นอกจากนั้นบริษัทยังมี เงินในการลงทุนโครงการเดิม ซึ่งต้องใช้เงินสำหรับการก่อสร้าง อีก ประมาณ 1,500-2,000 ล้าน บาท หากแล้วเสร็จจะสร้างราย ได้ให้กับบริษัทในอนาคต แต่ หากไม่ทำต่อ ทรัพย์สินจะด้อย ค่าลงมาก ทำให้ไม่มีเงินเพียง พอในการชำระหนี้ ในที่สุด บริษัทจะไม่สามารถดำเนินธุรกิจ ต่อไปได้
การที่บริษัทไม่ตกเป็นผู้ ผิดนัดตามคำพิพากษาของศาล และการเพิ่มทุนสำเร็จ จะทำให้ บริษัทมีเครดิตกับสถาบันการ เงินเพิ่มขึ้น และสามารถขอสิน เชื่อได้ในระยะยาว พร้อมมีฐาน ทุนที่ใหญ่และเข้มแข็งขึ้น สำหรับที่ดินหลักประกัน ที่จะซื้อกลับจากธนาคารกรุงไทย นั้น บริษัทยังไม่มีความจำเป็น ต้องขายทันที เนื่องจากจะได้ ราคาที่ค่อนข้างต่ำ สามารถ พัฒนาเพื่อขายในอนาคตได้ บริษัทเชื่อว่าที่ดินดังกล่าว คงมีศักยภาพเพิ่มขึ้นอย่าง แน่นอน
"การเพิ่มทุนครั้งนี้ ทำให้ บริษัท เอคิวฯจะมีโครงสร้างทุน และฐานะทางการเงินที่แข็งแรง รวมถึงเงินทุนหมุนเวียนสามารถ รองรับการขยายธุรกิจในอนาคต แต่แผนธุรกิจยังมีความไม่แน่นอน และอาจจะเปลี่ยนแปลงไปได้ ขึ้นอยู่กับความสามารถในการ ระดมทุนในครั้งนี้" บริษัทเอคิวฯ ระบุ