นายแพทย์วิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานบริษัทอินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC เปิดเผยว่า ล่าสุดตนเองได้พูดคุยกับกองทุน แมคคิวรี่ (Macquarie) กองทุนขนาดใหญ่จากประเทศออสเตรเลียเพื่อให้เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกับตนเองในการพลิกฟื้น IFEC ให้กลับมาแข็งแกร่งอีกครั้ง ซึ่งแมคคิวรี่ ถือเป็นกองทุนที่ลงทุนในธุรกิจพลังงานทดแทนโดยเฉพาะ
นอกจากนี้ยังมี กลุ่มเพลินจิต แคปปิตอล บริษัทที่ได้ชื่อว่ามีประสบการณ์ชั้นเซียนในการบริหารจัดการหนี้ ก็ตกลงเข้ามาพันธมิตรเช่นกัน โดยได้ส่งตัวแทน คือนายสายันห์ สุพร เข้าร่วมเป็นกรรมการด้วย ซึ่งการเป็นพันธมิตรครั้งนี้ยังหมายถึงอนาคตกลุ่มเพลินจิต จะใช้ประสบการณ์ทั้งในและต่างประเทศ คัดสรรพันธมิตรเข้ามาเสริมความแข็งแกร่งทางการเงินให้กับ IFEC อีกด้วย
ขณะเดียวกันยังได้รับข่าวดีจากบริษัท โกล์ดวิน เข้าซื้อหุ้นในบริษัทลูกของ IFEC ที่ดำเนินธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานนลม ในอัตรา 30 เปอร์เซ็นต์ รวมมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งบริษัทโกล์ดวิน เป็นธุรกิจผลิตกังหันลมที่ใช้ในการผลิตกระแสไฟฟ้ารายใหญ่อันดับ 1 ของโลก
"ตอนนี้พันธมิตรของผมในนาม IFEC ถือว่าแข็งแกร่งมาก มีทั้งด้านการเงิน ด้านการบริหารจัดการหนี้ และด้านเทคโนโลยี ผมจึงมั่นใจที่จะเปิดแผน IFEC Smart Forward หมายถึงการก้าวเดินต่อไปข้างหน้าอย่างสง่างาม"
สำหรับแผนการบริหารจัดการหนี้ ซึ่งขณะนี้มีอยู่ทั้งสิ้นราว 6,500 ล้านบาท ตนเองยังยืนยันที่จะขายโรงแรมดาราเทวี ซึ่งขณะนี้มีผู้ตกลงซื้อแน่นอนแล้ว มูลค่าไม่ต่ำกว่า 4,500 – 5,000 ล้านบาท รวมกับเงินที่ได้จากการขายหุ้นในกิจการกังหันลมผลิตไฟฟ้าให้กับโกล์ดวิน อีกกว่า 1,000 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับหนี้สินของบริษัทจะหมดลงไป
นายแพทย์วิชัย ยังกล่าวอีกว่า หลังจากบริษัทแก้ปัญหาหนี้สินแล้ว ยังมีโครงการใหม่ๆเกิดขึ้นภายใต้ความร่วมมือของพันธมิตร เช่น โครงผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมที่ประเทศบังคลาเทศ และโครงการอื่นๆในประเทศแถบอาเซียนที่จะตามมาอีก โดยเชื่อว่ารายได้ของบริษัทในปีนี้รวมแล้ว 500-600 ล้านบาท และจะเพิ่มขึ้นในปีต่อๆตามโครงการใหม่ที่เกิดขึ้นอนึ่งปัจจุบันบริษัทมีโครงสร้างรายได้ จากโครงการโซล่าเซลล์ ปีละ 360 ล้านบาท โครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานลมปีละ120 ล้านบาท โครงการผลิตไฟฟ้าชีวมวลปีละ 24 ล้านบาทโดยรายได้บวกลบ 10-20 เปอร์เซ็นต์ตามสภาพแวดล้อมแสง-ลม และวัตถุดิบที่ใช้ในการผลิตไฟฟ้า
"ผมมั่นใจในแผน IFEC Smart Forward ว่าจะนำพาบริษัทเติบโตอย่างยั้งยืน แต่ต้องทำบริษัทให้มีความโปร่งใส มีธรรมาภิบาลเสียก่อน ซึ่งขณะนี้คดีต่างๆที่บริษัทยื่นสอบและฟ้องศาลไปมีความคืบหน้าพอสมควร ผมยืนยันว่าการที่บริษัทจะเติบโตและเข้มแข็งได้ ผู้บริหารจะต้องมีความเข้าใจในธุรกิจพลังงานทดแทน และต้องเป็นบริษัทที่มีธรรมภิบาลเท่านั้น" นายแพทย์วิชัย กล่าว