นายสาทิส ตัตวธร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท สาลี่อุตสาหกรรม จำกัด (มหาชน) (SALEE) เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของบริษัทและบริษัทย่อในปี 2559 มีรายได้รวม 1,165 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 157 ล้านบาท หรือคิดเป็น 16%เมื่อเทียบกันปี 2558 และมีกำไรสุทธิ 54.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.18 ล้านบาท หรือ 68% เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมามีกำไรสุทธิ 32.73 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากการเติบโตของธุรกิจพิมพ์ฉลากสินค้าที่ได้รับผลดีจากตลาดสินค้าอุปโภคบริโภคในประเทศที่เริ่มฟื้นตัว รวมไปถึงสินค้าพลาสติกสำหรับกลุ่มอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ถือว่าเป็นสินค้ากลุ่มใหม่ที่เริ่มมีออเดอร์อย่างต่อเนื่องในช่วงปลายปีที่ผ่านมา
"ในปีนี้ก็ยังถือว่าเป็นปีที่ SALEE ได้นำศักยภาพและความชำนาญของเราในการเริ่มต้นผลักดันสินค้ากลุ่มอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้สามารถขยับขึ้นมาเป็นหนึ่งในกลุ่มสินค้าหลักของ "สาลี่อุตสาหกรรม" และในขณะเดียวกันตลาดกลุ่มสินอุปโภคบริโภคที่เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งภายในประเทศ และต่างประเทศก็สามารถทำให้ธุรกิจพิมพ์ฉลากสินค้า ภายใต้การดำเนินงานของบริษัท สาลี่ พริ้นท์ติ้ง จำกัด (มหาชน) (SLP) บริษัทย่อย ก็ปรับตัวดีขึ้นเช่นกัน"นายสาทิสกล่าว
นอกจากผลการดำเนินงานที่มาจาก SALEE และบริษัทลูกคือ SLP ที่เข้าไปจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ที่สามารถเดินหน้าไปได้เป็นอย่างดีแล้ว และในปี 2559 SALEE ยังได้ บริษัท เพชรสยาม (ประเทศไทย) จำกัด (PST) บริษัทลูกแห่งใหม่ที่เป็นผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าพลาสติกที่ใช้ในครัวเรือน ผ่านโมเดิร์นเทรดต่างๆ เข้ามาเติมเต็มให้กับกลุ่ม SALEE โดยสามารถรับรู้รายได้ตั้งแต่เดือนกรกฎาคม 2559 ที่ผ่านมา
"ปี 2558 สามารถถือว่าเป็นจุดต่ำสุดของเราแล้ว และในปี 2559 ที่ผ่านมาก็ถือว่าเป็นจุดหักเหของกลุ่มบริษัทSALEE เนื่องจากทิศทางการเริ่มพื้นตัวของภาวะเศรษฐกิจโลก ทำให้เราสามารถกลับมามีผลการดำเนินงานที่แข็งแกร่งได้อย่างเต็มตัว ทั้งในส่วนของ SALEE ที่สามารถใช้กำลังการผลิตที่มีอยู่ของบริษัทฯเพื่อการผลิตสินค้าได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ในส่วน SLP ก็สามารถที่จะเพิ่มและพัฒนาฉลากสินค้าแบบใหม่ที่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดได้ดีขึ้น รวมถึงสามารถสร้างมาร์จิ้นที่ดีขึ้นอีกด้วย"
"สำหรับบริษัทลูกแห่งใหม่อย่าง PST ซึ่งเป็นบริษัทที่มีทุกอย่างพร้อมอยู่แล้วทั้งตราสินค้า โรงงานผลิตสินค้ารวมถึงระบบกระจายสินค้าของตัวเอง เราเพียงแค่เข้าไปช่วยขยายฐานลูกค้าโมเดิร์นเทรดจากที่มีอยู่แล้ว และใช้ความชำนาญของเราในการเพิ่มประสิทธิภาพในการควบคุมการผลิตและควบคุมคุณภาพ เราเชื่อว่า PST จะเป็นบริษัทที่สามารถบุกตลาดต่างประเทศทั้งในกลุ่มลูกค้าอาเซียนและออสเตรเลียเพื่อขยายตลาดเพิ่มเติมได้อีกอย่างแน่นอน และในปี 2560 SALEE จะสามารถรับรู้รายได้ของ PST เข้ามาได้เต็มทั้งปี" นายสาทิส กล่าวในที่สุด
ล่าสุดคณะกรรมการบริษัทมีมติในวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2560 ให้เสนอผู้ถือหุ้นเพื่อพิจารณาอนุมัติการจ่ายปันผลสำหรับผลประกอบการปี 2559 ในอัตรา 0.035 บาทต่อหุ้น โดยกำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นมีสิทธิ์ในการรับเงินปันผลวันที่ 8พฤษภาคม 2560 และวันรวบรวมรายชื่อผู้ถือหุ้นในวันที่ 9 พฤษภาคม 2560 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 24พฤษภาคม 2560 โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 3 พฤษภาคม 2560