดยา และมีการพักเล้าเพื่อให้ปลอดเชื้อ ก่อนจะนำสัตว์รุ่นใหม่เข้าเลี้ยง โดยภาพรวมทำได้ถูกต้อง

รศ.น.สพ.ดร.ณุวีร์ ประภัสระกูล อาจารย์ประจำภาควิชาจุลชีววิทยาทางสัตวแพทย์ ให้ข้อมูลเกี่ยวกับการศึกษาที่มีการตีพิมพ์เผยแพร่ว่าเป็นการ ศึกษาย้อนหลังเชื้อแช่แข็งจาก 6พื้นที่ใน 28ฟาร์ม รวม 337ตัวอย่าง พบเชื้ออีโคไลย์ที่มียีนดื้อยา mcr-1 เพียง 6.8% โดยพบในสุกรขุนระยะแรก และลดลงเรื่อยๆเมื่อเข้าสู่ระยะหยุดยาก่อนส่งโรงฆ่าสัตว์ ส่วนตัวอย่างที่ได้จากเนื้อสุกรไม่พบอีโคไลย์ที่มีmcr-1 ทั้งนี้ในประเทศไทยพบเชื้อดังกล่าวในเวลา ใกล้เคียงกันในปี 2555 แต่ไม่มีความเกี่ยวเนื่องกันและยังไม่พบหลักฐานความเชื่อมโยงระหว่างสัตว์สู่คนในประเทศไทย

รศ.สพ.ญ.ดร.รุ่งทิพย์ ชวนชื่น ผอ.ศูนย์ติดตามการดื้อยาของโรคอาหารเป็นพิษ คณะสัตวแพทยศาสตร์ จุฬาฯ กล่าวว่า เนื้อสุกรที่มีจำหน่ายภายใต้การดูแลของกรมปศุสัตว์ปลอดภัยต่อการบริโภค เพราะโดยปกติสุกรที่เข้าสู่กระบวนการเชือดชำแหละเป็นสุกรที่มีสุขภาพดี ผ่านกระบวนการในโรงฆ่าสัตว์ที่ได้มาตรฐาน และนำมาปรุงให้สุกก่อนบริโภค

"การหยุดใช้ยาปฏิชีวนะชนิดใดชนิดหนึ่งอาจไม่ใช่คำตอบของการแก้ปัญหาเชื้อดื้อยาเพราะปัจจัยที่ทำให้เกิดเชื้อดื้อยาไม่ได้จำกัดที่ยาปฏิชีวนะ การลดการใช้ยาคอลิสตินอาจลดปัญหาเชื้อดื้อยาได้ระดับหนึ่งซึ่งก็ไม่รู้ว่าจะลดได้แค่ไหน และยังมียาปฏิชีวนะอื่นๆที่ทำให้เกิดการคัดเลือกร่วมหรือดื้อข้ามได้ จุดสำคัญอยู่ที่การควบคุมการใช้ยาให้เป็นไปอย่างสมเหตุสมผล ซึ่งมีความจำเป็นทั้งในยาคนและยาสัตว์" รศ.สพ.ญ.ดร.รุ่งทิพย์ กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๑:๐๐ วว. จับมือจังหวัดสระบุรี/อบต.ตาลเดี่ยว ขับเคลื่อนลดก๊าซเรือนกระจก นำ วทน. พัฒนาศูนย์เรียนรู้เทคโนโลยีจัดการขยะชุมชน
๑๑:๐๐ วว.จับมือคณะวิศวกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ส่งเสริมวิจัยนวัตกรรม พัฒนาบัณฑิตสมรรถนะสูง ด้วยวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี
๑๑:๓๗ เปลี่ยนธุรกิจคุณให้โตคูณร้อย กับหลักสูตร CMF เปิดรับสมัครรุ่นที่ 21 แล้ววันนี้ !!
๑๑:๒๖ GFC เสิร์ฟข่าวดีรับศักราชใหม่ปี 68 ดีเดย์ให้บริการคลินิกรักษาผู้มีบุตรยาก GFC Ubon เต็มสูบ
๑๑:๐๐ โรงพยาบาลลานนา จัดอบรม ชาวลานนาร่วมใจ ต้านโรคภัยจากภาวะอ้วนลงพุง
๑๑:๑๕ ค้นหา รักแท้ ในมุมมองใหม่กับศูนย์ฯ สิริกิติ์ ในกิจกรรม ธรรมะในสวน ณ สวนเบญจกิติ 1 กุมภาพันธ์ 2568 นี้
๑๑:๑๐ เชฟรอน (ไทย) รุกเจาะตลาดน้ำมันเครื่อง เพื่ออุตสาหกรรมเครื่องจักรกล
๑๑:๐๗ RML เปิดศักราชปี'68 มาแรง! หุ้นกู้มีหลักประกันขายหมดเกลี้ยง 100%
๑๑:๐๐ สมาคมดินโลก ร่วมกับ 4 หน่วยงาน ลงนามความร่วมมือเสริมสร้างการจัดการดินเพื่อเกษตรยั่งยืน
๑๐:๐๐ ศูนย์การค้าเครือเอ็ม บี เค ฉลองเทศกาลตรุษจีนสุดยิ่งใหญ่ CHINESE NEW YEAR 2025