ภายในงานได้รับเกียรติจาก นางกอบลาภ โปษะกฤษณะ นายกสมาคมนักเรียนเก่าสวิสส์ ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ร่วมด้วย ฯพณฯ อีโว ซีเบอร์ (H.E. Mr. Ivo Sieber) เอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย กล่าวเปิดงาน โดยมีผู้แทนจากภาคธุรกิจและชุมชนชาวสวิสในประเทศไทย รวมทั้งผู้มีเกียรติมาร่วมงานกันอย่างคับคั่ง กิจกรรมภายในงานประกอบไปด้วยนิทรรศการพระราชประวัติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 ขณะที่ทรงประทับในประเทศสวิตเซอร์แลนด์และภาพหายาก ตลาดนัดสินค้าดังจากสวิส อาทิ มีดสวิส กาแฟ ช็อคโกแลต ชีส ไวน์ เป็นต้น และที่เป็นหนึ่งในไฮไลท์ของงานคือการบรรยายโดย นายเอกธนา ฝ่ายซ้ายคราม กรรมการฝ่ายการศึกษาและปฏิคมของสมาคมนักเรียนเก่าสวิสส์ ในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจ้าพี่นางเธอเจ้าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ผู้ที่มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับสวิตเซอร์แลนด์อย่างถ่องแท้เป็นอันดับ 2 รองจากเอกอัครราชทูตสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย ในหัวข้อจุดเด่นของระบบการศึกษาสวิส รูปแบบการเรียนการสอน และ เหตุใดการศึกษาสวิสจึงเป็นหนึ่งใน "ที่สุดของโลก" พร้อมกับเป็นผู้จับรางวัลและแจกให้กับผู้โชคดีที่มาร่วมในงานนี้อีกด้วย
นายเอกธนา ฝ่ายซ้ายคราม กรรมการฝ่ายการศึกษาและปฏิคมสมาคมนักเรียนเก่าสวิสส์ ในพระอุปถัมภ์ฯ กล่าวว่า "ก่อนอื่นเลยผมรู้สึกดีใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของงานนี้และที่สำคัญผมได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการศึกษาต่อที่ประเทศสวิตเซอร์แลนด์สำหรับผู้ปกครองที่สนใจจะส่งบุตรหลานไปศึกษาต่อ ที่สำคัญผมและทางสมาคมก็ได้แจกทุนจำนวน 2 ทุนสำหรับผู้โชคดีที่มาร่วมงาน ซึ่งได้แล้ว 2 คน คือ ด.ช. พระนาย สายอุบล อายุ 13 ปี ปัจจุบันเรียนอยู่ ม.1 โรงเรียนจิตรลดา และ ด.ช. พิตตินันทร์ เดชสาหร่าย อายุ 9 ปี ปัจจุบันเรียนอยู่ เกรด 3 โรงเรียนBangkok Adventist International School โดยทุนนี้เป็นทุน Summer Camp สำหรับเด็กอายุ 8-15 ปี เป็นระยะเวลา 2 สัปดาห์ ที่ St. George's International School Switzerland โรงเรียนนี้เป็นโรงเรียนประจำชื่อดัง ตั้งอยู่ที่เมืองมองเทรอซ์ ซึ่งโปรแกรมจะแบ่งเป็นสองช่วงในแต่ล่ะวัน วันจันทร์-ศุกร์ ช่วงเช้าจะได้เรียนภาษา โดยน้องๆ สามารถเลือกได้ 1 ภาษา เช่น ภาษาอังกฤษ ภาษาฝรั่งเศส ภาษาเยอรมัน และ ภาษาจีน ในช่วงบ่ายก็จะแบ่งเป็นสองกลุ่มกิจกรรม โดยสามารถเลือกเป็น Mountain Camp หรือ Lake Camp ซึ่งตรงนี้ ทางโรงเรียนจะมีกิจกรรมหลากหลายให้น้องเลือกตามช่วงอายุ และมีผู้เชี่ยวชาญดูแลอย่างใกล้ชิด นอกจากนี้ก็มีกิจกรรม การแสดง ศิลปะ กีฬา และอื่นๆ อีกมากมาย ส่วน วันเสาร์-อาทิตย์ น้องๆ จะได้ไปทัศนศึกษาแบบ One Day Trip ไปสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในประเทศสวิตเซอร์แลนด์หรือประเทศฝรั่งเศสโดยรถไฟ ส่วนในเรื่องของช่วงระยะเวลาที่ไปศึกษาจะให้น้องที่ได้ทุนเลือกช่วงเวลาระหว่างวันที่ 3 - 16 กรกฎาคม หรือ 17 – 30 กรกฎาคม โดยรวมค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเรียน และกิจกรรมต่างๆ ตลอดหลักสูตร แต่ไม่รวมค่าเครื่องบิน ค่าทำวีซ่า และค่าใช้จ่ายส่วนตัว หลังจากที่น้องๆ เรียนจบหลักสูตร Summer Camp แล้วนั้นทางสมาคมไม่ได้มีเงื่อนไขใดๆ กับตัวน้องๆ นอกจากต้องการให้น้องๆ ได้นำความรู้ และประสบการณ์ที่ได้มานั้นมาพัฒนาการศึกษาเพื่อต่อยอดไปสู่อนาคตของตัวเองครับ"