นายเทพชัย หย่อง ประธานกรรมการ บมจ.เนชั่น มัลติมีเดีย กรุ๊ป กล่าวว่า ทางเนชั่น กรุ๊ป อยู่ระหว่างการปรับโครงสร้างองค์กรโดยหันมาเน้นสื่อด้านออนไลน์ซึ่งเป็นสื่อที่มีโอกาสเติบโตสูง จึงต้องจัดวางกำลังคนให้สอดคล้องกับทิศทางของเครือ โดยบริษัทมีเป้าหมายว่าจะก้าวขึ้นเป็นผู้นำในสื่อออนไลน์ ซึ่งในช่วงที่ผ่านมา เนชั่น กรุ๊ป มีฐานเว็บไซต์ที่มียอดผู้เข้าชมจำนวนมาก ทั้งเว็บไซต์คมชัดลึกและเว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ และเมื่อรวมเว็บไซต์กับสื่อโซเชียล มีเดีย ของทั้งเครือเนชั่น กรุ๊ป มียอดผู้เข้าชมและผู้ติดตามสูงกว่าสิบล้านคนแล้ว จึงถือเป็นโอกาสที่จะเติบโตต่อไป
"การจัดทัพครั้งนี้ เป้าหมายหลักอยู่ที่สื่อออนไลน์ ดังนั้นจึงต้องปรับกำลังคนให้พร้อมเพื่อให้บรรลุเป้าหมายใหม่ คือ ก้าวขึ้นเป็นผู้นำในสื่อออนไลน์ ขณะเดียวกันก็ต้องทำให้องค์กรกระชับ คล่องตัว ในการเดินไปข้างหน้าด้วย" นายเทพชัย กล่าว
การปรับโครงสร้างของเครือเนชั่นได้ตั้งเป้าหมายว่า ในปี 2560 ธุรกิจด้านออนไลน์จะต้องเติบโตเป็นเท่าตัวในทุกด้าน ทั้งในมุมของการเพิ่มจำนวนผู้เข้าชมเว็บไซต์และด้านรายได้ จากปี 2559 ที่เครือเนชั่น มีรายได้จากสื่อออนไลน์ ประมาณ 40 ล้านบาท โดยรายได้หลักมาจากเว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ bangkokbiznews.com ส่วนปีนี้ ตั้งเป้าหมายว่า เนชั่น กรุ๊ป จะต้องมีรายได้จากธุรกิจสื่อออนไลน์ รวมกันไม่ต่ำกว่า 80 ล้านบาท
แผนการเปิดแนวรุกในสื่อออนไลน์ของเครือเนชั่นครั้งนี้ จะมี 3 เว็บไซต์หนังสือพิมพ์ของเครือเนชั่น เป็นแกนกลาง เพื่อทำหน้าที่เว็บท่า หรือ Portal ที่แข็งแกร่งตามด้วยเว็บลูกของแต่ละสื่อ ซึ่งจะมีบทบาทในการเพิ่มรายได้ในรูปแบบต่างๆ นอกเหนือจากโฆษณาแบนเนอร์ บนหน้าเว็บไซต์ โดยเฉพาะบริการออนไลน์ในรูปแบบต่างๆ ตั้งแต่โมเดล การหารายได้จากอีคอมเมิร์ซ โฆษณาในรูปแบบคลาสสิฟายด์ออนไลน์ ไปจนถึงโมเดลรายได้แบบเอเยนซี
"4 เว็บไซต์หลักของเรา คมชัดลึก กรุงเทพธุรกิจ The Nation และ เนชั่นทีวี ณ ขณะนี้ มียอดผู้เข้าชม โดยไม่นับซ้ำ หรือ UIP ประมาณ 5 แสนคนต่อวัน เราตั้งเป้าว่าไม่เกินสิ้นปี เว็บไซต์ของทั้งเครือจะต้องมียอดผู้ชมไม่ต่ำกว่า 1 ล้านคนต่อวัน เพิ่มขึ้นเกินเท่าตัวด้วยกลยุทธ์หลายๆ ด้าน" นายเทพชัย กล่าว และย้ำเป้าหมายว่า รายได้จากสื่อออนไลน์ของเครือเนชั่น จะต้องเพิ่มขึ้นในสัดส่วนเดียวกัน
