ข้อตกลงยุติคดีระบุว่า ZTE ได้ตกลงที่จะจ่ายค่าปรับทั้งคดีแพ่งและอาญาเป็นจำนวนเงิน 892,360,064 ดอลลาร์ และจ่ายค่าปรับเพิ่มอีก 300,000,000 ดอลลาร์ให้กับทาง BIS ซึ่งจะถูกระงับไว้เป็นเวลา 7 ปีภายใต้เงื่อนไขที่ว่า บริษัทจะปฏิบัติตามข้อกำหนดในข้อตกลงที่ทำกับ BIS และ ZTE จะยังคงทำงานร่วมกับผู้ดูแลและผู้ตรวจสอบอิสระซึ่งจะกำกับดูแลการปฏิบัติตามข้อกำหนดต่อไป
"ZTE ยอมรับในความผิดพลาดที่เกิดขึ้น บริษัทขอแสดงความรับผิดชอบ และยังคงมุ่งมั่นที่จะสร้างการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีต่อบริษัท" ดร.จ้าว เซียนหมิง ประธานและซีอีโอของ ZTE Corporation กล่าว "การวางขั้นตอนการดำเนินงานโดยมุ่งเน้นที่การปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ใหม่ และการเปลี่ยนแปลงบุคลากรครั้งใหญ่นั้น เป็นเรื่องที่บริษัทให้ความสำคัญเป็นลำดับแรก เราได้รับบทเรียนมากมายจากประสบการณ์ครั้งนี้ และจะเดินหน้าเพื่อก้าวขึ้นเป็นแม่แบบในเรื่องการปฏิบัติตามกฎระเบียบการส่งออก และความเป็นเลิศด้านการบริหารจัดการ เรามุ่งมั่นที่จะสร้าง ZTE โฉมใหม่ที่ดำเนินธุรกิจตามกฎเกณฑ์ แข็งแกร่ง และน่าเชื่อถือ"
ดร.จ้าวได้รับการแต่งตั้งเป็นประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ ZTE Corporation เมื่อเดือนเมษายน 2559 โดยมีเป้าหมายเพื่อขับเคลื่อน ZTE บนเส้นทางใหม่ ภายใต้แผนงานปฏิบัติตามกฎระเบียบการส่งออกที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม
"การบรรลุข้อตกลงครั้งนี้จะช่วยผลักดันเราให้ก้าวไปข้างหน้าในสถานะที่แข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิม" ดร.จ้าว กล่าวเพิ่มเติม "เราขอขอบคุณลูกค้า พันธมิตร พนักงาน และผู้มีส่วนเกี่ยวข้องทุกคนที่ยืนหยัดเคียงข้างในช่วงเวลาที่ยากลำบาก ด้วยข้อตกลงนี้และแผนงานปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่จัดทำขึ้นอย่างเคร่งครัด เราจะสามารถขยายธุรกิจไปพร้อมกับซัพพลายเออร์ได้อย่างมั่นใจ และจะเดินหน้าส่งมอบโซลูชั่นเทคโนโลยีล้ำสมัยให้แก่พันธมิตร และปฏิบัติตามกลยุทธ์การเติบโตในฐานะ ZTE รูปแบบใหม่"
แมตต์ เบลล์ ซึ่งได้รับการแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับการปฏิบัติตามกฎระเบียบการส่งออก เมื่อเดือนพ.ย. 2559 กล่าวว่า "ZTE ได้สร้างความก้าวหน้าอย่างมากในการจัดทำแผนงานปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ในระดับแนวหน้า และผมรอคอยที่จะได้ร่วมงานกับทีมผู้บริหารของบริษัทเพื่อสานต่อและปรับปรุงการดำเนินงานและขั้นตอนปฏิบัติต่างๆให้ดีขึ้น เรากำลังสร้างทีมงานมืออาชีพระดับโลกที่มีประสบการณ์ด้านการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ เราได้จัดฝึกอบรมเรื่องการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์อย่างจริงจัง ทั้งยังส่งเสริมเรื่องดังกล่าวในทุกระดับของบริษัท เราจะทำการพิจารณาตรวจสอบ รวมทั้งปรับปรุงนโยบายและกระบวนการดำเนินงานอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้สอดคล้องกับกฎระเบียบที่เปลี่ยนแปลง ควบคู่ไปกับการทำงานเพื่อส่งเสริมความได้เปรียบทางกลยุทธ์ธุรกิจที่ได้จากการดำเนินแผนงานปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ บุคลากรของเราซึ่งมีความเชี่ยวชาญด้านการปฏิบัติตามข้อกำหนดและกฎหมายในระดับโลก จะทำงานร่วมกันเพื่อระบุความเสี่ยงของบริษัท และปรับปรุงประสิทธิภาพของแผนงานปฏิบัติตามกฎเกณฑ์โดยรวมอย่างต่อเนื่อง"
