นายชัชชัย สฤษดิ์อภิรักษ์ รองกรรมการผู้จัดการและประธานบริหารการลงทุนตราสารหนี้ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน กสิกรไทย จำกัด (บลจ. กสิกรไทย) เปิดเผยว่า ในวันที่ 14-20 กุมภาพันธ์ 2560 บลจ. กสิกรไทย จะเสนอขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ไทย 32 เดือน เอ (KTF32MA) ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนคาดว่าจะได้รับที่ 2.10% ต่อปี โดยกองทุนดังกล่าวมีอายุโครงการประมาณ 2 ปี 8 เดือน เหมาะเป็นทางเลือกสำหรับผู้ลงทุนที่สามารถลงทุนได้ยาวขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น และสามารถยอมรับความเสี่ยงได้ปานกลางถึงต่ำ
กองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ไทย 32 เดือน เอ (KTF32MA) จะเน้นการลงทุนในหุ้นกู้ชั้นนำของบริษัทในประเทศไทย โดยเบื้องต้นจะลงทุนในหุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัท อีซี่ บาย จำกัด (มหาชน), หุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งหุ้นกู้ทั้งสองได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก Fitch ประเทศไทย ที่ระดับ AA+ และ A- ตามลำดับ นอกจากนี้ยังลงทุนในหุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัท น้ำตาลมิตรผล จำกัด, หุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) และหุ้นกู้ที่ออกโดยบริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ซึ่งทั้งหมดได้รับการจัดอันดับความน่าเชื่อถือจาก TRIS ที่ระดับ A+, A และ A- ตามลำดับ ทั้งนี้กองทุนดังกล่าวจะมีการจ่ายผลตอบแทนโดยการรับซื้อคืนหน่วยลงทุนอัตโนมัติทุกๆ 6 เดือน
ด้านมุมมองตลาดตราสารหนี้ไทย นายชัชชัยกล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยของไทยน่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำต่อเนื่อง โดยคาดว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) น่าจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายจนถึงสิ้นปี 2560 เนื่องจากเศรษฐกิจไทยยังคงขยายตัวอย่างช้าๆ ทั้งนี้ยังมีปัจจัยเสี่ยงจากภายนอกประเทศ ทั้งจากนโยบายของสหรัฐฯ จังหวะการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ในปีนี้ รวมถึงความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกที่ยังมีอยู่สูง ซึ่งอาจส่งผลทำให้ตลาดตราสารหนี้เกิดความผันผวนในระยะสั้น ดังนั้น บลจ.กสิกรไทยจึงแนะนำให้ผู้ลงทุนที่สามารถลงทุนได้ในระยะยาว และสามารถรับความเสี่ยงได้ในระดับปานกลางถึงต่ำ อาจเลือกล็อกผลตอบแทนกับกองทุนตราสารหนี้ประเภทกำหนดอายุโครงการที่มีกำหนดระยะเวลาลงทุนยาวนานขึ้น เพื่อสร้างโอกาสรับผลตอบแทนที่สูงขึ้น
นายชัชชัยกล่าวต่อไปว่า นอกเหนือจากกองทุน KTF32MA ดังกล่าวแล้ว เพื่อเป็นทางเลือกให้กับผู้ลงทุนที่ต้องการลงทุนในระยะเวลา 3-6 เดือน ในระหว่างวันที่ 14-20 กุมภาพันธ์ 2560 บลจ.กสิกรไทยยังเปิดเสนอขายกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 6 เดือน ซีที (KFF6MCT) ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนคาดว่าจะได้รับที่ 1.50% ต่อปี และกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ต่างประเทศ 3 เดือน เอดับบลิว (KFF3MAW) ประมาณการผลตอบแทนที่ผู้ถือหน่วยลงทุนคาดว่าจะได้รับที่ 1.40% ต่อปี โดยทั้ง 2 กองทุนดังกล่าวมีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งจำนวน และสำหรับผู้ลงทุนบุคคลธรรมดาไม่ต้องเสียภาษี
สำหรับกองทุน KFF6MCT ที่มีอายุโครงการ 6 เดือน เบื้องต้นคาดว่าจะเข้าไปลงทุนในเงินฝาก Commercial Bank of Qatar,เงินฝาก Al Khaliji Commercial Bank, ประเทศกาตาร์ และเงินฝาก Union National Bank ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นอกจากนี้ยังคาดว่าจะลงทุนในเงินฝาก Bank of China, เงินฝาก Agricultural Bank of China และเงินฝาก China Construction Bank Corporation ด้านกองทุน KFF3MAW ที่มีอายุโครงการ 3 เดือน เบื้องต้นคาดว่าจะลงทุนในเงินฝาก Commercial Bank of Qatar, เงินฝาก Al Khaliji Commercial Bank, ประเทศกาตาร์, เงินฝาก Union National Bank ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, เงินฝาก Bank of China, เงินฝาก Agricultural Bank of China และเงินฝาก China Construction Bank Corporation เช่นเดียวกัน
ทั้งนี้ บลจ.กสิกรไทย ยังได้เพิ่มโอกาสรับผลตอบแทนต่อเนื่องให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนกับกองทุนตราสารหนี้แบบที่มีกำหนดอายุโครงการ (Fixed Term Fund) ของบลจ.กสิกรไทย ซึ่งเมื่อกองทุนครบกำหนดอายุโครงการ บริษัทจัดการจะนำเงินค่าขายคืนอัตโนมัติไปซื้อหน่วยลงทุนที่ผู้ลงทุนเลือกได้กองทุนใดกองทุนหนึ่งใน 3 กองทุน คือ กองทุนเปิดเค ตลาดเงิน (K-MONEY) กองทุนเปิดเค ตราสารรัฐระยะสั้น (K-TREASURY) หรือกองทุนเปิดเค ตราสารหนี้ระยะสั้น (K-SF) ของบลจ.กสิกรไทย
ผู้ที่สนใจสามารถลงทุนกับกองทุน KTF32MA, กองทุน KFF6MCT และกองทุน KFF3MAW ได้ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 500 บาท และสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมและขอรับหนังสือชี้ชวนเสนอขายได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขา หรือสอบถาม KAsset Contact Center 0 2673 3888