นายวรชาติ ทวยเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฟินเน็กซ์ แอ๊ดไวเซอรี่ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน (FA) บริษัท บูรพา เทคนิคอล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ ETE ผู้ให้บริการ บริหารจัดการบุคลากร และระบบงานธุรกิจ ในรูปแบบ Outsourcing บริการงานวิศวกรรมระบบไฟฟ้า และระบบโทรคมนาคม รวมถึงธุรกิจโรงไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ เปิดเผยว่าการเสนอขายหุ้น IPO ของ ETE ในระหว่างวันที่ 7-9 กุมภาพันธ์2560ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนทั่วประเทศ โดยมีผู้สนใจเข้าจองซื้อหุ้น IPO สูงกว่าจำนวนที่หุ้นที่เสนอขายจำนวน140ล้านหุ้นในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินมั่นใจว่า ETEมีพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่ง และทั้ง 3 ธุรกิจของ ETE ถือว่าเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบได้อย่างต่อเนื่องในอนาคต โดย ETE จะเข้าทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ในวันที่ 15กุมภาพันธ์2560 ซึ่งคาดว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุนอย่างต่อเนื่อง
"การเปิดจองหุ้น ETE ใน 3วันที่ผ่านมาได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากจากนักลงทุนทั่วประเทศ ที่เข้าจองซื้อหุ้นจนสูงกว่าจำนวนที่เสนอขาย ซึ่งก็เป็นเพราะความมั่นใจต่อพื้นฐานบริษัทที่แข็งแกร่ง และแผนการขยายธุรกิจที่ชัดเจน เพื่อรองรับการเติบโตในอนาคตของทั้ง 3 ธุรกิจ ที่สำคัญ ETE มีความเชี่ยวชาญ และมีประสบการณ์ในการเป็นผู้ให้บริการงานระบบ Outsourcing และการให้บริการงานวิศวกรรม รวมถึงธุรกิจพลังงานทดแทน ทำให้เรามั่นใจว่าในการเข้าซื้อขายวันแรกของหุ้นETE วันแรกจะมีกระแสตอบรับที่ดี และคาดหวังว่านักลงทุนจะให้ความสนใจหุ้นของ ETEอย่างต่อเนื่อง" นายวรชาติกล่าว
นายโชษิต เดชวนิชยนุมัติ กรรมการผู้จัดการ สายวาณิชธนกิจ1 บริษัทหลักทรัพย์ แอพเพิล เวลธ์ จำกัด (มหาชน)ผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น ETE กล่าวว่า การเสนอขายหุ้นของ ETE ในระหว่างวันที่ 7-9 กุมภาพันธ์ 2560 ที่ผ่านมา จำนวน 140 ล้านหุ้น ราคาเสนอขายหุ้นละ 4.20 บาท มูลค่าที่ตราไว้ 0.50 บาท ได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน โดยราคาหุ้นที่เสนอขายมีความเหมาะสมกับพื้นฐานที่แข็งแกร่ง และสอดคล้องกับแผนการขยายธุรกิจเพื่อการเติบโตในอนาคต
"จากราคาไอพีโอที่หุ้นละ4.20 บาท และจำนวนหุ้นที่เสนอขาย 140 ล้านหุ้น มีความเหมาะสมกับพื้นฐานธุรกิจที่แข็งแกร่งและการเติบโตอย่างยั่งยืนในอนาคต ซึ่งราคาที่เสนอขายดังกล่าวถือว่ามีโอกาสสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน" นายโชษิตกล่าว
นายชยันต์ อัคราทิตย์ กรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด ผู้จัดการร่วมในการจัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น ETE เปิดเผยถึงยอดการจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนที่จำหน่ายให้ประชาชนครั้งแรก(IPO) ของหุ้น ETE โดยนักลงทุนให้การตอบรับอย่างล้นหลาม แสดงความต้องการจองซื้อหุ้นเกินกว่าจำนวนที่จัดสรร โดยสามารถกระจายหุ้นให้กับนักลงทุนราย่อยได้เป็นจำนวนมาก สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนมีความเชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานและศักยภาพในการเติบโตของบริษัทฯ "นักลงทุนให้การตอบรับหุ้น ETE อย่างน่าประทับใจ โดยสามารถกระจายหุ้นถึงมือนักลงทุนได้จำนวนมาก แสดงให้เห็นว่านักลงทุนมีความมั่นใจในหุ้น ETE เชื่อมั่นในปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ศักยภาพการดำเนินธุรกิจ แนวโน้มในการเติบโตที่ชัดเจน โดยหุ้น ETE จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ ในวันที่ 15 ก.พ.นี้ มั่นใจจะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน" นายชยันต์กล่าว
