บทโทรทัศน์ วรพันธ์ รวี
กำกับการแสดง ประทุม มิตรภักดี
ควบคุมการผลิต สยม สังวริบุตร
รถสามล้อถีบที่ชายหนุ่มชาวกรุง "ลอย" (เขตต์ ฐานทัพ) นั่ง กำลังผ่านโบสถ์พราหมณ์และหอพระอิศวรมาถึงตลาดท่าม้าและเบรกหยุดลงทันที ทันใดนั้น "กำไล" (ทับทิม-อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์) ที่กำลังรำนำหัวขบวนได้เจอกับ ลอย ด้วยความดีใจเธอทิ้งขบวนมาหาเขา และบอกว่าลอยมาได้เวลาดอกนุ่นบานพอดี คำพูดนั้นดึงให้ภาพในอดีตหวนกลับมาสู่ลอย คืนดอกนุ่นบานมีความหมายกับเขายิ่งนัก
ย้อนกลับไปในวัยเด็ก ลอย บุญลือ เด็กชายผู้ไม่มีพ่อแม่อาศัยอยู่กับ ย่าจันทร์ (เมตตา รุ่งรัตน์) ลอยเป็นคนขี้เกียจเรียน แต่ย่าก็ไม่ได้ให้เลิกเรียน ในชีวิตรั้วโรงเรียนลอยเป็นไม้เบื่อไม้เมากับหัวโจกลูกนายอำเภอ ถวิล วิทยพันธุ์ (อู-ภาณุ สุวรรณโณ)และลูกไล่ 2 คนชื่อ สมพงษ์ (วรพรต ชะเอม) กับ เอียด(ฉัตรมงคล บำเพ็ญ) ตลอดเวลา วันนึง "โฉม" (ปิยะดา เพ็ญจินดา) แม่ของลอยจะมารับไปอยู่ด้วย ย่าจึงตัดสินใจเล่าเรื่องของพ่อแม่ให้ลอยฟัง ว่าลอยเป็นลูกนายอำเภอพ่อเดียวกับถวิลทำให้ลอยรู้สึกตกใจมาก ด้านชีวิตการเรียนลอยโชคดีที่มี สารภี (ไอซ์-อธิชนัน ศรีเสวก) พี่สาวของกำไลคอยช่วยติวหนังสือให้ ความสนิทสนมของทั้งคู่กลายเป็นความรักเมื่อทั้งคู่โตเป็นหนุ่มสาว ชีวิตของลอยกำลังดำเนินไปด้วยดี จนวันหนึ่งลอยได้รับข่าวร้ายที่สุดในชีวิตว่าย่าจันทร์ตาย ลอยจึงต้องใช้ความรู้ในการทำขนมจากย่าจันทร์ทำขนมขายโดยมีสารภีและกำไลเป็นผู้ช่วย ลอยส่งเสียตัวเองจนเรียนจบมัธยม 6 เขาบอกสารภีว่าจะไปเรียนต่อที่โรงเรียนช่างก่อสร้างอุเทนถวาย กรุงเทพ เพื่อให้มีความรู้สูงๆ จะได้กลับมาสร้างเนื้อสร้างตัวเป็นหน้าเป็นตาแก่สารภี ตลอดเวลาที่อยู่กรุงเทพลอยและสารภีเขียนจดหมายรักถึงกันเสมอ
ณ วันนี้ ลอย บุญลือ กลับมาบ้านเกิด ลอยให้ผู้ใหญ่ไปสู่ขอสารภีจาก ผู้ใหญ่คล้อย (วันชัย เผ่าวิบูล) พ่อของสารภีและกำไล แม้ผู้ใหญ่คล้อยจะไม่เต็มใจแต่ก็ไม่ขัดขวางความรักของลูกสาว ก่อนถึงวันแต่งงาน ครูสมพงษ์ ผู้ที่แอบรักสารภีก็ยังไม่เลิกหาทางช่วงชิงสารภีจากลอยทุกวิถีทาง