นางสาวพิมพ์ผกา นิจการุณ กรรมการผู้จัดการธุรกิจนายหน้าค้าหลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ ธนชาต จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท โรงพยาบาลราชพฤกษ์ จำกัด (มหาชน) หรือ RPH เปิดเผยว่า ผลการเปิดจองซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก(ไอพีโอ) จำนวน 163.78 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ (พาร์) หุ้นละ 1 บาทในราคาหุ้นละ4.80บาท ระหว่างวันที่15-17 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ปรากฏว่าได้รับความสนใจเป็นอย่างดี มียอดจองซื้อมากกว่าจำนวนหุ้นทั้งหมดที่ออกเสนอขาย
สำหรับหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก(ไอพีโอ) จำนวน 163.78 ล้านหุ้น แบ่งเป็นเสนอขายให้กับประชาชนจำนวน155.78 ล้านหุ้น และเสนอขายให้กับกรรมการ ผู้บริหารและพนักงานของบริษัทจำนวน 8 ล้านหุ้น ทั้งนี้คาดว่าหุ้นRPH จะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) หมวดธุรกิจ Healthcare ในวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2560 นี้
"แม้หุ้นRPH จะเป็นหุ้นไซด์ไม่ใหญ่มาก แต่นักลงทุนสถาบันให้ความสนใจค่อนข้างมาก ถือเป็นสัญญาณบวกสะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อ RPH" นางสาวพิมพ์ผกา กล่าว
นางสาวพิมพ์ผกา กล่าวต่อว่า โรงพยาบาลราชพฤกษ์ หรือ RPH ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเอกชนที่มีฐานผู้ใช้บริการประมาณ 4 แสนราย และให้การดูแลคนป่วยได้อย่างมีศักยภาพมายาวนานกว่า 22 ปี ประกอบกับมีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งและมีผลประกอบการเติบโตอยู่ในทิศทางที่ดีมาโดยตลอด และด้วยแผนธุรกิจในอนาคตที่เตรียมสร้างโรงพยาบาลแห่งใหม่ซึ่งจะขยายฐานไปยังกลุ่มผู้รับบริการระดับบนได้เพิ่มขึ้น จะมีส่วนสำคัญในการผลักดันรายได้และกำไรของRPH ให้เติบโตอย่างมีนัยสำคัญ ผนวกกับทีมผู้บริหารและทีมแพทย์มีประสบการณ์และเดินหน้าพัฒนาโรงพยาบาลอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้มั่นใจว่าหุ้น RPH จะเป็นหุ้นน้องใหม่ที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนได้ในอนาคต
ด้าน นายแพทย์ธีระวัฒน์ ศรีนัครินทร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โรงพยาบาลราชพฤกษ์ จำกัด(มหาชน) หรือ RPH กล่าวว่า กระแสตอบรับจากนักลงทุนดีเกินกว่าที่คาด โดยราคาไอพีโอที่ 4.8 บาทเป็นระดับราคาที่นักลงทุนสถาบันแสดงความประสงค์จะจองซื้อเกินกว่าจำนวนที่จัดสรรกว่า 10 เท่า ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ทำให้นักลงทุนสถาบันให้ความสนใจจองซื้อหุ้น IPO ของบริษัทอย่างล้นหลาม เนื่องจากเชื่อมั่นปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง ผลประกอบการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทเตรียมนำเงินที่ได้จากการขายหุ้นไอพีโอในครั้งนี้จำนวน 786 ล้านบาท ไปใช้ในโครงการก่อสร้างอาคารโรงพยาบาลใหม่กว่า 200 เตียง รวมถึงอุปกรณ์ทางการแพทย์ รองรับการขยายธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจการแพทย์และบางส่วนจะนำไปใช้สำหรับเป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ
"ในฐานะผู้บริหารของโรงพยาบาลผมรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่นักลงทุนให้ความสนใจจองซื้อหุ้นไอพีโอเข้ามาเป็นจำนวนมาก นับเป็นหนึ่งในปัจจัยหลักที่จะทำให้บริษัทมีความพร้อมที่จะเติบโตอย่างต่อเนื่อง และก้าวสู่การเป็นผู้นำในธุรกิจโรงพยาบาลเอกชนในจังหวัดขอนแก่นได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน" นายแพทย์ธีระวัฒน์ กล่าว