ที่ช็อปปิ้ง ดูหนัง-ฟังเพลง
โรงหนังสยาม-สกาล่า-ลิโด
แฟชั่นสุดฮิป เทรนด์ผมทรงใหม่ๆ
โรงเรียนกวดวิชา ฯลฯ
ตลอด 52 ปี ที่ถือกำเนิดขึ้นมาใครๆต่างก็เชื่อกันว่า
สยามฯไม่เคยตาย ไปจากหัวใจของวัยรุ่น
30.03.2017
ลืม "สยามสแควร์" ที่ทุกคนเคยรู้จัก
ภาพยนตร์ สยามสแควร์
กำหนดฉาย 30 มีนาคม 2560
สร้างและจัดจำหน่าย สหมงคลฟิล์มอินเตอร์เนชั่นแนล
บริษัทดำเนินงานสร้าง Welldone Mediumrare
อำนวยการสร้าง สมศักดิ์ เตชะรัตนประเสริฐ
ควบคุมงานสร้าง จาตุศม เตชะรัตนประเสริฐ
กำกับภาพยนตร์ ไพรัช คุ้มวัน
ดำเนินการผลิต สิริกาญจน์ ธนไพศาลสิริ, ณัฐพรรณ แย้มแขไข
บทภาพยนตร์ เอกราช มอญวัฒ, ธีปนันท์ เพ็ชรศรี, ชาญชนะ หอมทรัพย์, ไพรัช คุ้มวัน
กำกับภาพ ภิไธย สมิตสุต
ออกแบบงานสร้าง เลอพงษ์ ภู่อ่อน และชาวคณะ
ออกแบบเครื่องแต่งกาย ชญานุช เสวกวัฒนา
เมกอัพเอฟเฟกต์ สาวิตรี สุขุมวาท
ลำดับภาพ มานุสส วรสิงห์
บันทึกเสียง สราวุธ พันถา
ดนตรีประกอบภาพยนตร์ ศิวัช หอมขำ ,ปกป้อง จิตดี
ออกแบบเสียง อาทิตย์ วงษ์เมตตา / เมลโลวจูนส์
ผสมเสียง บ. วันคูลโปรดักชั่น จำกัด
นักแสดง อิษยา ฮอสุวรรณ, ธนบดี ใจเย็น, ปุริม รัตนเรืองวัฒนา, ธัญญวีร์ ชุณหสวัสดิกุล, มรกต หลิว, พลอย ศรนรินทร์, ณัฐสิทธิ์ โกฏิมนัสวนิชย์, อติคุณ อดุลโภคาธร, มนภัทร เตชะกำพุ และ อนงค์นาถ ยูสานนท์
"ไพรัช คุ้มวัน" ผู้กำกับภาพยนตร์ "สยามสแควร์"
ผมคิดว่าเราทุกคนคงมีความทรงจำกับ สถานที่หลายๆที่เป็นของตัวเอง สยามสแควร์ก็เหมือนกัน ในวัยแรกแย้มสิวเกรอะ หัวเกรียนแต่อยากเซ็ทผมใส่เจล เนตความเร็ว 56K ที่นี่เป็นทั้งที่เรียนกวดวิชา ที่นั่งชิวแถวเซนเตอร์พอยท์ในวัยที่เรายังไม่รู้ว่าชิวคืออะไร ที่ระบายอารมณ์ด้วยการไล่ยิงคนอื่นในร้านเกม ที่ดูหนังราคาเยาวชน และที่เตรียมตัวติวเอ็นทรานซ์ เวลาผ่านไป สยามสแควร์ในวันนี้ก็คงไม่เหมือนกันกับ สยามสแควร์ในวัยที่ผมเองเป็นเด็กอายุ 15 อีกต่อไป ตึกเก่าๆถูกแทนที่ด้วยห้างร้านใหม่ๆ คนหน้าเก่าๆที่เคยเดินสยามฯ ทุกวันนี้คงเปลี่ยนเป็นมาสถานีสยาม เพื่อต่อรถไปทำงานแถวสุขุมวิทหรือสาทร แต่สิ่งหนึ่งที่ยังคงเดิมไม่เคยเปลี่ยนก็คือ มันยังเป็น "สนามเหย้า" ของวัยรุ่น ให้ได้แสดงออก พบปะนัดเจอกัน ขอไลน์จีบกัน และมีความรักครั้งแรกที่นี่เหมือนครั้งก่อนในยุคของผมเอง และครั้งก่อนในยุคพ่อแม่ของเรายังเอ๊าะๆอีกด้วย
