- รายได้รวม 53,902 ล้านบาท
- EBITDA (ไม่รวมรายการปรับปรุงบัญชีให้เป็นไปตามมาตรฐานบัญชีเกี่ยวกับสัญญาเช่าการเงิน) จำนวน 18,770 ล้านบาท
- กำไรสุทธิ จำนวน 8,953 ล้านบาท และ
- Normalized Net Profit (NNP) จำนวน 9,391 ล้านบาท
EBITDA และ NNP สำหรับปี 2559 ลดลงร้อยละ 6.3 และร้อยละ 1.2 เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปี 2558
ผลประกอบการสำหรับไตรมาสที่สี่ของปี 2559 มีดังนี้:
- รายได้รวม 11,910 ล้านบาท
- EBITDA (ไม่รวมรายการปรับปรุงบัญชีให้เป็นไปตามมาตรฐานบัญชีใหม่เกี่ยวกับสัญญาเช่าการเงิน) จำนวน 3,837 ล้านบาท
- กำไรสุทธิ จำนวน 1,202 ล้านบาท และ
- Normalized Net Profit (NNP)1 จำนวน 1,546 ล้านบาท
ผลประกอบการประจำปี 2559 แข็งแกร่ง
นายเบรนดอน วอเทอร์ส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) กลุ่มบริษัทโกลว์ กล่าวว่า "โกลว์ได้ประกาศผลประกอบการของปี 2559 ในระดับที่มีความแข็งแกร่ง โดย NNP อยู่ในระดับ 9.4 พันล้านบาท ลดลงประมาณ 4% จากปี 2558
(ซึ่ง ณ วันนี้ยังถือเป็นระดับที่สูงสุดเท่าที่เคยมีมาของกลุ่มบริษัท) อย่างไรก็ตาม หากไม่นับรวมรายการรายได้อื่น ๆ ที่ไม่เกิดขึ้นอย่างสม่ำเสมอ (Non-Recurring Other Incomes) ซึ่งเป็นรายการที่มีนัยยะสำคัญ 2 รายการ ออกจากจากผลประกอบการของปี 2558 แล้วนั้น NNP ของปี 2559 ถือว่าสูงขึ้นจากปีก่อนหน้าเล็กน้อย (ประมาณ 2.5%) ทั้งนี้ในการเปรียบเทียบลักษณะดังกล่าวควรต้องพิจารณาด้วยว่า GHECO-One มีการปิดซ่อมบำรุงตามแผนงานในปี 2558 ในด้านของกลุ่มธุรกิจโคเจนเนอเรชั่น ดังที่ได้รายงานมาอย่างต่อเนื่องในปีที่ผ่านมา ผลประกอบการอยู่ในระดับที่ดีเยี่ยม อันเป็นผลมาจากปริมาณความต้องการไฟฟ้าและไอน้ำของลูกค้าอุตสาหกรรมที่อยู่ในระดับสูงอย่างต่อเนื่อง และกำไรจากการดำเนินการของไฟฟ้าและไอน้ำที่ขายให้กับลูกค้าอุตสาหกรรมก็ยังอยู่ในระดับที่ดี ในด้านของกลุ่มธุรกิจไอพีพี มีประเด็นที่ควรคำนึงถึงเมื่อมองไปยังการดำเนินการในปี 2560 นี้ คือการที่ GHECO-One ต้องมีการปิดซ่อมบำรุงตามแผนงานในปีนี้ (ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินการในไตรมาสแรกของปี 2560) ทั้งนี้การซ่อมบำรุงตามแผนงานดังกล่าวได้เสร็จสิ้นตามกำหนดการแล้วในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ 2560"
เสนอเงินปันผลรวม 5.75 บาทต่อหุ้นเพื่อการพิจารณาอนุมัติของผู้ถือหุ้น
นายปจงวิช พงษ์ศิวาภัย รองกรรมการผู้จัดการใหญ่สายการเงิน (CFO) กลุ่มบริษัทโกลว์ กล่าวว่า "คณะกรรมการได้อนุมัติเงินปันผลรวมประจำปี 2559 ที่อัตรา 5.75 บาทต่อหุ้น ซึ่งเป็นระดับเดียวกันกับเงินปันผลรวมของปี 2558 โดยจะได้มีการนำเสนออัตราเงินปันผลดังกล่าวให้ผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติในการประชุมสามัญประจำปีซึ่งจะเกิดขึ้นในช่วงปลายเดือนเมษายน 2560 นี้ เงินปันผลรวมดังกล่าวประกอบไปด้วยเงินปันผลระหว่างกาลจำนวน 1.458 บาทต่อหุ้น ซึ่งได้จ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นแล้วในเดือนกันยายน 2559 และเงินปันผลปลายปีจำนวน 4.292 บาทต่อหุ้นซึ่งจะได้มีการจ่ายให้แก่ผู้ถือหุ้นหลังได้รับการอนุมัติข้างต้น ในจำนวนเงินปันผลรวมนี้สามารถแบ่งออกได้เป็นเงินปันผลปกติจำนวน 3.644 บาทต่อหุ้น (ซึ่งเพิ่มขึ้น 5% จากปีก่อนหน้า) และเงินปันผลพิเศษจำนวน 2.106 บาทต่อหุ้น อีกด้วย"
[1] กำไรสุทธิก่อนรวมกำไร/ขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ รายได้/ค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้รอการตัดบัญชี และไม่รวมายการปรับปรุงบัญชีให้เป็นไปตามมาตรฐานบัญชีใหม่เกี่ยวกับสัญญาเช่าการเงิน