วันนึงคล้อยมีธุระไม่อยู่บ้านแต่ด้วยความเป็นห่วงภรรยา นางผ่อง (วรารัตน์ เทพโสธร) แม่ของสารภีกับกำไล เพราะเป็นโรคหัวใจเจ็บออดๆแอดๆ อยู่ นายคล้อยจึงย้ำให้สารภีดูแลแม่เพียงคนเดียวเท่านั้น สารภีกีดกันไม่ให้กำไลดูแลแม่ กำไลร้องไห้หนักมากจนเผลอหลับไป กำไลตื่นเพราะเสียงฟ้าร้องเธอจึงเดินไปห้องสารภี เหตุการณ์ไม่คาดฝันเกิดขึ้นในความมืดเมื่อ ลอย บุญลือ เข้าใจผิดคิดว่ากำไลเป็นสารภีจึงกอดจูบ ซึ่งด้วยความรักที่ฝังลึกในใจทำให้กำไลยินยอมมอบความสาวให้แก่ชายที่เธอรักโดยมิหวังผลตอบแทนใดๆ และจะไม่มีวันที่ใครจะรู้ นอกจากเธอคนเดียว แต่เมื่อรุ่งสางทันทีที่สารภีเปิดประตูกลับเข้าห้องนอนตนเองภาพที่เห็น คือ ลอยนอนกอดกำไลอยู่บนเตียงของเธอ! เธอถอดแหวนหมั้นปาใส่หน้าลอย ประกาศตัดขาดลอย ทำให้นางผ่องโรคหัวใจกำเริบเสียชีวิต คล้อยและสารภีโกรธกำไลและลอยมาก ถึงกับประกาศไล่กำไลออกจากบ้านและห้ามมาร่วมงานศพผู้เป็นแม่ กำไลร้องไห้ซบลงกับผืนดินกราบศพแม่ น้าแม้น (ประสาท ทองอร่าม (ครูมืด)) มาชวนกำไลให้ไปอยู่ที่บ้านด้วยกัน ลอยรู้สึกผิดขอโอกาสชดใช้สิ่งที่เขาทำด้วยการขอกำไลแต่งงาน กำไลไม่ตกลงและหนีไปโดยทิ้งจดหมายบอกว่าเธอไม่มีวันแต่งงานกับลอยเด็ดขาด กำไลไปอยู่บ้าน เมี้ยน น้องสาวของแม้นอีกหมู่บ้านหนึ่ง วันหนึ่งสารภีรู้สึกตัวว่าท้องจึงต้องยอมแต่งงานกับลอยทั้งที่ความรักกลายเป็นความเกลียดไปแล้ว เป็นช่วงเดียวกับลอยได้งานที่กรุงเทพฯ คล้อย จึงขายที่นาตามลอยและสารภีไปอยู่ที่กรุงเทพฯ
ที่กรุงเทพฯ ชีวิตคู่ของลอยกับสารภีไม่สู้ดีนัก เพราะความฟุ้งเฟ้อของสารภี เงินเดือนลอยไม่พอให้เธอใช้ สารภีจึงต้องไปทำงานเป็นพนักงานขายของในห้างสรรพสินค้า ทำให้ได้เจอกับ ถวิล วิทยพันธุ์ หุ้นส่วนใหญ่ของห้าง สารภีฟุ้งเฟ้อเผลอใจไปกับถวิล เมื่อสารภีคลอดลูกสาวเธอไม่สนใจลูกเลย ลอยรู้สึกผิดหวังมากเขาขอให้สารภีเลี้ยงดูลูกบ้างเพื่อต่อไปลูกจะได้รัก สารภีหัวเราะเยาะ สารภีบอกจะให้เงินซื้อนมแลกกับใบหย่า และบอกว่าลอยเป็นมะเร็งในกระเพาะอาหารจะอยู่ได้อีกไม่เกินสองปี ลอยโกรธทำร้ายสารภี แต่เมื่อได้ยินเสียงลูกร้องลอยจึงได้สติ ลอยตัดสินใจหย่าเพื่อลูก สารภีแถมเงินให้หนึ่งหมื่นบาทสำหรับใบหย่า