นับเป็นการส่งสารที่ชัดเจนว่า องค์กรธุรกิจที่ขาดการพัฒนารูปแบบธุรกิจด้วยไอทีอาจพลาดโอกาสทางการตลาดในอนาคต
นายบิล แพดฟิลด์ ผู้บริหารฝ่ายบริการของไดเมนชั่น ดาต้า กรุ๊ป กล่าวว่า รายงานฉบับนี้ได้เน้นถึงระบบงานอัตโนมัติว่ามีความสำคัญที่ทำให้การปฏิบัติงานด้านไอทีเกิดประสิทธิผลที่ดีที่สุด
"องค์กรไอทีที่ชาญฉลาดต่างเข้าใจว่า ถ้าพวกเขาไม่ให้ความสำคัญกับประสิทธิภาพการทำงานในตอนนี้ อาจจะพลาดโอกาสทางการตลาดที่มากกว่าเดิมในอนาคต ระบบงานอัตโนมัติและทักษะในการประสานงานของไดเมนชั่น ดาต้า จะเข้ามาดูแลกระบวนการและกิจกรรมทางธุรกิจของลูกค้าของเราให้ดำเนินไปได้เป็นปกติ ทำให้พวกเขาต้องการทรัพยากรที่น้อยลง และสามารถใช้เวลาได้มากขึ้นไปกับการใส่ใจในเรื่องความสามารถทางการแข่งขัน การปรับปรุงทรัพยากรที่ให้มูลค่าใหม่ ๆ การสร้างความผูกพันกับลูกค้าผ่านช่องทางที่เหมาะสม และการใช้ประโยชน์จากข้อมูลเพื่อการปฏิบัติงานที่ดีขึ้น"
กว่าทศวรรษที่ผ่านมา เทคโนโลยีได้ส่งผ่านประสิทธิภาพการทำงานที่เข้มข้น นับตั้งแต่การประหยัดต้นทุนไปจนถึงการจัดวางกำลังคน เอื้อต่อกระบวนการปฏิบัติงานที่ลดทอนความสูญเสีย และบรรลุความคาดหวังของผู้ถือหุ้น อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพงานโดยตัวมันเองนั้นยังไม่พอสำหรับยุคดิจิทัลที่กำลังเกิดขึ้น ฝ่ายปฏิบัติงานด้านไอทีจะต้องสนับสนุนแนวทางการบริหารเพื่อให้เกิดการริเริ่มธุรกิจดิจิทัลใหม่ ๆ และส่งผ่านโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีที่มีความพร้อมสูงได้ตรงต่อความต้องการของผู้ใช้งาน สิ่งเหล่านี้ต้องการระบบไอทีที่ให้ประสิทธิผลดีและยั่งยืน เพื่อส่งผ่านข้อตกลงระดับการบริการที่ดีขึ้น เกิดประสิทธิภาพมากขึ้น และบนการบริหารโครงสร้างพื้นฐานระดับสูงโดยลดความเสี่ยงจากการหยุดชะงักของระบบให้น้อยลง แต่การปล่อยให้มีการใช้ทรัพยากรอย่างอิสระเพื่อการพัฒนานวัตกรรมยังคงเป็นเรื่องท้าทาย
ขณะที่องค์กรทั้งหลายต่างรู้ว่า พวกเขาต้องพัฒนาระบบปฏิบัติงานด้านไอทีในเชิงยุทธศาสตร์มากขึ้นและใช้กลยุทธ์ให้น้อยลง ทีมพัฒนาไอทีและเทคโนโลยีในองค์กรส่วนใหญ่ยังคงดิ้นรนที่จะทำต่อไป จริง ๆ แล้ว องค์กรส่วนใหญ่ซึ่งมีส่วนร่วมในรายงานฉบับนี้ กล่าวว่า พวกเขายังคงต้องคอยสอดส่องและปรับจูนการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้านไอทีที่ยังไม่ต่อเนื่องเชื่อมโยงกัน โดยมีเพียง 14% ที่รายงานว่า โครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีของเขามาถึงจุดที่เป็นระบบดิจิทัลแล้ว
ตามรายงานดังกล่าว องค์กรเพียง 20% เท่านั้นที่กล่าวว่า การดำเนินงานของพวกเขาเป็นระบบอัตโนมัติโดยสมบูรณ์ และเกิดผลสัมฤทธิ์ในการใช้งานโครงสร้างพื้นฐานด้านไอทีเป็นอย่างดี ในขณะที่ส่วนใหญ่ยังอยู่บนเส้นทางสู่การสร้างระบบงานอัตโนมัติแต่ยังไปไม่ถึงเป้าหมาย
• 9% ขององค์กรไม่มีระบบงานอัตโนมัติ
• 13% มีระบบงานอัตโนมัติที่มีข้อจำกัด
• 32% มีระบบงานอัตโนมัติและการประสานงานในระดับกลาง
• 25% มีระบบงานที่เป็นอัตโนมัติอย่างมาก
นายแพดฟิลด์ กล่าวถึงเหตุผลบางประการที่ทำไมองค์กรไอทีทั้งหลายยังดำเนินการได้ล่าช้าอยู่ว่า น่าจะมาจากเรื่องของงบประมาณ ประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญ "การปรับเปลี่ยนสู่ยุคดิจิทัลที่ประสบความสำเร็จต้องการการผสมผสานที่ลงตัวระหว่างผู้คน กระบวนการ และเครื่องมือ อย่างไรก็ตาม แพลตฟอร์มของการให้บริการอัตโนมัติด้านไอทียังมีราคาแพง และต้องใช้เวลามากในการพัฒนาและบูรณาการเพื่อเข้าสู่สภาพแวดล้อมด้านไอทีแบบไฮบริดให้เป็นผลสำเร็จ"
คลิ๊กที่นี่เพื่อดาวน์โหลดรายงานการพัฒนาประสิทธิภาพในการขับเคลื่อนเพื่อพลิกโฉมธุรกิจสู่ยุคดิจิทัล