นายศาศวัต ศิริสรรพ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท สหกลอิควิปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ SQ เปิดเผยว่า "บริษัทฯ ได้ดำเนินกลยุทธ์ขยายตลาดในภูมิภาค CLMV อันประกอบด้วย กัมพูชา ลาว เมียนมาร์ และเวียตนามอย่างต่อเนื่อง และเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2560 บริษัทได้เซ็นสัญญาจ้างเหมาผลิตแร่ดีบุก ที่เหมืองดีบุก จังหวัดทวาย สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ซึ่งเป็นงานรับทำเหมืองดีบุกแบบครบวงจร ตั้งแต่งานขุดขนหน้าดิน งานขุดขนแร่ดิบ งานบริหารการแต่งแร่ และงานขนหางแร่จากโรงแต่งแร่ ไปที่ทิ้งดิน ให้กับบริษัท เมียนมาร์ พงษ์พิพัทธ์ จำกัด มูลค่าสัญญา 3,672 ล้านบาท ระยะเวลา 7 ปี โดยมีปริมาณการผลิตแร่ดีบุกปีละประมาณ 2,100 ตัน ซึ่งแหล่งดีบุกแห่งนี้ จากการสำรวจทางธรณีวิทยาพบว่า เป็นแหล่งดีบุกขนาดใหญ่ของโลกแห่งหนึ่งที่มีปริมาณแร่ดีบุกจำนวนมาก รองรับการทำเหมืองอีกกว่า 30 ปี
โดยการรับงานโครงการเหมืองดีบุกนี้ เป็นความสำเร็จของ SQ ในการเปิดตลาดงานเหมืองในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ซึ่งมีทรัพยากรธรรมชาติหลายประเภทและทำให้ปริมาณงานในมือของ บริษัทฯ เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 40,000 ล้านบาท โดยจะทยอยรับรู้ไปอีก 10 ปี ซึ่งประกอบด้วย งานเหมืองถ่านหินแม่เมาะสัญญา 8 และสัญญา 7 กับ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย งานเหมืองถ่านหินหงสาในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) กับบริษัทไฟฟ้า หงสา จำกัดในกลุ่ม บมจ. บ้านปู พาวเวอร์ และ งานรับสัมปทานเหมืองแร่ดีบุก"
สำหรับผลประกอบการในช่วง 9 เดือนแรกของปี 2559 ตั้งแต่เดือนมกราคม-กันยายน บริษัทฯ มีรายได้รวมจากการให้บริการรวม 1,999 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 68.8% และทำให้บริษัทมีกำไรในช่วง 9 เดือนแรกเพิ่มขึ้นเป็น 146.7 ล้านบาท จากขาดทุนในช่วงเดียวกันปีที่แล้ว 22.7 ล้านบาท
บมจ.สหกลอิควิปเมนท์ หรือ SQ เป็นผู้ให้บริการและดำเนินงานด้านการทำเหมืองแร่อย่างครบวงจร เพียงรายเดียวของไทยที่มีประสบการณ์ในการบริหารงานเหมืองด้วยเครื่องจักรขนาดใหญ่มากกว่า 34 ปี มีทุนจดทะเบียน 1,150 ล้านบาท ราคาหุ้น พาร์ละ 1 บาทและมีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่น้อยกว่าร้อยละ 40 ของกำไรสุทธิหลังหักภาษีและหักสำรองตามกฎหมาย