คือ อนุมัติยกเลิกการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อรองรับการใช้สิทธิ ของใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ รุ่นที่ 1 (MAX-T1) จำนวนไม่เกิน 5,700,000,000 หุ้น ที่เสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น โดยไม่คิดมูลค่า และยกเลิกการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนเพื่อรองรับการจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ไม่เกิน 50 ราย จำนวน 10,000,000,000 หุ้น พร้อมทั้งอนุมัติยกเลิกการลดทุนจดทะเบียน โดยการลดมูลค่าที่ตราไว้ต่อหุ้น เพื่อลดส่วนต่ำมูลค่าหุ้นและลดขาดทุนสะสม และแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทข้อ 4 เรื่องทุนจดทะเบียน เพื่อให้สอดคล้องกับการลดทุนจดทะเบียนของบริษัท อนุมัติลดทุนจดทะเบียนของบริษัทจากเดิม 45,304,223,696 บาท เป็น 29,602,897,629 บาท โดยการตัดหุ้นจดทะเบียนที่ยังไม่ได้ออกจำหน่ายของบริษัทจำนวน 15,701,326,067 บาท แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 15,701,326,067 หุ้น (พาร์ 1 บาท) โดยการตัดหุ้นที่รองรับการใช้สิทธิของใบแสดงสิทธิในการซื้อหุ้นเพิ่มทุนที่โอนสิทธิได้ รุ่นที่ 1 (MAX-T1) จำนวนไม่เกิน 5,700,000,000 หุ้น หุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 10,000,000,000 หุ้น เพื่อรองรับการออกหุ้นเพิ่มทุนให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ไม่เกิน 50 ราย และหุ้นจดทะเบียนที่เหลือจากการรองรับการใช้สิทธิซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของใบสำคัญแสดงสิทธิ ครั้งที่ 2 (MAX-W2) จำนวน 1,326,067 หุ้น
อนุมัติเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัทจากเดิม 29,602,897,629 บาท เป็น 99,555,048,070 บาท โดยการออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่จำนวน 69,952,150,441 หุ้น (พาร์ 1 บาท) พร้อมทั้งแก้ไขหนังสือบริคณห์สนธิของบริษัทข้อ 4 ให้สอดคล้องกับการเพิ่มทุนจดทะเบียน และอนุมัติการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทจำนวน 69,952,150,441 หุ้น โดยมีรายละเอียดการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ ดังนี้
1. จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 49,583,851,118 หุ้น (พาร์ 1 บาท) เพื่อเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering)
2. จัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวนไม่เกิน 12,395,962,780 หุ้น เพื่อรองรับการใช้สิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัท ครั้งที่ 3 ("MAX-W3") ที่บริษัทจะออกให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมของบริษัทที่จองซื้อและได้รับจัดสรรหุ้นเพิ่มทุนที่ออกและเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิมตามสัดส่วนการถือหุ้น (Rights Offering)
3. จัดสรรหุ้นสามัญเพื่อรองรับการปรับสิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 1 (MAX-W1) จำนวน 4,196,856,270 หุ้น และจัดสรรหุ้นสามัญเพื่อรองรับการปรับสิทธิของใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 2 (MAX-W2) จำนวน 3,775,480,273 หุ้น พร้อมทั้งอนุมัติการออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญของบริษัทครั้งที่ 3 (MAX-W3) จำนวนไม่เกิน 12,395,962,780 หน่วย
โดย ดร. อิทธิชัย กล่าวว่า การประชุมในครั้งนี้ดำเนินไปด้วยความเรียบร้อย ผู้ถือหุ้นเห็นด้วยและเข้าใจแผนการทำงานที่ชัดเจนและเป็นรูปธรรมของบริษัทฯ เสียงจากผู้ถือหุ้นส่วนใหญ่สนับสนุนต่อนโยบายการบริหารและแผนการดำเนินงานของบริษัทฯ อันมุ่งเน้นการเติบโตและผลกำไรระยะยาวจากธุรกิจโรงไฟฟ้า โดยบริษัทฯ จะเปิดให้ผู้ถือหุ้นจองหุ้นเพิ่มทุนได้วันที่ 15-21 มีนาคม 2560