ด้วยเจตนารมณ์ที่จะส่งเสริมให้เกิดการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน หรือ กกพ. ได้จัดทำ "ข้อบังคับว่าด้วยหลักเกณฑ์การจัดทำข้อกำหนดเกี่ยวกับการเปิดให้ใช้หรือเชื่อมต่อระบบส่งก๊าซธรรมชาติและสถานีแอลเอ็นจีแก่บุคคลที่สาม" หรือ "TPA Regime" และได้มีการพิจารณาข้อกำหนดเกี่ยวกับการเปิดให้ใช้หรือเชื่อมต่อระบบส่งก๊าซธรรมชาติและสถานีแอลเอ็นจีแก่บุคคลที่สาม หรือ "TPA Code" ของผู้รับใบอนุญาตที่เป็นเจ้าของระบบท่อส่งก๊าซฯ และผู้รับใบอนุญาตที่เป็นเจ้าของสถานีแอลเอ็นจี เพื่อให้เป็นกฎเกณฑ์ที่เป็นธรรมและเสมอภาค
ต่อมาภาครัฐได้เห็นชอบแผนการขยายโครงสร้างพื้นฐานในกิจการก๊าซธรรมชาติเพื่อให้สอดคล้องกับแผนบริหารจัดการก๊าซธรรมชาติระยะยาวปี พ.ศ. 2558-2579 อาทิ การก่อสร้างระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติเส้นที่ 5 การขยายสถานีแอลเอ็นจีเพิ่มเติมอีก 1.5 ล้านตันต่อปี รวมถึงการก่อสร้างสถานีแอลเอ็นจีแห่งใหม่สำหรับรองรับกำลังการแปรสภาพ LNG อีก 7.5 ล้านตันต่อปี เพื่อรองรับความต้องการก๊าซธรรมชาติที่เพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งในระยะถัดไป ผู้รับใบอนุญาตซึ่งเป็นเจ้าของระบบโครงข่ายก๊าซธรรมชาติดังกล่าวจะต้องเปิดให้บุคคลที่สามเข้ามาจองใช้ระบบท่อส่งก๊าซธรรมชาติและสถานีแอลเอ็นจี (Open Season) ดังกล่าวด้วย
"ในการนี้ กกพ. คาดว่าจะมีผู้ประกอบกิจการก๊าซธรรมชาติรายใหม่ที่สนใจเข้าใช้หรือเชื่อมต่อระบบส่งก๊าซธรรมชาติ หรือสถานีแอลเอ็นจี เพื่อให้ทั้งระบบท่อฯ และสถานีแอลเอ็นจีมีการใช้งานอย่างเต็มสมรรถนะและมีประสิทธิภาพ ทำให้เกิดการแข่งขันในกิจการก๊าซธรรมชาติ และมีความโปร่งใส ภายใต้กฎเกณฑ์ที่ให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย เพื่อให้ผู้ใช้พลังงานได้รับประโยชน์สูงสุด" นายพรเทพ ฯ กล่าวในตอนท้าย