เรื่องราวในหนังเรื่องสยามสแควร์คงเหมือนการกลับไปเดินสยามอีกครั้งของผม กลับไปทบทวนความทรงจำ และค้นหาสิ่งใหม่ๆที่เปลี่ยนไปด้วย มันเหมือนเปิดสมุดเฟรนด์ชิพเล่มเก่าที่เพื่อนในห้องเขียนให้เรา มาอ่านทีละหน้าทีละบรรทัด บางหน้าอ่านแล้วยิ้มปนหัวเราะไปด้วย บางหน้าอ่านแล้วอาจจะต้องนึกนานนิดนึงว่า มันมีอะไรแบบนี้ด้วยเหรอวะ แล้วคนเขียนมันเป็นใครวะ บางหน้าอ่านแล้วน้ำตาไหลออกมาอย่างไม่รู้ตัว และบางหน้าเต็มไปด้วย ความรู้สึกที่แปลกปะหลาด คล้ายกับบรรยากาศตอนกลางคืนของสยามสแควร์ที่ทั้งเงียบ ลึกลับ ชวน ขนลุก ทั้งที่มันใกล้ตัว แต่ก็แปลกที่เรากลับไม่เคยรู้จักมันเลย
เรื่องราวของ "สยามสแควร์"
เด็กวัยรุ่น 10 คนจะพาคุณไปรู้จักกับ "สยามสแควร์" ในแบบที่คุณไม่เคยสัมผัสมาก่อน
เมื่อไม่กี่วันก่อนหน้า ระหว่างที่เมย์ กับจุ๊บเล็ก สองเพื่อนสนิทกำลังนั่งคุยถึงปัญหาเปิดอกที่ค้างคาใจมานานในห้องเรียนที่โรงเรียนกวดวิชาซีเครทคีย์ ซึ่งตั้งอยู่ในสยามสแควร์ ไฟทั้งตึกก็ดับสนิท.... มันไม่ใช่แค่ดับเฉพาะในตึกเรียนพิเศษ แต่ไฟดับมืดไปทั้งสยามสแควร์!
ทันทีที่ไฟติด...เรื่องเล่าเกี่ยวกับ "วิญญาณเด็กสาวในสยามสแควร์" ก็ถูกขุดขึ้นมาเล่าอีกครั้ง เพราะเมื่อไฟดับ ...ใครสักคนจะต้องตาย...เรื่องเล่าค่อยๆแพร่กระจายไปในอากาศ
เมย์กับจุ๊บเล็ก และกลุ่มเพื่อนที่คุ้นเคยกันจากโรงเรียนกวดวิชา ก็ได้พบเจอ "ความไม่ปกติ"กันคนละอย่างสองอย่างที่ดูจะดำเนินไปตามอาถรรพ์ในเรื่องเล่าทุกประการ เด็กๆเหลือทางเลือกไม่มากนักระหว่างไม่สนใจกับเรื่องไร้สาระนั่นแล้วตั้งหน้าตั้งตาอ่านหนังสือเตรียมสอบเข้ามหาวิทยาลัย หรืออีกทางคือหันมาเผชิญหน้ากับความเป็นจริงอันน่าสะพรึงกลัวแล้วแก้ไขมัน ถึงแม้ผลลัพธ์นั้นอาจจะทำให้ไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกต่อไปกระทั่งมิตรภาพที่พวกเขาคิดว่าจะแน่นแฟ้นยาวนาน
เด็กสยาม ใน "สยามสแควร์"10 ตัวละครที่บางคนเป็นเพื่อนต่างโรงเรียนบางคนมาจากโรงเรียนเดียวกันแต่ทั้งหมดล้วนต่างมารู้จัก สนิทสนม แอบชอบ ผูกพันและรู้สึกบางอย่างต่อกันที่โรงเรียนกวดวิชา Secret Key ใน สยามสแควร์
เมย์ (อุ้ม อิษยา) หญิงมั่น สวยแต่แอบแรง มีเพื่อนสนิทที่มาจากโรงเรียนเดียวกันคือ"จุ๊บเล็ก" สนใจแต่เรื่องของตัวเอง จนดูเหมือนไม่แคร์คนรอบข้าง เมย์มีหนุ่มที่ชอบคือ "ปอนด์"