ขณะที่กำไลอธิษฐานขอพรให้ลอยที่พระประธาน เมื่ออธิษฐานเสร็จกำไลได้ยินเสียงเด็กร้องอยู่ด้านหลังพระประธาน แล้วลอย บุญลือ ก็ปรากฏตัว ลอยเล่าเรื่องสารภีให้กำไลฟัง ลอยบอกกำไลว่าเขาเป็นมะเร็งจะมีชีวิตอยู่ได้อีกไม่นานกำไลตกใจแทบสิ้นสติ เธอบอกว่าชีวิตลอยมีค่าสำหรับเธอ เธอขอให้ลอยแต่งงานกับเธอ แม้ลอยจะมีชีวิตอยู่ได้แม้อีกเพียงวันเดียวก็มีค่ายิ่งสำหรับเธอ
ลอยกอดกำไลร้องไห้ซาบซึ้งในความดีอันเสมอต้นเสมอปลายของเธอ ลูกของลอย หลวงพ่อที่วัดป่าขอมตั้งชื่อให้ว่า ฬุริยา ชื่อเล่น ไผ่ (ชิงชิง-คริษฐา สังสะโอภาส) กำไลเป็นคนทำงานหาเงินเข้าบ้าน วันหนึ่งในขณะกำไลและลูกหลับ ลอยตัดสินใจออกจากบ้านเพราะทนให้กำไลต้องหาเลี้ยงตนเองต่อไปไม่ได้ เขาเขียนจดหมายขอให้กำไลเลี้ยงลูกให้ด้วย การจากไปของคนที่เธอรักทำให้กำไลทุกข์อย่างที่สุด ทุกวันกำไลจะเฝ้าอธิษฐานกับพระประธานที่โบสถ์ และที่รองรับทุกข์อีกแห่งของกำไล คือ ผืนแผ่นดิน กำไลได้แต่ซบหน้าร้องไห้กับแผ่นดิน เหมือนซบหน้ากับอกแม่ แต่นี่คือ อกแม่ธรณี….อกธรณี…ที่คอยซับน้ำตาให้กำไล กำไลเลี้ยงไผ่ด้วยความหวังว่าสักวันลอยจะกลับมา เมื่อไผ่โตเป็นสาว ไผ่มีความแก่นแก้วห้าวเฮี้ยว มีคู่หูเป็นชายรุ่นโตกว่าชื่อ ลออ (เติมมงคล หวังในธรรม)
พลตรีมหศักดิ์สุนทร (ตฤณ เศรษฐโชค) และ คุณหญิง(รัตนา ข้องตระกูล) ต่อว่า วิมาน (บิว-วรพล จินตโกศล) ลูกชายที่ไปเรียนเมืองนอกตั้งแต่เด็กและจบเกษตรกลับมา แต่ยังทำตัวเป็นหนุ่มเจ้าสำราญไม่ยอมทำงาน คุณหญิงต้องการให้วิมานแต่งงานกับ โลมตา(ฟิลม์-ฉัตรดาว สิทธิผล) สาวนักเรียนนอกลูกสาว ถวิล วิทยพันธุ์ วิมานไม่เต็มใจและหนีงานแต่งงานโดยเขียนจดหมายบอกสาเหตุที่หนีพิธีแต่งงานว่า เพราะเขาได้ยินโลมตาพูดกับเพื่อนว่าเธอแต่งงานกับวิมานเพื่อเงิน เพราะตอนนี้บ้านเธอกำลังล้มละลาย วิมานบอกพ่อว่าเขาขอใช้ชีวิตอย่างคนจนอย่างไม่เป็นลูกพลตรี เพื่อจะพบผู้หญิงที่รักตัวเขาไม่ใช่รักเงิน วิมานไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่ จ.นครศรีธรรมราช เพราะ นพ.