นายเบน เตชะอุบล กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท คันทรี่ กรุ๊ป ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) (CGD)เปิดเผยว่า บริษัทฯ มีแผนจะพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบผสมผสาน (Mixed-use Development) บนเนื้อที่ 79-3-63 ไร่ ตำบลบางพระ อำเภอเมือง จังหวัดฉะเชิงเทรา ให้เป็นพื้นที่เช่า 41,110 ตารางเมตร ประกอบด้วย 1. สถานีบริการน้ำมัน 2. ศูนย์การค้าชุมชน (Community Mall) 3. พื้นที่ค้าปลีก 4. ตลาดชุมชน โดยรวมเรียกว่าโครงการฉะเชิงเทรา "ทางบริษัทฯ ได้มีการศึกษาการพัฒนาโครงการนี้อย่างละเอียด พบว่าพื้นที่ดังกล่าวไม่เพียงแต่มีศักยภาพในการพัฒนาทางธุรกิจอย่างมาก แต่ยังช่วยเสริมรายได้ต่อเนื่องให้กับบริษัท (Recurring Income) ในระยะยาว อีกทั้งยังเป็นการกระจายความเสี่ยงจากการรับรู้รายได้จากการขายอสังหาริมทรัพย์ซึ่งอาศัยเวลาในการก่อสร้างและโอนกรรมสิทธิ์ให้แก่ลูกค้า ทั้งนี้ บริษัทฯ มีเป้าหมายแบ่งการพัฒนาโครงการออกเป็น 2 เฟส ซึ่งในเฟสที่ 1 คาดว่าจะสร้างแล้วเสร็จและเปิดให้บริการในปี 2561 มีโซนสถานีบริการน้ำมันขนาดใหญ่ รวมถึงร้านค้าปลีกภายในบริเวณสถานีบริการน้ำมัน, โซน Community Mall และโซนตลาดสำหรับให้ผู้ประกอบการเช่าพื้นที่จัดบูธตามเทศกาล ใช้พื้นที่รวมกว่า 16,740 ตารางเมตร ขณะที่เฟสที่ 2 คาดว่าจะเปิดให้บริการภายในปี 2562 ซึ่งเป็นส่วนขยายจากเฟสแรก โดยจะเป็นโซนตลาด outdoor รองรับผู้เช่าพื้นที่สำหรับจำหน่ายอาหารสด อาหารแห้ง และเครื่องดื่ม ภายใต้พื้นที่รวมกว่า 24,370 ตารางเมตร"
การลงทุนในโครงการดังกล่าว จะดำเนินการโดยรับโอนกิจการทั้งหมดของ บริษัท โพรฟิท เวนเจอร์ส จำกัด (PVL)จาก "กลุ่มเตชะอุบล" ประกอบไปด้วย นายสดาวุธ เตชะอุบล นายเบน เตชะอุบล และนายทอมมี่ เตชะอุบล โดยบริษัทฯ จะชำระค่าตอบแทนสำหรับการรับโอนกิจการทั้งหมดเป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น 1,069,560,703 บาท แบ่งเป็น 1. มูลค่าการรับโอนกิจการทั้งหมด 1,022,816,000 บาท โดยจะชำระด้วยหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ CGD จำนวนไม่เกิน 929,832,727 หุ้น ในราคาเสนอขายหุ้นละ 1.10 บาท และ 2. ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการโอนสินทรัพย์อีกประมาณ 46,744,703 ล้านบาทโดยจะชำระเป็นเงินสด (ถ้ามี) โดย CGD จะออกเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ต่อบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) ให้แก่ PVL ซึ่ง PVL จะเข้ามาเป็นผู้ถือหุ้นของบริษัทในสัดส่วน 12.67%
นอกจากนี้ ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งที่ 2/2560 มีมติอนุมัติให้แก้ไขมติเพิ่มทุน โดยบริษัทจะเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัททั้งสิ้นจำนวน 1,629,832,727 บาท จากจำนวน 7,336,295,227 บาท เป็นจำนวน 8,966,127,954 บาท โดยการออกหุ้นสามัญใหม่จำนวน 1,629,832,727 หุ้น มูลค่าที่ตราไว้หุ้นละ 1 บาท เพื่อรองรับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้กับบุคคลในวงจำกัด (Private Placement) เพื่อเป็นการชำระค่าตอบแทนในการรับโอนกิจการทั้งหมดของ PVLจำนวน 929,832,727 หุ้น และเพื่อจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบมอบอำนาจทั่วไป (General Mandate) ให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) จำนวน 700,000,000 หุ้น รวมถึงอนุมติให้ออกและเสนอขายหุ้นกู้ในวงเงินไม่เกิน 5 พันล้านบาท เพื่อรับรองแผนการดำเนินงานของธุรกิจ โดยที่ประชุมคณะกรรมการมีมติอนุมัติและเห็นสมควรนำเสนอที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี2560 ต่อไป