จุ๊บเล็ก (หลิว มรกต) อ่อนไหว จริงจัง คิดมาก เพื่อนสนิทเพียงคนเดียวของ "เมย์"รักและแคร์เพื่อนมาก เรื่องของเมย์ก็คือเรื่องของจุ๊บเล็ก แต่ใช่ว่าทุกเรื่องของจุ๊บเล็กจะเป็นเรื่องของเมย์
นิด (พลอย ศรนรินทร์) เพื่อนอีกคนที่เมย์ได้รู้จักที่โรงเรียนกวดวิชา ถึงแม้ว่าทั้งคู่จะเพิ่งรู้จักกันแต่มีหลายอย่างที่ทำให้ทั้งคู่จูนกันติดและสนิทกันอย่างรวดเร็ว
เติร์ก (ภีม ธนบดี) หนุ่มลุคแบดบอยและชอบกวนประสาทเมย์ตลอดเวลา โดดเรียนพิเศษเป็นประจำ
ม่อน (เบสท์ ณัฐสิทธิ์) โผงผาง ปากไว มักโชว์โง่แบบไม่อายใคร กล้าบ้าบิ่น(ยกเว้นเรื่องผี) รักเพื่อน ยึดตำแหน่งMC.ภาคสนามของ GHOST YOUR DAD กิจกรรมถ่ายคลิปล้มล้างเรื่องงมงายไร้สาระ
หมูหวาน (ปลื้ม ปุริม) หนุ่มสุภาพ ขี้อาย เซียนคอม บ้าเกม ไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองแต่ลึกๆแอบมีความรู้สึกพิเศษกับเฟิร์น เป็น1ในสมาชิกกลุ่ม GHOST YOUR DAD ที่ตั้งขึ้นมาเพื่อถ่ายคลิปและท้าทายเรื่องต่างๆตามภาษาวัยรุ่นยุคนี้
นิวตัน (เอิร์ธ อติคุณ) เด็กวิทย์ สุดเนิร์ด เรียนเก่ง ฉลาดมาก คือมันสมองของกลุ่ม GHOST YOUR DADที่คิดว่าทุกอย่างต้องมีเหตุถึงเกิดผลและทุกสภาพสิ่งในโลกล้วนต้องอธิบายได้
ปอนด์ (บอน์น มนภัทร) หนุ่มหล่อ เจ้าเสน่ห์ เรียนเก่ง ป็อบในหมู่สาวๆ ล่าสุดกำลังขายขนมจีบเฟิร์น ปอนด์มีเพื่อนสมัยประถมที่มาเรียนกวดวิชาด้วยกันคือหมูหวาน
เฟิร์น (เหม่เหม ธัญญวีร์) เด็กสาวต่างโรงเรียน หน้าตาน่ารัก เรียบร้อย ออกแนวลูกคุณหนู ภายนอกดูสดใส ร่าเริง แต่ลึกๆชีวิตเหมือนมีกรอบที่ถูกขีดไว้ เฟิร์นรู้สึกดีและประทับใจในความน่ารักและมากน้ำใจของหมูหวานหนุ่มติ๋มที่แสนขี้อาย
มีน (คิ้ว อนงค์นาถ) สนิทกับเฟิร์นที่สุดในโรงเรียนกวดวิชา ถึงแม้ว่าจะมาจากต่างโรงเรียน เด็กผู้หญิงขี้สงสัย พูดมาก ตื่นตูม
แก๊ง GHOST YOUR DAD ชอบท้าทายเรื่องลึกลับ เรื่องเหนือธรรมชาติต่างๆรวมทั้งความเชื่องมงายต่างๆคือเรื่องไร้สาระ จึงตั้งกลุ่ม GYD หาข้อพิสูจน์ด้วยการถ่ายคลิปวิดีโอออนไลน์ลงในเฟซบุ๊กตามภาษาวัยรุ่น สมาชิกประกอบด้วย4หนุ่มจากทฤษฎีความเชื่อของกลุ่ม ทำให้ทั้งหมดเข้าไปเกี่ยวพันกับเรื่องราวลึกลับของ SIAM SQUAREโดยเฉพาะเรื่องไฟดับทั่วทั้งสยามแล้วมีเด็กนักเรียนหายตัวไป
ค้นพบเด็กสยามฯ ทั้ง10