สินสิริ (นคินธร ภาษยวรรณ์) เพื่อนสนิทเป็นแพทย์ประจำอยู่ที่นั่น ที่นี่วิมานได้พบกับ ฬุริยา หรือ ไผ่ เพียงครั้งแรกที่เจอกันวิมานก็คิดถึงเธออย่างฝังใจ เมื่อกำไลได้เจอกับวิมานกำไลรู้สึกทันทีว่าผู้ชายคนนี้กำลังคิดอะไรกับลูกสาวของตนแน่ กำไลได้พูดคุยถามประวัติวิมานว่าเป็นใคร พักที่ไหน วิมานตอบข้อซักถามของกำไลว่าเขาชื่อ ธง มีฐานะยากจนจึงมาขออาศัยอยู่กับพระที่วัดป่าขอม
แต่แล้วความจริงของวิมานถูกเปิดเผยขึ้น เมื่อวิมานถูกทำร้ายบาดเจ็บสาหัสต้องเข้ามารักษาตัวที่กรุงเทพฯ ไผ่เป็นห่วงวิมาน จึงหาทางไปเยี่ยมไผ่ที่กรุงเทพฯ ทันทีที่ไปถึงห้องพักของวิมานไผ่พบกับโลมตา โลมตาไม่ยอมให้ไผ่เยี่ยมวิมาน ไผ่จึงบอกว่าเธอเป็นคนรักของเขา โลมตาเหยียดเย้ยไผ่ว่าวิมานไม่มีวันมีคนรักเป็นสาวบ้านนอกเป็นอันขาด ไผ่และกำไลช็อกเมื่อรู้ว่า ธง เด็กวัดคนนั้นแท้จริงเป็นหนุ่มนักเรียนนอกลูกมหาเศรษฐี โลมตาบอกว่าวิมานกับเธอกำลังจะแต่งงานกัน ไผ่ร้องไห้ชวนกำไลกลับ โลมตาเล่าเรื่องไผ่ให้ถวิลและสารภีฟัง สารภีคิดว่าสาวบ้านนอกนั้นเป็นลูกสาวของกำไลน้องสาวของเธอ โดยที่เธอไม่ได้คิดว่าแท้จริงแล้วไผ่คือ ลูกสาวของเธอที่เกิดกับลอย สารภีจึงช่วยโลมตาลูกเลี้ยงอย่างเต็มที่ โดยให้เอียดคนที่ทำร้ายวิมานไปทำร้ายไผ่และกำไลขั้นรุนแรง กำไลได้งานทำที่บ้านฝรั่ง เอียดลอบวางยาไผ่และกำไลจนหมดสติแล้วราดน้ำมันจุดไฟเผาบ้าน แต่ฝนตกลงมาอย่างหนักดับไฟก่อนที่จะไหม้สองแม่ลูก
ทนายของ โฉม(ปิยะดา เพ็ญจินดา) แจ้งสารภีว่าโฉมได้ทำพินัยกรรมยกเงินจำนวนมากให้ลอย สารภีดีใจมากบอกว่าลอยตายแล้ว ทนายบอกว่าสารภีไม่มีสิทธิ์รับเพราะแต่งงานใหม่ ผู้ได้รับมรดกคือ ลูกของลอย เท่านั้น สารภีบอกว่าลอยไม่มีลูก แต่ทนายบอกว่าสืบมาแล้วว่าลอยมีลูกสาวกับสารภีชื่อไผ่และให้สารภีตามไผ่มายืนยัน สารภีอ้อนวอนขอไผ่คืนจากกำไล แต่กำไลปฏิเสธและด่าอย่างเจ็บแสบ สารภีหว่านล้อมให้เห็นแก่อนาคตของไผ่ กำไลขอสารภีพบพ่อ อยากกราบเท้าขอ อภัยพ่อ แต่สารภีโกหกว่าพ่อไม่เคยอยากพบกำไล พ่อไม่ยกโทษให้กำไล ทั้งๆที่นายคล้อยพูดตลอดเวลาที่มาอยู่กรุงเทพว่าอยากพบกำไลและไม่ถือโทษกำไลแล้ว
