นางสาวนิจวรรณ เชาว์กิตติโสภณ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โฮม พอตเทอรี่ จำกัด (มหาชน) หรือ HPT เปิดเผยว่าผลประกอบการปี 2559 บริษัทมีรายได้รวม 134.16 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 115.12 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 19.04 ล้านบาท คิดเป็นอัตราการเพิ่มขึ้น 16.53 % โดยมีกำไรสุทธิ 13.60 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีกำไรสุทธิ 10.50 ล้านบาท จำนวน 3.10 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 29.52%
ขณะที่งวดไตรมาส 4/59 บริษัทมีรายได้รวม 45.53 ล้านบาท ปรับตัวเพิ่มขึ้นจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่มีรายได้รวม 31.05ล้านบาท จำนวน 14.48 ล้านบาท หรือปรับตัวเพิ่มขึ้น 47% และมีกำไรสุทธิเติบโตใกล้เคียงจากช่วงเดียวกันของปีก่อนที่ทำไว้ 5.64ล้านบาท
โดยผลประกอบการของบริษัทเติบโตเพิ่มขึ้น มีปัจจัยสนับสนุนจากปริมาณการขายสินค้าขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะในช่วงไตรมาส 3 และ 4 อีกทั้งเตาเผาใหม่เดินเครื่องเชิงพาณิชย์เพิ่มกำลังผลิตได้แล้ว จึงถือเป็นการแก้ไขปัญหากำลังการผลิตเต็ม ทำให้บริษัทมีโอกาสรับออเดอร์สินค้าเพื่อขายได้มากขึ้น และยังได้รับผลบวกจากการจำหน่ายสินค้าที่มีมูลค่าสูงขึ้นเนื่องจากมีการเพิ่มการตกแต่ง ดังนั้นจึงทำให้ผลประกอบการปี 59 เติบโตอย่างเห็นได้ชัด
พร้อมกันนี้ทางคณะกรรมการบริษัทมีมติเสนอขออนุมัติต่อที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 60 ให้พิจารณาอนุมัติจ่ายปันผลสำหรับผลการดำเนินงานปี 59 ให้แก่ผู้ถือหุ้น ทั้งนี้จ่ายปันผลเป็นเงินสดทั้งสิ้น 5.2 ล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนเงินปันผล 40% ของกำไรสุทธิหลังหักสำรองตามกฎหมาย โดยจ่ายปันผลเป็นเงินสดในอัตราหุ้นละ 0.01 บาท กำหนดรายชื่อเพื่อสิทธิรับปันผล (Record Date) วันที่ 20 เมษายน 60 และกำหนดจ่ายปันผลในวันที่ 4 พฤษภาคม 60
ขณะที่ภาพรวมธุรกิจในปี 60 บริษัทเชื่อมั่นว่าจะสามารถสร้างการเติบโตต่อเนื่องจากปี 59 ด้วย กลยุทธ์การทำตลาดทั้งในประเทศและ ภูมิภาคอาเซียน เพื่อเปิดโอกาสการขยายฐานธุรกิจให้รองรับกับความต้องการที่มากขึ้นในอนาคต พร้อมกับโปรโมทผลิตภัณฑ์เซรามิกประเภทไฟน์ไชน่าภายใต้แบรนด์ PE'TYE ควบคู่ไปกับการโปรโมทอุปกรณ์เครื่องใช้ในอุตสาหกรรมอาหาร ภายใต้การจัดจำหน่ายของ Central Hospitality ให้เป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้น
สำหรับเป้าหมายรายได้ปี 60 บริษัทตั้งเป้าเติบโตอย่างน้อย 15-20%หรือมีรายได้รวมอยู่ที่ประมาณ 150 ล้านบาท โดยเติบโตจากยอดจำหน่ายสินค้ามากขึ้นตามกำลังการผลิตใหม่ รวมกับมูลค่าสินค้าที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากมีสินค้าประเภทตกแต่งมากขึ้น ขณะเดียวกันจะรับรู้รายได้จาก Central Hospitality เข้ามาเต็มปีเป็นปีแรก ซึ่งคาดว่าจะมีรายได้เข้ามาราว 20-25 ล้านบาท