# กว่าจะได้ 10 นักแสดงสุดฮอตมาถ่ายทอดให้ 10 ชีวิตเด็กสยามฯโลดแล่นบนจอภาพยนตร์ ผู้กำกับและทีมงาน มีวิธีการในการแคสท์ติ้ง นักแสดงด้วยการไปแอบส่อง ไอจี ของเหล่านายแบบ นางแบบ นักแสดงวัยรุ่น หน้าใส ฟรุ้งฟริ้งในโลกโซเชี่ยล คนไหนเข้าตาก็จะถูกชักชวนให้มาทดสอบบท
# ในขั้นตอนการแคสท์ติ้ง นอกจากจะเลือกจากคาแรคเตอร์ที่กำหนดไว้โดยให้นักแสดงที่เลือกมาทดสอบบทดังกล่าวที่ระบุไว้แล้ว ผู้กำกับและทีมแคสท์ติ้งก็ยังได้มีการสลับบทให้กับนักแสดงหลายๆคนที่มีแววว่าจะสามารถขยี้คาแรคเตอร์หรือผลักดันตัวละครให้แรงอย่างสมใจหรือพลิกบทบาท สร้างความแตกต่างทางด้านการแสดงต่อไปได้อีก โดยมีผลลัพธ์ที่ได้คือ ศักยภาพทางด้านการแสดงที่เกินกว่าที่คาดคิด และกลายเป็นว่านักแสดงบางคนถูกเลือกให้มารับบทที่ต่างจากตอนถูกเลือกมาแคสท์ติ้งในครั้งแรก ไม่ว่าจะเป็นบทจุ๊บเล็กที่รับบทโดยน้องหลิว มรกต หลิว แรกสุดหลิวถูกเลือกมาแคสท์ในบทเบอร์ดี้ เด็กนักเรียนอีกคนในโรงเรียนกวดวิชา ส่วนน้องเหม่เหม ธัญวีร์ ชุณหสวัสดิกุลถูกเรียกให้มาแคสท์ในบท เมย์ เด็กสาวต่างโรงเรียนที่มั่นใจในตัวเอง สวยแต่แอบแรง แต่สุดท้ายน้องอุ้ม อิษยา ฮอสุวรรณมารับหน้าที่ถ่ายทอดตัวละครเมย์ โดยตัวน้องเหม่เหมผู้กำกับเห็นแววว่าน่าจะเหมาะกับบทเฟิร์นอีกหนึ่งคาแรคเตอร์เด็กสยามที่ดูภายนอก สดใส ร่าเริง หน้าตาน่ารักสไตล์ลูกคุณหนู แต่ลึกๆแล้วถูกวางกรอบชีวิตและขีดเส้นไว้ซึ่งไม่เพียงท้าทายแต่เปิดพื้นที่ให้นักแสดงทุกคนใน สยามสแควร์ ได้ตีความทางด้านการแสดงแบบไม่มีขีดจำกัด
#ในบรรดา 10 นักแสดงวัยรุ่นหน้าใสที่มารับบทเด็กสยามฯ นอกเหนือจากพลอย ศรนรินทร์ ,ปลื้ม ปุริม , เบสท์ ณัฐสิทธิ์, เอิร์ธ อติคุณ ที่ล้วนขึ้นจอใหญ่ผ่านผลงานการแสดงภาพยนตร์กันมาแล้ว ยังมี อุ้ม อิษยา, คิ้ว อนงค์นาถ, หลิว มรกต, บอน์น มนภัทร, เหม่เหม ธัญญวีร์, ภีม ธนบดีที่ถึงแม้ว่าจะเป็นการแสดงภาพยนตร์ครั้งแรกแต่ถึงกระนั้นทุกคนล้วนผ่านประสบการณ์ทางการแสดงมากันนับไม่ถ้วนทั้งทางหนังสั้น, ละคร, ซี่รี่ส์ โดยเฉพาะภาพยนตร์โฆษณา ส่งผลให้ "การแสดงของเหล่า10นักแสดงวัยรุ่นของสยามสแควร์" คืออีกหนึ่งไฮไลท์สำคัญของภาพยนตร์ที่น่าจับตามองโดยเฉพาะอย่างยิ่งการแสดงที่มีความเป็นธรรมชาติอยู่ในตัวสูงชนิดที่ว่าคนดูจับต้องได้