กำไลตัดสินใจจากไผ่ไปทิ้งจดหมายเขียนด้วยถ้อยคำที่ไร้เยื่อใย และให้นามบัตรของสารภีสั่งให้ไผ่ไปอยู่กับสารภี กำไลเดินทางโดยทางเรือ พายุฝนฟ้าคะนองหนักมาก จนเรือที่กำไลโดยสารถูกพายุพัดจมทะเลเป็นข่าวหน้าหนึ่ง ไผ่ร้องไห้ปิ้มว่าจะขาดใจ สารภีปลอบใจไผ่ ทนายของโฉมบอกไผ่ว่า ไผ่คือลูกของลอยกับสารภีจะเป็นผู้ได้รับเงินมรดกห้าล้านบาท ไผ่ไม่ต้องการเงินทองใดๆ มากไปกว่าแม่กำไลจึงไม่ยอมรับสารภีว่าเป็นแม่ทำให้สารภีไม่ได้มรดก สารภีโกรธมากจึงใช้งานหนักสารพัดเพื่อให้ไผ่ทนไม่ได้ และยอมรับว่าเธอเป็นแม่จะได้ไม่ต้องทำงานหนัก แต่ไผ่ขอก้มหน้าทำงานโดยไม่ปริปากบ่นเลย
เหตุการณ์รุนแรงขึ้นเมื่อโลมตา สารภี และถวิลไล่ยิงไผ่ สารภีห้ามแต่โลมตาไม่ฟัง สารภีจึงยิงโลมตาโดยไม่ได้ตั้งใจจะฆ่า แต่โลมตาตายถวิลจึงยิงสารภี วิมานและถวิลต่อสู้กันถวิลสู้วิมานไม่ได้ ทันใดนั้นลอยปรากฏตัวขึ้น สารภีสำนึกผิดขอให้ลอยบอกว่าไผ่คือ ลูกของเธอ ลอยบอกว่าไม่ใช่ไผ่เป็นลูกของกำไล สารภีตายไปทั้งที่ยังพร่ำหาลูก ส่วนถวิลถูกตำรวจจับ
ลอยบอกกำไลว่าหลังจากหนีกำไลไป เขาเจอกับพ่อค้าจีนพาไปรักษาตัวที่ไต้หวันและรับเป็นลูกบุญธรรม เมื่อพ่อค้าจีนตาย ได้ยกมรดกให้ เขาจึงกลับมากำไล กำไลแนะนำให้ไผ่รู้จักลอย พ่อลูกโผเข้าหากันลอยโอบไผ่ไว้ข้างหนึ่ง โอบกำไลอีกข้างหนึ่ง ครอบครัวมีความครบบริบูรณ์ พ่อ – แม่ – ลูก
รายชื่อนักแสดง "อกธรณี"
1. เขตต์ ฐานทัพ รับบทเป็น ลอย บุญลือ
2. อัญรินทร์ ธีราธนันพัฒน์ " กำไล
3. อธิชนัน ศรีเสวก " สารภี
4. วรพล จินตโกศล " วิมาน
5. คริษฐา สังสะโอภาส " ไผ่
6. ภาณุ สุวรรณโณ " ถวิล
8. ฉัตรดาว สิทธิผล " โลมตา
9. สมิท ธนโชติ " นายอำเภอบุญสม
10. เมตตา รุ่งรัตน์ " ย่าจันทร์
11. วันชัย เผ่าวิบูล " ผู้ใหญ่คล้อย
12. วรารัตน์ เทพโสธร " นางผ่อง
13. ตฤณ เศรษฐโชค " พลตรีมหศักดิ์สุนทร
14. สุรัตนา ข้องตระกูล " คุณหญิง
15. นคินธร ภาษยวรรณ์ " นายแพทย์ สินธร
16. ศรุฒ สุวรรณภักดี " เย็น
17. ปิยะดา เพ็ญจินดา " โฉม
18. แคนดี้ เอเวอรี่ " แน่งน้อย
19. ประสาท ทองอร่าม (ครูมืด) " แม้น
20. อัมรินทร์ สิมะโรจน์ " เสี่ย
21. ฉัตรมงคล บำเพ็ญ " เอียด
22. พิเชษฐ ศรีราชา " ครูบุญทิ้ง
23. เติมมงคล หวังในธรรม " ละออ
24. วรพรต ชะเอม " สมพงษ์