นายกอบชัย สังสิทธิสวัสดิ์ รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม กล่าวว่า โลกธุรกิจในปัจจุบันถือได้ว่าเป็นยุคที่ไร้พรมแดนทางการค้าซึ่งเป็นช่วงเวลาที่เปรียบเสมือนการเปิดประตูให้ผู้ประกอบการได้เชื่อมโยงธุรกิจของตนเข้าสู่ตลาดขนาดใหญ่ที่เต็มไปด้วยทั้งผู้ผลิต ผู้บริโภค ช่องทางการตลาด และโอกาสต่าง ๆ ที่พร้อมเกื้อหนุนธุรกิจอย่างหลากหลาย โดยทิศทางและสถานการณ์ที่มีการเปลี่ยนแปลงอย่างไม่หยุดยั้งนี้ กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมส่งเสริมอุตสาหกรรมได้เล็งเห็นโอกาสสำคัญครั้งใหม่ที่จะผลักดันผู้ประกอบการที่มีศักยภาพกว่า 2 ล้านธุรกิจ ให้สามารถเข้าสู่การแข่งขันในระดับที่กว้างขึ้น พร้อมทั้งเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายทั้งระดับในประเทศและต่างประเทศได้ จึงได้วางรากฐานการส่งเสริม SMEsด้วยการสนับสนุนภาคเอกชนในการจัดตั้งโครงการตลาดต่อยอด หรือ AEC Trading Center ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มใหม่ที่จะช่วยในการสร้างความเติบโตให้แก่ผู้ประกอบการ ทั้งการเปิดโอกาสในการแสดงศักยภาพและขีดความสามารถทางการผลิตสินค้า การยกระดับแบรนด์เพื่อก้าวเข้าสู่การแข่งขันในตลาดต่างประเทศการขยายสินค้าและบริการสู่ตลาดโลก
ด้าน ดร.พสุ โลหารชุน อธิบดีกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า โครงการตลาดต่อยอด หรือ AEC Trading Center คือโมเดลใหม่ที่จะช่วยสร้างโอกาสและช่องทางทางธุรกิจให้แก่ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยโดย กสอ. ได้มีการร่วมมือกับบริษัท ตลาดต่อยอด เออีซี จำกัด ซึ่งจัดตั้งโดยกลุ่มบริษัท แอสเสท เวิร์ด พัฒนาเนื้อที่กว่า 150 ไร่ ในพื้นที่ อ.บางปะอิน จ.พระนครศรีอยุธยา ประกอบด้วยการบริการต่าง ๆ ที่หลากหลาย อาทิ การรวบรวมผลิตภัณฑ์และบริการที่ครอบคลุมทุกประเภทสินค้าในอุตสาหกรรมเบาจากผู้ประกอบการไทยและผู้ประกอบการจากต่างประเทศกว่า 10,000 รายมาจัดแสดงและจำหน่ายบนพื้นที่กว่า 3 แสนตารางเมตร อาทิ กลุ่มอาหารกลุ่มประดับยนต์ อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มเฟอร์นิเจอร์ตกแต่ง บริการสนับสนุนด้านการค้าแก่ผู้ประกอบการ เช่น งานเอกสาร งานบริการด้านการเงิน การส่งออก บริการ SMEs Solution Service ที่ช่วยส่งเสริมผู้ประกอบการในทุกมิติ อาทิ ศูนย์ข้อมูลมาตรฐานอุตสาหกรรมต่าง ๆ การพัฒนาและออกแบบผลิตภัณฑ์ บริการ Business Matching การเป็น Sourcing Hubและบริการสนับสนุนจากภาครัฐในหลากหลายด้าน Exhibition Hall ที่มีพื้นที่กว่า 5,000 ตารางเมตร บริการเชื่อมโยงผู้บริโภคและผู้ประกอบการจากออนไลน์มาสู่ออฟไลน์ (O2O) และบริการด้าน E-Commerce เพื่อการติดต่อซื้อขายผ่านระบบออนไลน์เพื่อให้สอดรับกับนโยบายอุตสาหกรรม 4.0 ฯลฯ