# แม้ชื่อหนังจะชวนให้คิดว่าเป็นหนังวัยรุ่นสดใส ฟรุ้งฟริ้ง หวานซึ้งชวนอมยิ้ม ฮากระจายที่รับประกันว่ามีให้เห็นอย่างจุใจในความเป็นหนังวัยรุ่นอย่างแน่นอน แต่กลายเป็นว่าไม่มีคิวไหนที่การถ่ายทำจะเกิดขึ้นสบายๆชิวๆ เพราะแทบทุกคิวในการถ่ายทำของเหล่านักแสดงนอกจากจะต้องเผชิญหน้ากับสารพัดฉากที่ทุกตัวละครจะต้องถ่ายทอดการแสดงที่เต็มไปด้วยอารมณ์ของการกระชากความรู้สึก,บีบเค้น,กดดัน ตัวละครเด็กสยามแต่ละคนจะต้องเผชิญหน้าและตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากในการคาดเดา ซึ่งทั้งเข้มข้นและท้าทายความสามารถในการแสดง ซึ่งเกิดขึ้นและดำเนินไปบนเรื่องราวของภาพยนตร์นับตั้งแต่ฉากแรกของการเปิดเรื่องลากยาวไปจนถึงฉากปิดกันเลยทีเดียว บนการทำงานที่เปรียบได้กับโจทย์ข้อยากที่นักแสดงทุกคนจะต้องเจอ
# 15 ปีคืออายุของ พลอย ศรนรินทร์ ถือเป็นอายุที่น้อยที่สุดของนักแสดงในเรื่องสยามสแควร์ และเบสท์ ณัฐสิทธิ์ โกฏิมนัสวนิชย์ คือนักแสดงที่อายุมากที่สุดในหมู่นักแสดง โดย19ปี คืออายุเฉลี่ยของนักแสดงทั้งหมด
# 10 กิโลกรัม คือน้ำหนักที่หนุ่ม เบสท์ ณัฐสิทธิ์ โกฏิมนัสวนิชย์ ยอมลดเพื่อมารับบทม่อน หนึ่งในแก๊งค์เด็กสยาม ทำเอาผู้กำกับเราถึงกับยอมซูฮกในสปิริตนักแสดงของหนุ่มเบสท์เลยทีเดียว
# พลอย ศรนรินทร์ จาก อาปัติ และลูกทุ่งซิกเนเจอร์คือ ตัวเลือกแรกและตัวเลือกเดียวของไพรัช คุ้มวัน ผู้กำกับสยามสแควร์เมื่อมองหานักแสดงที่จะมารับบท นิด และเป็นตัวเลือกเดียวของ อุ้ม อิษยาว่ากลัวที่จะต้องเข้าฉากร่วมกับใคร แน่นอนว่าคำตอบที่ได้จะเป็นใครถ้าไม่ใช่ พลอย ศรนรินทร์
# สยามสแควร์ คือประสบการณ์การทำงานในฐานะภาพยนตร์เรื่องแรกที่นางเอกสาว อุ้ม อิษยา ฮอสุวรรณ จะต้องจดจำไปชั่วชีวิต เพราะเต็มไปด้วยความยากและท้าทายตั้งแต่วันแรก จนถึงวันสุดท้ายของการถ่ายทำเลยทีเดียว ที่โหดและหินที่สุดคือต้องร้องไห้ตอนตี1และเป็นซีนสุดท้ายของวัน แน่นอนว่าถ้าเล่นซีนนี้ไม่ผ่านหรือไม่ได้ทุกคนทีมงานทั้งหมดก็จะไม่สามารถเลิกกองได้ ยังไม่รวมกับการที่ต้องถ่ายทำฉากที่ต้องเดินแชทไลน์โทรศัพท์ริมถนนคนเดียวตอนตี4 บทเมย์ที่ได้รับยังต้องมีฉากที่ต้องแสดงคนเดียวและต้องเป็นการแสดงที่ถ่ายทอดความรู้สึกของตัวละครในหลากหลายอารมณ์ พูดได้ว่าเป็นบทบาทการแสดงที่โหดหินที่สุดเท่าที่เคยเจอมาเลยทีเดียว
# ชั่วโมงนี้คงไม่มีใครฮอตในหมู่สาวน้อยหน้าใส ออกแนว เกาหลี ญี่ปุ่น ฟรุ้งฟริ้ง ดีกรีชนะเลิศการประกวดYoung model contest 2015 เจ้าของตำแหน่งพิเศษ miss b-ing Colourful life 2015 