สำหรับแผนปฏิบัติการแรกเพื่อมุ่งสู่ผู้นำในสื่อออนไลน์ คือจัดสรรกำลังคนไปยังเว็บหลัก เพื่อสร้างความแข็งแกร่ง และปรับโพสิชั่นนิ่ง หรือตำแหน่งทางการตลาดของแต่ละเว็บให้ชัดเจน โดยเฉพาะ The Nation ที่จะเปลี่ยนกลุ่มเป้าหมายจากผู้ที่ใช้ภาษาอังกฤษในเมืองไทย ไปยังคนทั่วโลกที่ต้องการ รู้เรื่องเมืองไทย ทั้งในด้านท่องเที่ยว และการทำธุรกิจ
เว็บไซต์ The Nation จะก้าวสู่การเป็น Thailand Portal เว็บท่าที่ให้ข้อมูลทุกด้านของเมืองไทย ส่วนเว็บไซต์คม ชัด ลึก จะเพิ่มความไว ความลึก และความหลากหลาย เพื่อก้าวเป็น News Portal ที่สมบูรณ์แบบ ส่วนเว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ ที่มีฐานผู้อ่านเป็นกลุ่มที่ชัดเจนอยู่แล้ว จะเพิ่มทั้งเนื้อหา และบริการต่างๆ เพื่อตอบโจทย์การเป็น Business Portal ก้าวข้ามการเป็นเว็บข่าวไปสู่แกนกลางของคนธุรกิจในเมืองไทย
"การปรับ 3 เว็บไซต์หลักสู่การเป็น Portal เป็นเพียงก้าวแรก เพื่อเร่งสร้างทราฟฟิก และวางกลุ่มเป้าหมายที่ถูกต้อง ซึ่งจะเป็นฐานที่มั่นหลักไปสู่การทำรายได้ในรูปแบบอื่นๆ โดยในไตรมาส 2 เป็นต้นไป จะมีเว็บไซต์และแอพพลิเคชั่น ใหม่ของเครือทยอยเผยโฉมอีกไม่ต่ำกว่า 5 แพลทฟอร์มในปีนี้" ประธานกรรมการเครือเนชั่น กล่าว
นายเทพชัยกล่าวด้วยความมั่นใจว่า สื่อออนไลน์ของเครือเนชั่นมีศักยภาพมากพอที่จะก้าวขึ้นท่านผู้นำ แต่ที่ผ่านมา ขาดกำลังคน เพราะต้องให้ความสำคัญกับสื่อหลักที่เป็นรายได้หลักของเครือ อย่างไรก็ตามจากนี้ไป เมื่อจัดทัพกำลังคนลงไปบุกสื่อออนไลน์มากขึ้น จะสามารถเพิ่มความแข็งแกร่งให้กับทุกเว็บไซต์ และเชื่อมโยงสู่สื่อใหม่อย่างเป็นระบบ จึงเชื่อมั่นว่า เครือเนชั่นจะก้าวขึ้นมายืนในตำแหน่ง "ผู้นำ" ได้อย่างแน่นอน
"สื่อออนไลน์ของเราครอบคลุมผู้อ่านทุกเซ็กเมนท์ ตอบโจทย์ผู้ลงโฆษณาทุกกลุ่ม ผมขอหนึ่งปี เนชั่นจะขึ้นมาเป็นผู้นำในกลุ่มสื่อออนไลน์อย่างแข็งแกร่ง และมีโมเดลธุรกิจที่หลากหลายมากกว่าการลงโฆษณาในรูปแบบแบนเนอร์เท่านั้น" นายเทพชัย ยืนยัน
ขณะเดียวกันในส่วนของสถานีโทรทัศน์ดิจิทัล NOW26 ซึ่งถือเป็นช่องสารคดีอันดับหนึ่ง และมีเรทติ้งในอันดับ 10 ก็มีเป้าหมายที่จะก้าวสู่ช่องทีวีของคนรักธรรมชาติ และพัฒนาคอนเทนท์สารคดีด้านต่างๆ เพิ่มขึ้น เพื่อให้กลุ่มผู้ชมกว้างขึ้น โดยมีเป้าหมายให้ช่องมีทีวีอาร์ในระดับ 0.25 ด้วยตัวเลขค่าเฉลี่ยผู้ชม 2 แสนคนต่อนาที
