นายระเฑียร ศรีมงคล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร "เคทีซี" หรือ บริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ธุรกิจท่องเที่ยวของไทยในปัจจุบันมีแนวโน้มการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยภาครัฐมีส่วนสำคัญในการกระตุ้นและผลักดันให้เศรษฐกิจท่องเที่ยวไทยมีการพัฒนายิ่งขึ้น และเพื่อเป็นการตอบสนองนโยบายของรัฐบาล ให้ภาคเอกชนได้มีส่วนร่วมในการช่วยกันผลักดันให้เศรษฐกิจท่องเที่ยวได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง ทางเคทีซีในฐานะของผู้จัดโครงการ "Thailand Boutique Awards Season 4 (2016-2017)" มีความมุ่งมั่นที่จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ธุรกิจโรงแรมบูติกและธุรกิจท่องเที่ยวเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งจากการที่โครงการ Thailand Boutique Awards ได้รับรางวัล PATA Gold Awards 2016 ในหมวดอุตสาหกรรมการตลาด และมีการขยายผลจากโรงแรมบูติกที่เข้าร่วมประกวดในโครงการฯ ในการร่วมก่อตั้งสมาคมการค้าธุรกิจที่พักบูติกไทยในปี 2559 เป็นการยืนยันถึงความตั้งใจของเคทีซีในการที่จะช่วยพัฒนาศักยภาพการทำธุรกิจโรงแรมบูติกให้เข้มแข็งและต่อยอดธุรกิจท่องเที่ยวในเชิงคุณภาพอย่างเต็มที่"
"สำหรับโครงการ "Thailand Boutique Awards Season 4 (2016-2017)" การประกวดสุดยอดโรงแรมบูติกไทยครั้งที่ 4 นี้ เคทีซีได้ร่วมกับสายการบินบางกอกแอร์เวย์ส และมาสเตอร์การ์ด ซึ่งเป็นพันธมิตรหลัก รวมถึงได้รับการสนับสนุนจากสื่อพันธมิตรสำคัญ ได้แก่ แทรเวล แชนแนล ไทยแลนด์ และ ทรูยู นอกจากนี้ ยังได้รับเกียรติจากคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิหลากหลายสาขาจำนวน 13 ท่าน ร่วมทำการตัดสิน โดยได้พัฒนาหลักเกณฑ์การตัดสินให้เข้มข้น และสอดคล้องกับอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและโรงแรมไทยมากขึ้น สำหรับการประกวดครั้งนี้ มีจำนวนโรงแรมบูติกขนาด 3-80 ห้อง เข้าร่วมประกวดกว่า 100โรงแรมทั่วประเทศ ภายใต้คอนเซปต์หลัก "Colours of Thai" เน้นสีสันที่หลากหลายของความเป็นไทย ทั้งในด้านการบริการ การนำวัตถุดิบไทยๆ มาประยุกต์ และการเชื่อมโยงถึงวัฒนธรรมท้องถิ่น"
สำหรับพิธีประกาศผลการตัดสินและมอบรางวัลสุดยอดโรงแรมบูติกไทย โครงการ "Thailand Boutique Awards Season 4 (2016-2017)" คณะผู้จัดงานได้รับเกียรติจากท่านปลัดกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา นายพงษ์ภาณุ เศวตรุนทร์ ให้เกียรติเป็นประธาน พร้อมกล่าวปาฐกถาในหัวข้อ "วิสัยทัศน์ 4.0 เพื่อโรงแรมบูติกและการท่องเที่ยวไทยเติบโตอย่างยั่งยืน" และมอบรางวัลให้แก่ 34 สุดยอดโรงแรมบูติกไทย จากการเฟ้นหาสุดยอดโรงแรมบูติกไทยขนาด 3 - 80 ห้อง จากทั่วทุกภูมิภาค ที่มีคุณภาพโดดเด่นในด้าน 1) สถาปัตยกรรมและการออกแบบ (Design) 2) การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ (Green) และ 3)แนวคิดและวัฒนธรรม (Thematic) โดยแบ่งระดับรางวัลเป็น 3 ขนาด คือ S Collection (โรงแรมขนาด 3-20 ห้อง) / M Collection (โรงแรมขนาด 21-50 ห้อง) และ L Collection (โรงแรมขนาด 51-80 ห้อง) และแบ่งเขตการประกวดตามที่ตั้งเป็น 4เขต คือ ทะเล (Sea) ภูเขา (Mountain) แม่น้ำ (River) และเมือง (City) นอกจากนี้ ยังมี รางวัลพิเศษ (Special Awards) สำหรับองค์กรต้นแบบและบุคคลทำคุณประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมท่องเที่ยวและโรงแรมบูติกไทย โดยมีประเภทรางวัลดังนี้
เขตทะเล (Sea)
1) สถาปัตยกรรมและการออกแบบ (Design) S Collection ได้แก่ วิลล่า มาร็อก รีสอร์ท (ประจวบคีรีขันธ์) M Collectionได้แก่ ภารีสา (ภูเก็ต) และ L Collection ได้แก่ ศาลา ภูเก็ต รีสอร์ท แอนด์ สปา (ภูเก็ต)
2) การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ (Green) M Collection ได้แก่ เดอะมนต์ตรา พัทยา (ชลบุรี) และ ปารดี (เกาะเสม็ด ระยอง)
3) แนวคิดและวัฒนธรรม (Thematic) M Collection ได้แก่ โรงแรมเดอะ ไลบารี่ (สมุย สุราษฎร์ธานี) และ L Collectionได้แก่ อลีนตา ภูเก็ต-พังงา รีสอร์ท แอนด์ สปา (พังงา)
เขตภูเขา (Mountain)
1) สถาปัตยกรรมและการออกแบบ (Design) S Collection ได้แก่ มิราเซียรา เขาใหญ่ (นครราชสีมา) M Collection ได้แก่วิลล่า วิลล่า พัทยา (ชลบุรี) และวิลล่า โซลิธูท รีสอร์ท แอนด์ สปา (ภูเก็ต)
2) การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ (Green) S Collection ได้แก่ แรบบิซ ฮิลล์ รีสอร์ท (จันทบุรี)
3) แนวคิดและวัฒนธรรม (Thematic) S Collection ได้แก่ หน้าผา เขาใหญ่ รีสอร์ท (นครราชสีมา) M Collection ได้แก่ม้งฮิลล์ไทรบ์ลอดจด์ (เชียงใหม่) และ L Collection ได้แก่ โฟโต้ โฮเทล (ภูเก็ต)
เขตแม่น้ำ (River)
1) สถาปัตยกรรมและการออกแบบ (Design) S Collection ได้แก่ ศาลา รัตนโกสินทร์ (กรุงเทพฯ) M Collection ได้แก่เดอะ โฟลทเฮ้าส์ ริเวอร์แคว (กาญจนบุรี) และศาลา อยุธยา (อยุธยา) และ L Collection ได้แก่ โรงแรมบราวน์เฮ้าส์(อุดรธานี)
2) การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ (Green) S Collection ได้แก่ วิลล่า โมรีดา (ราชบุรี) และแพ 500 ไร่ (เขาสก สุราษฎร์ธานี) M Collection ได้แก่ อสิตา อีโค รีสอร์ท อัมพวา (สมุทรสงคราม)
3) แนวคิดและวัฒนธรรม (Thematic) S Collection ได้แก่ เดอะ ซีนเนอรี่ วินเทจ ฟาร์ม (สวนผึ้ง ราชบุรี) M Collectionได้แก่ มารดาดี เฮอริเทจ ริเวอร์ วิลเลจ (เชียงใหม่) และ L Collection ได้แก่ ริเวอร์แคว จังเกิลราฟท์ (กาญจบุรี)
เขตเมือง (City)
1) สถาปัตยกรรมและการออกแบบ (Design) S Collection ได้แก่ อ็อกโซเทล (เชียงใหม่) และปิงนครา บูติคโฮเทลแอนด์สปา (เชียงใหม่) M Collection ได้แก่ โรงแรมอคีรา แมเนอร์ สวีท เชียงใหม่ (เชียงใหม่) และโรงแรมลิตเติ้ลยอนย่า(ภูเก็ต) และ L Collection ได้แก่ โรงแรมบลูมังกี้ ฮับ แอนด์ โฮเทล (ภูเก็ต)
2) การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและธรรมชาติ (Green) M Collection ได้แก่ 137 พิลล่าร์ เฮ้าส์ (เชียงใหม่)
3) แนวคิดและวัฒนธรรม (Thematic) S Collection ได้แก่ โฮเทล เดส อาร์ติส ปิง ซิลลูเอท (เชียงใหม่) M Collectionได้แก่ โรงแรมอัมพวาน่านอน (สมุทรสงคราม) เดอะ เมโมรี่ แอท ออน ออน โฮเต็ล (ภูเก็ต) และโรงแรมอ้นหยา ภูเก็ต(ภูเก็ต)
นอกจากนี้ ทางผู้จัดฯ เห็นสมควรมอบ 2 รางวัลพิเศษ ให้แก่องค์กรต้นแบบโรงแรมบูติกและบุคคลที่ทำคุณประโยชน์ต่ออุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและโรงแรมบูติกไทย คือ People Award ได้แก่ คณะทำงานจาก ดิ แอทติจูด คลับ และ Special Thanks Award ได้แก่ นายสถาพร สิริสิงห ผู้ที่ให้การสนับสนุนโครงการ Thailand Boutique Awards ตั้งแต่ริเริ่มโครงการจนเป็นที่รู้จักในปัจจุบัน
"เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการจัด โครงการ "Thailand Boutique Awards Season 4 (2016-2017)" ในครั้งนี้ จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้ผู้ประกอบการโรงแรมบูติกไทย ได้เป็นที่รู้จักในกลุ่มผู้บริโภคมากยิ่งขึ้น พร้อมทั้งช่วยพัฒนาการบริหารธุรกิจโรงแรมบูติกให้เติบโตอย่างยั่งยืน และขอเป็นกำลังใจให้ผู้ประกอบการโรงแรมบูติกสร้างสรรค์ผลงานที่มีความเป็นเอกลักษณ์ที่โดดเด่นเฉพาะตัว รวมถึงการบริการที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความงดงามในความเป็นไทย และมีศักยภาพพร้อมแข่งขันในประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนและในเวทีโลกต่อไป" นายระเฑียรกล่าวปิดท้าย