นายไรวินท์ เลขวรนันท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บูรพา เทคนิคอล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือETE กล่าวว่า บริษัทดำเนินธุรกิจหลักๆใน 3 ลักษณะประกอบไปด้วย 1.ธุรกิจให้บริการบริหารจัดการ (Management Service หรือ MS) แบ่งเป็นงานบริหารจัดการบุคลากร (Manpower Management หรือ MM) และงานบริหารจัดการระบบงานธุรกิจ (Business Process Outsourcing หรือ BPO) และงานบริหารจัดการรถเช่าพร้อมพนักงานขับรถ (Car Rental management หรือ CM) 2.ธุรกิจให้บริการงานวิศวกรรม (Engineering Service หรือ EN) ประกอบด้วยงานวิศวกรรมระบบไฟฟ้า (Electrical Power Engineering System หรือ EE) และงานวิศวกรรมระบบโทรคมนาคม (Telecommunication Engineering System หรือ TL) และ 3.ธุรกิจพลังงานทดแทนจากพลังงานแสงอาทิตย์ (Solar Energy หรือ SE) โดยมีโครงการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์แบบติดตั้งบนพื้นดินสำหรับหน่วยงานราชการ และสหกรณ์ภาคการเกษตร จำนวน 4 โครงการ กำลังการผลิตรวมทั้งสิ้น 16.47 เมกะวัตต์ ได้แก่ 1.สหกรณ์การเกษตรเมืองตราด จำกัด อ.เมือง จ.ตราด กำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ 2.สหกรณ์การเกษตรวัฒนานคร จำกัด อ.วัฒนานคร จ.สระแก้ว กำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ 3.สหกรณ์การเกษตรบางสะพานน้อย จำกัด อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ กำลังการผลิต 5 เมกะวัตต์ 4.สหกรณ์การเกษตรนิคมฯ คลองน้ำใส จำกัด อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว กำลังการผลิต 1.47 เมกะวัตต์ โดยทั้ง 4 โครงการดำเนินการจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบเชิงพาณิชย์ หรือ CODเป็นที่เรียบร้อยตั้งแต่เดือนธันวาคม 2559 และเริ่มรับรู้รายได้จากธุรกิจไฟฟ้าพลังงานทดแทนตั้งแต่เดือนมกราคม 2560 เป็นต้นไป โดยมีอายุของสัญญาซื้อขายไฟ 25 ปี
ทั้งนี้บริษัท บูรพา เทคนิคอล เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) มีบริษัทย่อยอีก 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท อีทีอี เมเนจเมนท์ จำกัด หรือ ETEM มีทุนจดทะเบียน 80 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจบริการบริหารจัดการ และธุรกิจพลังงานทดแทนจากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งบริษัทถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 99.27 และบริษัท ไทย สปีดี้เมเนจเมนท์ จำกัด หรือ TSDMมีทุนจดทะเบียน 30 ล้านบาท ดำเนินธุรกิจบริหารจัดการรถเช่าพร้อมพนักงานขับนรถ
"การระดมทุนในครั้งนี้จะช่วยให้ ETE มีศักยภาพทางธุรกิจที่สูงขึ้น และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมถึงขยายโอกาสในการพัฒนาธุรกิจใหม่ ๆ ในอนาคต ซึ่งเราหวังว่า ETE จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน โดยทีมผู้บริหารมีความมุ่งมั่นที่จะมองหาโอกาสในการขยายธุรกิจอย่างไม่หยุดยั้ง และสร้างการเติบโตให้กับ ETE อย่างมั่นคง และยั่งยืน เพื่อสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต ซึ่งเรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่นักลงทุนให้การตอบรับเป็นอย่างดีในช่วงจองซื้อหุ้นที่ผ่านมา" นายไรวินท์กล่าว
ขณะที่ผลการดำเนินงานในปี 2557 บริษัทฯมีรายได้รวมทั้งหมด 1,143.19 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 18.78 ล้านบาท และผลประกอบการในปี 2558 บริษัทฯมีรายได้รวมทั้งหมด 1,594.47 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 64.64 ล้านบาท ส่วนผลประกอบการ 9 เดือนประจำปี 2559 สิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2559 บริษัทฯมีรายได้รวมทั้งหมด 1,061.46 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 19.36 ล้านบาท