อย่างเหม่เหม ธัญญวีร์ ชุณหสวัสดิกุล ผู้รับบท "เฟิร์น" 1ในเด็กสยามที่สวยหวานซึ้งใส เรียบร้อย นิ่ง สไตล์คุณหนู และยิ่งจับคู่กับปลื้ม ปุริม เป็นคู่จิ้นที่รับรองว่าทุกคนจะรักทั้งเหม่เหม่และปลื้มอย่างแน่นอน ถึงแม้ว่าตัวจริงของเหม่เหมจะตรงกันข้ามกับบทที่ได้รับโดยสิ้นเชิง เพราะสาวน้อยวัย16ย่าง17คนนี้ที่ขี้เล่น ทะเล้น นั่งไม่ติดเบาะ อุปสรรคเดียวในการเป็นบทเฟิร์นคือต้องห้ามหลุดขำ แต่สิ่งหนึ่งที่เฟิร์นกับเหม่เหมเหมือนกันคือความสามารถพิเศษในการเล่นเปียโน
#กว่าที่ "เอิร์ธ อติคุณ อดุลโภคาธร" จะสลัดภาพ "สมพงษ์ ฮอร์โมน"เพื่อมารับบทนิวตัน หนุ่มฉลาด มันสมองของแก๊ง Ghost your dad ผู้กำกับไพรัช ถึงกับทำทุกวิถีทาง และเมื่อน้องเบลล์ เขมภิสรา 1 ในนักแสดงฮอร์โมนที่เคยร่วมงานกับเอิร์ธ ได้รับภาพการปรับโฉมของหนุ่มเอิร์ธ และถามว่ารูปที่ส่งมาให้คือใคร??? งานนี้ผกกจึงมั่นใจว่าคนดูจะสลัดภาพสมพงษ์ออกได้เช่นกัน
# "ราชันย์แห่งราตรี" กลายเป็นฉายาติดตัวของหนุ่มภีม หลังจากคว้าแชมป์เจ้าพ่อคิวไนท์ถ่ายฉากกลางคืนเข้าวินแซงเพื่อนนักแสดงสยามสแควร์ไปแล้วทุกคน โดยหนุ่มภีมผ่านประสบการณ์ถ่ายทำทะลุ6-7โมงเช้ามาแล้ว รวมไปถึงการที่ต้องเข้าฉากในสยามตอนกลางคืนตี2-ตี4 แต่ที่เด็ดสุดคืองการถอดเสื้ออาบน้ำในสยามสแควร์ตอนตี3
# ถึงแม้จะเป็นงานแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกของ หลิว มรกตในบทบาทของจุ๊บเล็ก แต่ใครหลายๆคน ไม่เว้นแม่แต่ทีมงานต่างคุ้นเคยกับหน้าตา และทักษะการแสดงสุดพีคของนักแสดงเล็กพริกขี้หนูคนนี้อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะน้องหลิวผ่านงานมาทั้วทั้งวงการบันเทิงไม่ว่าจะเป็น Thank you for sharing โฆษณา DTAC ที่กลายเป็น1ในหนังโฆษณายอดเยี่ยมประจำปีของ B.A.D Awards งานหนังสั้น และงานโฆษณาหลากหลายมานับไม่ถ้วน และล่าสุดทั้งหลิว มรกต ,เอิร์ธ อติคุณ และเบสท์ณัฐสิทธิ์ 3เด็กสยามถูก "นิ้วกลม" ครีเอทีฟ นักเขียน ที่โดดเด่นในวงการหนังสือและโฆษณากวาดเรียบทั้ง3คนไปเป็น3ตัวละครสำคัญในหนังสั้น "เรื่องสยองของการศึกษาไทย" ซึ่งกำลังเป็นที่กล่าวถึงอย่างมากอยู่ในขณะนี้
สยามสแควร์ในมุมมองที่คุณไม่เคยเห็น ผ่านเหล่าทีมงานมากฝีมือ