ทั้งนี้ในการก้าวสู่เป้าหมายดังกล่าว นายเทพชัย กล่าวว่า ทางช่อง NOW26 ได้เจรจากับพันธมิตรระดับโลก เพื่อร่วมมือพัฒนารายการสารคดีใหม่ๆ นอกเหนือจากที่ได้นำสารคดีของผู้ผลิตชื่อดังอย่าง บีบีซี เนชั่นแนล จีโอกราฟฟิก และดิสคัฟเวอรี่ รวมทั้งผู้ผลิตรายการชั้นนำทั้งจากออสเตรีย ฝรั่งเศส เยอรมัน และออสเตรเลีย มาออกอากาศ ทำให้ขณะนี้ช่อง NOW26 เป็นแหล่งรวมของสารคดีชั้นนำของโลกมากที่สุดในเมืองไทย
ขณะเดียวกัน ผู้ผลิตรายการสารคดีชั้นนำของไทย ไม่ว่าจะเป็น ปองพล อดิเรกสาร บารมี เต็มบุญเกียรติ สมิท สุติบุตร และแจ็ค ณ อยุธยา รวมถึงทีวีบูรพา ก็ถือเป็นกลุ่มผู้ผลิตรายการสารคดีที่จะร่วมสร้างความแข็งแกร่งให้กับความเป็นช่องสารคดีของ NOW26 อย่างรอบด้านมากขึ้น
นายเทพชัยกล่าวต่อว่า อีกความเปลี่ยนแปลงที่จะนำความโดดเด่นด้านสารคดีให้กับช่อง NOW26 คือ การผลิตรายการประเภทสารคดีเชิงข่าวหรือ Factual Documentary เพิ่มขึ้น เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ชมที่สนใจเรื่องราวข่าวสารที่นำเสนอเชิงลึก และการเสาะหาข้อเท็จจริงของทีมข่าวมารายงาน โดยในช่วงที่ผ่านมา ทางช่อง NOW26 ได้ผลิตรายการลักษณะนี้มาแล้ว คือรายการ ล่าความจริง และถือเป็นรายการที่ประสบความสำเร็จค่อนข้างสูง
นอกจากนี้ ทางเนชั่น กรุ๊ป ยังวางแผนขยายฐานผู้ชม ผู้อ่าน ให้มากขึ้น โดยนายเทพชัยกล่าวว่า ในส่วนของฝ่ายข่าวนั้น จะมีการปรับเปลี่ยนในลักษณะ Newsroom Transformation คือ การนำเอาข่าวสาร ข้อมูลต่างๆ ที่น่าสนใจมาพัฒนาดัดแปลงในลักษณะดิจิทัล เพื่อเผยแพร่ต่อทางแพลทฟอร์มต่างๆ รวมถึงโซเชียล มีเดีย ให้มากขึ้นและรวดเร็วขึ้น ซึ่งจะช่วยให้เข้าถึงผู้อ่านและผู้ชมในวงกว้าง ขณะเดียวกันยังมีกิจกรรมต่างๆ ของเครือเพื่อสร้างความสัมพันธ์กับกลุ่มผู้ชม ผู้อ่านอย่างใกล้ชิด เช่น เนชั่น ทีวี จะจัดเนชั่น ไบค์ ยกขบวนปั่นไปยังพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ขณะที่ช่อง NOW26 ก็มีกิจกรรมท่องโลกทะลุจอ ที่นำผู้ชมและผู้สนใจไปท่องธรรมชาติในพื้นที่ต่างๆ
"หลังปรับโครงสร้างต่างๆ ข้างต้น เราเชื่อว่า จะเป็นฐานใหม่ที่ทำให้เนชั่น กรุ๊ป ก้าวไปข้างหน้าอย่างมั่นคง เพราะเป็นการปรับตัวทั้งด้านเทคโนโลยี แพลทฟอร์ม และคอนเทนท์ในการนำเสนอโดยสอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีและพฤติกรรมผู้บริโภค" ประธานกรรมการเนชั่น กรุ๊ป กล่าว