แอมเวย์มั่นใจอนาคตธุรกิจแอมเวย์ ลงทุนทำวิจัยรับการเติบโต

พฤหัส ๐๒ มีนาคม ๒๐๑๗ ๑๖:๑๖
แอมเวย์ยืนยันธุรกิจแอมเวย์อนาคตสดใส ลงทุนทำวิจัยทั่วโลกเพื่อค้นหาแนวโน้มความต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจของผู้คน 45 ประเทศ ย้ำแนวคิดธุรกิจแอมเวย์สอดรับกับแนวโน้มของผู้คนทั่วโลก โดยเฉพาะคนไทยที่มีศักยภาพสูงที่จะเริ่มต้นธุรกิจของตนเอง เตรียมแผนรุกหนัก หวังเพิ่มจำนวนนักธุรกิจแอมเวย์ที่ประสบความสำเร็จให้โตเป็นสองเท่าใน 7 ปีข้างหน้า

นายกิจธวัช ฤทธีราวี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอมเวย์ (ประเทศไทย) จำกัด กล่าวว่า "จากแนวโน้มการเติบโตของความต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจของตนเอง ซึ่งสอดรับกับแนวคิดธุรกิจแอมเวย์ในการสร้างอาชีพให้ผู้คนได้มีธุรกิจเป็นของตนเอง ด้วยการลงทุนต่ำ ความเสี่ยงน้อย และมีการสนับสนุนที่แข็งแกร่ง แอมเวย์จึงมั่นใจในอนาคตของธุรกิจแอมเวย์ว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง พร้อมสามารถผลักดันให้คนไทยที่ยึด 'นักธุรกิจแอมเวย์' เป็นอาชีพ ไม่ว่าจะอาชีพหลักหรือเพียงรายได้เสริม ได้เติบโตอย่างต่อเนื่องและเพิ่มจำนวนผู้ประสบความสำเร็จเป็น สองเท่าใน 7 ปีข้างหน้านี้"

"แอมเวย์ยังได้ลงทุนครั้งใหญ่ทำวิจัยใน 45 ประเทศทั่วโลก เพื่อค้นหา 'ความต้องการเป็นเจ้าของธุรกิจ SMEs' ซึ่งผลสำรวจนี้สนับสนุนความคิดของเราได้เป็นอย่างดีว่า คนไทยมีทัศนคติที่ดีต่อการเป็นเจ้าของธุรกิจ ขณะเดียวกันยังเชื่อว่าตนเองมีศักยภาพมากพอที่จะเริ่มต้นธุรกิจ SMEs ได้สูงถึง 77% การวัดความพร้อมในการเริ่มต้นธุรกิจนั้น เป็นลิขสิทธิ์เฉพาะที่แอมเวย์ได้พัฒนาขึ้นมา มีข้อกำหนด 3มิติ ได้แก่ 1) ความต้องการที่จะเริ่มธุรกิจอย่างจริงจัง 2) ความพร้อมที่จะเริ่มต้นทำธุรกิจ และ 3) ความอดทนต่อแรงกดดันในการเริ่มธุรกิจ"

"นอกจากนี้ สภาพเศรษฐกิจและสังคมที่เอื้อต่อการเริ่มต้นธุรกิจ รวมทั้งแนวโน้มมุมมองที่มีต่อการใช้ชีวิตและวิถีการทำงาน ทำให้ผู้คนมีความต้องการที่จะประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว เพื่อได้ใช้ชีวิตในรูปแบบไลฟ์สไตล์ที่ตนเองต้องการ โดยเฉพาะในกลุ่มคนรุ่นใหม่ ทำให้ธุรกิจเครือข่ายเป็นอาชีพทางเลือกที่มีโอกาสเติบโตสูงมาก แอมเวย์จึงได้นำจุดเด่นนี้มาประกอบกับเทคโนโลยีที่ประเทศไทยกำลังจะก้าวเดินไปตามนโยบายของรัฐบาล เพื่อประสานความไฮเทค (High-tech) กับไฮทัช (High-touch) ในการอำนวยความสะดวกให้การทำธุรกิจแอมเวย์ง่ายขึ้น และทำได้ทุกที่ทุกเวลา จึงเชื่อมั่นว่า ด้วยแนวทางนี้จะทำให้ธุรกิจแอมเวย์เติบโตตามที่ตั้งเป้าไว้" นายกิจธวัชกล่าวในที่สุด

ผศ.ดร. ธนพล วีราสา อาจารย์ประจำสาขาภาวะผู้ประกอบการและนวัตกรรม วิทยาลัยการจัดการ มหาวิทยาลัยมหิดลให้ความเห็นเพิ่มเติมว่า "คนไทยและคนเอเชียมีความต้องการที่จะเริ่มทำธุรกิจสูงกว่านานาชาติ โดยมองว่าทัศนคติเชิงบวกในการเริ่มเป็นเจ้าของธุรกิจของคนไทยที่อายุน้อยกว่า 35 ปีหรือคนรุ่นใหม่นั้น น่าจะเกิดจากการยอมรับและปรับใช้นโยบายของรัฐบาล หรือไทยแลนด์4.0 ซึ่งรัฐบาลต้องการกระตุ้นภาคอุตสาหกรรม โดยเน้นการลงทุนที่จะทำให้องค์กรมีการเติบโต สามารถสร้างประโยชน์ได้สูง ทั้งรัฐบาลยังมีนโยบายส่งเสริมอีกมาก เช่น เงินทุนสำหรับธุรกิจสตาร์ทอัพโดยธนาคารของรัฐ มีการให้ทุนจากองค์กรเอกชนต่างชาติ สิทธิประโยชน์ด้านภาษีกลุ่ม SMEs และโครงการสนับสนุนกลุ่มธุรกิจสตาร์ทอัพประเทศไทย เป็นต้น"

"ธุรกิจเครือข่ายเป็นอีกธุรกิจหนึ่งที่น่าจับตามองเช่นกัน เนื่องจากผลวิจัยที่ชี้ให้เห็นว่าคนไทยมีความเชื่อในศักยภาพการเป็นเจ้าของธุรกิจค่อนข้างสูงกว่านานาชาติแล้ว คนไทยยังมีการนำโซเชียลเน็ทเวิร์คมาใช้ในชีวิต ประจำวันค่อนข้างมาก จึงทำให้ธุรกิจเครือข่ายที่อาศัยการติดต่อพุดคุยสามารถทำได้ในกลุ่มที่กว้างขวางยิ่งขึ้นและเร็วขึ้น รวมทั้งมีโอกาสเติบโตสูงตามแนวโน้มในอนาคต" ผศ.ดร. ธนพลกล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