สำหรับการดำเนินงานในโครงการดังกล่าว กสอ. จะทำหน้าที่ในการสนับสนุนและพัฒนาธุรกิจอุตสาหกรรมร่วมกับหน่วยงานเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเพื่อผลักดันให้ผู้ประกอบการที่มีศักยภาพและมีขีดความสามารถที่แข็งแกร่ง รวมถึงผ่านการส่งเสริมและพัฒนาจาก กสอ. ทั้งในด้านการพัฒนามาตรฐานผลิตภัณฑ์ การเพิ่มผลิตภาพและการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมมาปรับใช้ในกระบวนการผลิต ซึ่งในแต่ละปี กสอ. ได้ให้การสนับสนุนSMEs มากกว่าหมื่นราย โดยคาดหวังว่าการจัดตั้งตลาดต่อยอดจะเป็นการตอบสนองและเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการได้มีช่องทางทางการตลาดและการแสดงศักยภาพที่เปิดกว้างมากขึ้น ทั้งยังสามารถช่วยในการแบ่งปันกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการตั้งแต่รายใหญ่ไปจนถึงรายเล็กได้ ซึ่งสอดคล้องกับแผนการส่งเสริม SME ฉบับที่ 4 (พ.ศ. 2560-2564) ของสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) ยุทธศาสตร์ที่ 1การส่งเสริมและพัฒนา SME รายประเด็นในกลยุทธ์การส่งเสริมการเข้าถึงตลาดและการเข้าสู่สากล โดยโครงการนี้จะเป็นอีกแนวทางหนึ่งในการพัฒนาระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่เอื้อต่อการพัฒนา SME ให้เติบโตอย่างยั่งยืน และเป็นการต่อยอดผู้ประกอบการที่มีศักยภาพที่ผ่านการพัฒนาจากโครงการต่าง ๆ ของ กสอ. โดยเฉพาะอย่างยิ่งการต่อยอดการพัฒนาผลิตภัณฑ์มูลค่าเพิ่มและบรรจุภัณฑ์ด้วยนวัตกรรม ให้มีพื้นที่สำหรับการต่อยอดในเชิงพาณิชย์อย่างสมบูรณ์ และยังเชื่อมั่นอีกว่าการผนึกกำลังในโอกาสสำคัญนี้จะช่วยผลักดันให้ผู้ประกอบการไทยสามารถรุกตลาดโลกด้วยคุณภาพและความสร้างสรรค์ที่ทัดเทียมนานาชาติ ขยายฐานผู้บริโภคจาก 70 ล้านสู่ตลาด AECกว่า 600 ล้านคน นอกจากนี้ ยังช่วยสร้างและผลักดันกลุ่มธุรกิจSMEs รุ่นใหม่ให้ได้มีโอกาสในการเข้าถึงตลาดเป้าหมายและเกิดผู้ประกอบการรายใหม่ได้มากยิ่งขึ้น ทั้งยังมุ่งหวังให้อนาคตไทยเป็นต้นแบบในการพัฒนา SMEs ให้กับอีกหลายประเทศได้ต่อไป ดร.พสุ กล่าวปิดท้าย
อย่างไรก็ดี เมื่อเร็ว ๆ นี้ กสอ. ได้จัดให้มีการบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) การสนับสนุนช่องทางการจัดจำหน่ายภายในประเทศและภายนอกประเทศให้กับผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมภายใต้โครงการตลาดต่อยอด เพื่อประสานความร่วมมือในการส่งเสริมผลักดันการสร้างช่องทางให้กับผู้ประกอบการ SMEs ระหว่างกรมส่งเสริมอุตสาหกรรม และบริษัท ตลาดต่อยอด เออีซี จำกัด ณ อาคารเอ็มไพร์ทาวเวอร์ กรุงเทพฯ
สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจรายละเอียด สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักพัฒนาการจัดการอุตสาหกรรม กรมส่งเสริมอุตสาหกรรม โทรศัพท์ 0 2 202 4525 , 4538 หรือ www.dip.go.th