# จุดเด่นที่สำคัญที่ถือเป็นความตั้งใจของผกก.ไพรัช คุ้มวันคือ ผู้ชมจะได้เห็นตัวละครวัยรุ่นที่เป็นตัวแทนของเด็กสยามฯ ถูกนำเสนอที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงที่สุด นึกภาพของเด็กวัยรุ่น16-17 ที่มาเรียนพิเศษตกเย็นเดินสยาม เป็นภาพของเด็กนักเรียนม.ปลายธรรดาๆพร้อมกลุ่มเพื่อนที่มาใช้ชีวิตช่วงหนึ่งในสยามสแควร์ที่เป็นศูนย์กลางของวัยรุ่นแหล่งรวมแฟชั่นมากกว่าจะเป็นภาพของเด็กวัยรุ่นที่ถูกนำเสนอผ่านสื่อโฆษณาหรือโทรทัศน์ที่ค่อนข้างห่างไกลจากวัยรุ่นจริงๆ
# วิช่วลทางด้านภาพ เป็นอีกองค์ประกอบสำคัญของภาพยนตร์"สยามสแควร์" นอกเหนือจากแนวคิดไอเดียในคอนเซ็ปท์ของการนำเอาเรื่องราวของวัยรุ่นสยามมาผสมผสานกับเรื่องราวในเชิงระทึกขวัญที่มี"สยามสแควร์"เป็นฉากหลังในการดำเนินเรื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งการได้ผู้กำกับอย่าง ไพรัช คุ้มวัน ผู้กำกับภาพยนตร์โฆษณา ที่มีดีกรีเจ้าของรางวัลสุพรรณหงส์ สาขากำกับภาพยอดเยี่ยมจาก Mary is Happy,Marry is Happy รวมไปถึง 36 ทั้งสองผลงานกำกับภาพยนตร์ของ เต๋อ นวพล จนเข้าตาผู้กำกับภาพยนตร์ชาวญี่ปุ่นชักชวนให้ไปกำกับภาพให้กับภาพยนตร์ร่วมทุนระหว่างไทย-ญี่ปุ่นเรื่อง Hand in the Glove จึงไม่น่าที่ภาพยนตร์เรื่องสยามสแควร์จะมีสไตล์ภาพในโทนสดใสของวัยรุ่นที่เต็มไปด้วยสีสันท่ามกลางสยามสแควร์ แต่ในขณะเดียวกันก็จะได้เห็นงานทางด้านภาพของสยามในมุมที่เต็มไปด้วยความลึกลับ น่าค้นหา การเล่นกับซอกหลืบตรอกซอย ของสยามที่มิติทางด้านภาพ องค์ประกอบของแสงเงา ที่ชวนขนลุกและสร้างความแตกต่างกันเลยทีเดียว
#โดยทั้งนี้สำหรับภาพยนตร์เรื่องสยามสแควร์ ไพรัช คุ้มวัน เลือกให้ภิไธย สมิตสุต (ผู้ชนะการประกวดATF Super Pitch2013 สาขาDocumentary คือคนทำหนังรุ่นใหม่ที่มีเครดิตเป็นทั้งผู้กำกับภาพ,คนทำงานเบื้องหลัง,ผู้กำกับหนังสั้น ฯลฯ มีผลงานเบื้องหลังหนังต่างประเทศอย่างแรมโบ้,Hang over2,เจ้าของผลงานหนังสั้นBlinked ถ่ายที่อเมริกาและคว้ารางวัลมหาชนที่เทศกาลหนังยูเอสยู,มีผลงานหนังสั้นคาราโอเกะแท็กซี่ที่ได้รับเชิญและเข้าประกวดในเทศกาลภาพยนตร์ต่างๆอาทิ มอสว์ ,นิวออร์ลีนส์,อินดี้เฟส ยูเอสเอ, นิวพอร์ท , จอห์น ฮอพกินส์----ข้อมูลจากwww.thaicinema.org) มารับหน้าที่ผู้กำกับภาพ และเปิดโอกาสให้ได้สร้างจินตนาการ และไอเดียในการนำเสนอมุมมองทางด้านภาพอย่างเต็มที่ เพื่อให้บรรยากาศของ"สยามสแควร์" ถูกถ่ายทอดลงบนจอภาพยนตร์ในแนวทางที่ตรงความต้องการมากที่สุด