นายแม่ทัพ ต.สุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท อาฟเตอร์ ยู จำกัด (มหาชน) หรือ AU ผู้สร้างปรากฏการณ์ธุรกิจขนมหวานในประเทศไทย เปิดเผยถึงภาพรวมผลการดำเนินงานปี 2559 บริษัทฯ สามารถผลักดันการเติบโตเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยทำรายได้ 606 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมาที่มีรายได้ 414 ล้านบาท ขณะที่กำไรสุทธิทำได้ 99 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยผลการดำเนินงานที่เติบโตได้ดีทั้งในแง่ของผลรายได้และกำไรนั้น มาจากการรุกขยายสาขาร้านอาฟเตอร์ ยู ที่ต่อเนื่องและการพัฒนาเมนูใหม่ๆ เพื่อผลักดันยอดขายต่อสาขาเพิ่มขึ้น
สำหรับในปี 2559 บริษัทฯ ได้ขยายสาขาเพิ่มขึ้น 5 สาขา แบ่งเป็นร้านอาฟเตอร์ ยู 3 สาขาที่ศูนย์การค้าเทอร์มินอล 21ซีคอนสแควร์ (ศรีนครินทร์) และเซ็นทรัลปิ่นเกล้า และร้านเมโกริ 2 สาขาที่ศูนย์การค้า Siam Square One และเดอะ คอมมอนส์ ทองหล่อ และการเพิ่มเมนูใหม่ที่ได้รับการตอบรับจากผู้บริโภคเป็นอย่างดี เช่น ชิบุย่าฮันนี่โทสต์ คากิโกริ หรือเมนูขนมหวานรสชาไทย 3 เมนูใหม่ ได้แก่ ชิบุย่าโทสต์ คากิโกริและชานมผสมเฉาก๊วย เป็นต้น
"แม้ธุรกิจร้านขนมหวานมีการแข่งขันสูง แต่เรายังรักษาการเติบโตที่ดี เนื่องจากบริษัทฯ ลงทุนขยายสาขาและคิดค้นพัฒนาเมนูใหม่ๆ ออกสู่ตลาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมทั้งให้ความสำคัญกับการรักษาคุณภาพสินค้าและบริการที่ดี จึงสามารถรักษาฐานลูกค้าเดิมและขยายฐานลูกค้าใหม่ได้ตามแผนที่วางไว้" นายแม่ทัพ กล่าว
กรรมการผู้จัดการ AU กล่าวว่า สำหรับแผนดำเนินธุรกิจในปี 2560 บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้รวมเติบโต 30% โดยจะขยายสาขาใหม่เพิ่มขึ้นอีก 6-7 สาขาให้มีความครอบคลุมมากขึ้น จาก ณ สิ้นปี 2559 ที่มีทั้งหมด 20 สาขา แบ่งเป็นสาขาในกรุงเทพฯ และปริมณฑล 5-6 สาขา โดยคาดว่าจะเปิดให้บริการร้านอาฟเตอร์ ยู สาขาอิมแพ็ค เมืองทองธานี ได้ในเดือนเมษายนนี้ และจะลงทุนเปิดร้านอาฟเตอร์ ยู ในหัวเมืองต่างจังหวัดเป็นครั้งแรก 1 สาขา ซึ่งปัจจุบันอยู่ระหว่างศึกษาทำเลที่เหมาะสม พร้อมมีแผนพัฒนาเมนูขนมหวานอย่างต่อเนื่อง เช่น คากิโกริข้าวเหนียวมะม่วง มะยงชิดปั่น ที่เป็นเมนูตามฤดูกาล รวมถึงมีแผนขยายธุรกิจการรับจ้างผลิตสินค้า (OEM) ในช่วงครึ่งปีหลัง
ส่วนแนวโน้มธุรกิจขนมหวานในปีนี้ประเมินว่ายังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากปัจจัยไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่นิยมทานอาหารนอกบ้านและมีความชื่นชอบการรับประทานขนมหวาน ประกอบกับศูนย์การค้าและโครงการคอมมูนิตี้มอลล์ยังขยายสาขาใหม่ทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะส่งผลดีต่อโอกาสในการขยายตัวของธุรกิจร้านขนมหวานในปีนี้