สคร. ขอชี้แจงการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย (Thailand Future Fund)

ศุกร์ ๒๔ กุมภาพันธ์ ๒๐๑๗ ๑๗:๔๘
นายชาญวิทย์ นาคบุรี รองผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.) ในฐานะโฆษก สคร. กล่าวว่า ตามที่เว็ปไซด์แนวหน้าออนไลน์ได้เผยแพร่ข่าวเลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) และสมาชิก เดินทางมาที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อยื่นหนังสือถึงนายกรัฐมนตรีเพื่อคัดค้านการตั้งกองทุนโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศ หรือ Thailand Future fund (กองทุน TFF) สคร.ขอชี้แจงดังนี้

1. การจัดตั้งกองทุน TFF เป็นนโยบายสำคัญของรัฐบาลในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ เนื่องจากประเทศไทยมีความต้องการลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐานจำนวนมาก แต่รัฐมีข้อจำกัดเรื่องงบประมาณและหนี้สาธารณะ ดังนั้น การระดมทุนผ่าน TFF ซึ่งไม่ถือว่าเป็นหนี้สาธารณะ จึงถือเป็นแหล่งเงินทุนทางเลือกใหม่เพื่อใช้ในการลงทุนและพัฒนาโครงการโครงสร้างพื้นฐานของประเทศให้เกิดได้เร็วขึ้น ลดภาระการคลังระดับประเทศ ลดการพึ่งพิงเงินกู้ และเงินงบประมาณ ทำให้รัฐสามารถจัดสรรเงินงบประมาณไปลงทุนในโครงการทางสังคมที่จำเป็นอื่นๆ ได้มากขึ้น เช่น การศึกษา สาธารณสุขได้

2. การนำโครงการโครงสร้างพื้นฐานของการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) เข้ามาระดมทุนผ่านกองทุน TFF เนื่องจาก กทพ. เป็นหนึ่งในรัฐวิสาหกิจที่มีศักยภาพ และมีทรัพย์สินที่มีรายได้ที่มั่นคงแน่นอนและสามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีได้ในอนาคต รวมทั้ง กทพ. มีความต้องการเงินลงทุนเพื่อพัฒนาโครงการขนาดใหญ่หลายโครงการ ดังนั้น กองทุน TFF เป็นโอกาสของ กทพ. ที่จะมีแหล่งเงินทุนสำหรับลงทุนเพิ่มขึ้นในอนาคต ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อ กทพ. ในระยะยาว

3. ตามที่ สรส. ได้มีประเด็นว่า "ดอกเบี้ยเป็นผลตอบแทนแก่ผู้ลงทุนสูงถึงร้อยละ 8 อาจทำให้สภาพคล่องทางการเงินมีปัญหา" สคร. ขอชี้แจงว่า ต้นทุนในการระดมทุนด้วยกองทุน TFF เหมือนกับการระดมทุนด้วยวิธีออก Infrastructure Fund (IFF) ซึ่ง กทพ. มีแผนการระดมทุนด้วย IFF อยู่แล้ว ซึ่งทั้งกองทุน TFFและ IFF เป็นรูปแบบการระดมทุนด้วยตราสารทุน (Equity) ซึ่งไม่สามารถเปรียบเทียบกับการกู้ยืมเงิน (Debt) ซึ่งการระดมทุนของกองทุน TFF ไม่นับเป็นหนี้สาธารณะ ทำให้ภาครัฐมีเพดานหนี้สาธารณะเหลือไว้ใช้ประโยชน์ด้านอื่นๆ ได้ นอกจากนี้การระดมทุนผ่านกองทุน TFF ในอนาคตจะมีการนำโครงการโครงสร้างพื้นฐานที่หลากหลายเข้ามาระดมทุนทำให้มีการกระจายความเสี่ยง ซึ่งจะส่งผลให้กองทุน TFF มีต้นทุนทางการเงินถูกกว่าที่ กทพ. ออก IFF เอง

สำหรับการจ่ายดอกเบี้ยเป็นผลตอบแทนแก่ผู้ลงทุนสูงถึงร้อยละ 8 ต่อปี ตามที่ปรากฏในข่าวนั้น เป็นความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน ทั้งนี้ การจำหน่ายหน่วยลงทุนโดยใช้กระแสรายได้ของ กทพ. ดังกล่าวจะทำในลักษณะของให้ผู้ถือหน่วยลงทุนเข้ามาประมูล (Book Build) ทำให้ต้นทุนทางการเงินที่แท้จริงขึ้นอยู่กับการแข่งขันของเอกชนผู้เข้ามาลงทุน และการจ่ายผลตอบแทนของกองทุน TFF เป็นการจ่ายผลตอบแทนในลักษณะตัดจำหน่ายต้นเงินและผลตอบแทนในคราวเดียวกันจนสิ้นสุดอายุสัญญา นอกจากนี้ เงินที่ กทพ. ได้รับจากการระดมทุนผ่านกองทุน TFF กทพ. สามารถนำไปลงทุนในโครงการโครงสร้างพื้นฐาน และเพิ่มสภาพคล่องให้กับ กทพ. ได้

4. สำหรับประเด็นเรื่อง การแปลงรูปแบบการลงทุนของรัฐบาลต่อการลงทุนพัฒนาบริการสาธารณะของรัฐวิสาหกิจ สคร. ขอชี้แจงเพิ่มเติมว่า การระดมทุนผ่านกองทุน TFF เป็นการระดมทุนโดยการขายกระแสรายได้ในอนาคต ไม่เป็นการแปรรูปรัฐวิสาหกิจ (Privatization) และไม่ใช่การขายทรัพย์สินของภาครัฐ โดยทรัพย์สินกิจการโครงสร้างพื้นฐานยังเป็นของ กทพ. ทั้งหมด และอยู่ภายใต้การกำกับและการดำเนินงานของ กทพ. ซึ่งมีหน้าที่ในการให้บริการสาธารณะ และยังเป็นการจัดหาแหล่งเงินทุนใหม่เพื่อให้ กทพ. สามารถให้บริการสาธารณะเพื่อแก้ไขปัญหาด้านการจราจรของประเทศได้มากขึ้น ซึ่งเป็นภารกิจของ กทพ. อยู่แล้ว

5. กระทรวงการคลังได้มีการกำหนดมาตรการสร้างแรงจูงใจให้รัฐวิสาหกิจนำโครงการเข้ามาระดมทุนผ่านกองทุน TFF โดยมีมาตรการรองรับที่จะดูแลไม่ให้มีผลกระทบกับผลตอบแทนพนักงาน รวมทั้งได้เตรียมแนวทางในการรองรับการขาดสภาพคล่อง (หากมี) ซึ่งถือเป็นหน้าที่ปกติที่กระทรวงการคลังในฐานะที่เป็นผู้ดูแลด้านการเงินจะเป็นผู้ให้การสนับสนุนด้านสภาพคล่องให้แก่รัฐวิสาหกิจให้สามารถดำเนินการได้ตามวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพ

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version