นอกเหนือจากการเล่าเรื่องผ่านมุมภาพแทนสายตาของตัวละคร ไปจนถึงการตามติดตัวละคร ให้เกิดความรู้สึกราวกับผู้ชมเดินไปในสยามสแควร์พร้อมกับตัวละครผ่านการนำเอาสเตดี้แคมมาใช้ในการถ่ายทำ หรือแม้แต่การนำเอาเครนGF20 มาติดกล้องเพื่อเก็บภาพมุมกว้างให้เห็นพื้นที่ของสยามสแควร์ไกลสุดลูกหูลูกตา ทำให้งานทางด้านภาพของตัวภาพยนตร์เต็มไปด้วยความหลากหลายและพรือมสร้างความแปลกใหม่ให้กับภาพยนตร์
# พูดได้ว่านอกเหนือจากโปรดิวเซอร์ ผู้กำกับ ทีมเขียนบท ผู้กำกับภาพและทีมงานในหลายๆส่วนที่รวมตัวกันมาร่วมสร้างสรรค์ให้"สยามสแควร์" เป็นอีกผลงานเพื่อสร้างวิสัยทัศน์ในอีกรูปแบบของภาพยนตร์ไทยแล้ว อีกหนึ่งไอเดียที่ถูกต่อเติมจากตัวหนังสือในบทภาพยนตร์ให้เกิดเป็นวิช่วลทางด้านภาพในซีนสำคัญที่เกิดขึ้นกับทุกตัวละครในภาพยนตร์และถ่ายทำในพื้นที่สำคัญของสยามสแควร์นอกจากนักแสดงเด็กสยามทั้งหมดจะต้องเข้าฉากด้วยกันแล้ว ผู้กำกับไพรัช คุ้มวันเลือกที่จะถ่ายทำและนำเสนอในรูปแบบของOne Long Take และได้ผู้กำกับภาพมือ1ของเมืองไทยที่โดดเด่นที่สุดในการโอเปอร์เรทในการใช้กล้องstedicamอย่างสมศักดิ์ ศรีสวัสดิ์ ซึ่งมีเครดิตในการถ่ายทำฉากตึก4ชั้นความยาว4นาทีของต้มยำกุ้ง และฉากแอ็คชั่น One Long take ใน เร็วทะลุเร็ว รวมไปถึงภาพยนตร์และภาพยนตร์โฆษณาไทยและต่างประเทศ และรายการเดอะวอยซ์มาถ่ายทำในฉากสำคัญฉากนี้ของสยามสแควร์ โดยความยากของการถ่ายทำในฉากนี้คือนักแสดงทั้งหมดต้องแสดงในฉากนี้โดยต้องสัมพันธ์กันทั้งกับตัวละครและกล้องstedicamที่จะติดตามตัวละครไปเริ่มต้นจนจบซีนภายใต้การถ่ายทำตอนตี4 และกว่าจะได้ภาพออกมาตามความตั้งใจของผู้กำกับ ฉากนี้ฉากเดียวต้องถ่ายทำไปถึง13เทคเลยทีเดียว
#นอกจากนี้ภาพยนตร์เรื่องสยามสแควร์ ยังเลือกใช้เลนส์ Anamorphicในการถ่ายทำเพื่อตั้งใจมอบทัศนวิสัยที่แปลกปะหลาด และสดใหม่ซึ่งค่อนข้างมีน้อยมากที่เราจะได้เห็นภาพยนตร์ไทยที่ถ่ายทำด้วยเลนส์ชนิดนี้ความพิเศษของเลนส์ที่เน้นความกว้างขององค์ประกอบภาพ สามารถทำให้ภาพ ระยะใกล้Close up เป็นภาพกว้างได้ในทีเดียวกัน มิติของการเล่าเรื่องก็มีความลึก Dept ที่เยอะขึ้นผ่านการวางเฟรม แน่นอนว่ายิ่งสร้างความพิเศษให้สยามสแควร์ที่ทุกคนรู้จักปรากฎขึ้นบนจอภาพยนตร์ในมุมมองที่สวย ลึกลับและแปลกกว่าที่เคยเป็นมาโดยเฉพาะสยามสแควร์ในยามค่ำคืน