ภายใต้การนำของดร.จ้าว ZTE จะยังคงมุ่งมั่นต่อการยกระดับกระบวนการดำเนินงานและการควบคุม รวมทั้งจะเดินหน้าสร้างสรรค์วัฒนธรรมในการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์อย่างเคร่งครัดในทุกระดับขององค์กร ซึ่งในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา บริษัทได้ลงทุนในการปฏิรูปอย่างครอบคลุม เพื่อจัดทำแผนงานปฏิบัติตามกฎระเบียบการส่งออกระดับชั้นนำ ซึ่งประกอบด้วยการดำเนินการ ดังนี้
- ซีอีโอและทีมบริหารชุดใหม่: ZTE ได้แต่งตั้ง ดร.จ้าว ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร รวมทั้งปรับเปลี่ยนทีมผู้บริหารที่สำคัญหลายตำแหน่ง ซึ่งทุกคนได้รับมอบหมายให้ขับเคลื่อน ZTE ตามแผนงานปฏิบัติตามกฎระเบียบการส่งออกที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรม
- คณะกรรมการกำกับดูแลการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ชุดใหม่: ZTE ได้จัดตั้งคณะกรรมการกำกับดูแลการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ขึ้นมาใหม่ภายใต้การนำของประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ซึ่งมีสิทธิอำนาจในการปรับเปลี่ยนนโยบายและกระบวนการดำเนินงานของบริษัทอย่างมีนัยสำคัญ รวมถึงการกำกับดูแลการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ใหม่ๆ
- ปรับโครงสร้างฝ่ายกฎหมายและฝ่ายกำกับการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์: ZTE ได้ดำเนินการปรับโครงสร้างโดยโยกหน้าที่ความรับผิดชอบในด้านการกำกับดูแลการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ของฝ่ายกฎหมาย ไปให้กับฝ่ายกำกับการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ที่มีการจัดตั้งขึ้นมาต่างหาก โดยแผนกใหม่นี้จะมีอำนาจเพิ่มขึ้นในการกำกับดูแลการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ และมีอิสระในการดำเนินงานเต็มที่
- นักกฎหมายชาวสหรัฐฯ ได้รับเลือกให้ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับการปฏิบัติตามกฎระเบียบการส่งออก: แมตต์ เบลล์ ทนายความชาวสหรัฐฯ ได้รับการว่าจ้างในตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายกำกับการปฏิบัติตามกฎระเบียบการส่งออก โดยมีหน้าที่รับผิดชอบในการกำกับดูแลการพัฒนาและปรับปรุงแผนงานปฏิตามกฎระเบียบการส่งออกระดับโลก คุณเบลล์มีประสบการณ์ในการพัฒนาและปรับปรุงแผนงานปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ให้กับบริษัทข้ามชาติรายใหญ่มาแล้วหลายแห่ง
- หนังสือคู่มือการปฏิบัติตามกฎระเบียบควบคุมการส่งออกเพิ่มเติม: ZTE ได้ออกหนังสือคู่มือการปฏิบัติตามกฎระเบียบควบคุมการส่งออกฉบับใหม่ ซึ่งจัดทำขึ้นร่วมกับการพิจารณาของ BIS เพื่อมอบแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจนมากขึ้นให้แก่พนักงาน โดย ZTE ต้องการให้พนักงานทุกคนทำข้อตกลงปฏิบัติตามกฎระเบียบเป็นประจำทุกปี
- เครื่องมือและกระบวนการอัตโนมัติใหม่ๆ: ZTE ได้นำเครื่องมืออัตโนมัติมาใช้ตรวจคัดกรองผลิตภัณฑ์ที่ส่งมอบจาก ZTE Corporation และบริษัทสาขา เพื่อให้เป็นไปตามพันธกรณีในการกำกับการส่งออก โดยระบบดังกล่าวจะใช้กำหนดว่า ผลิตภัณฑ์ใดที่อยู่ภายใต้กฎข้อบังคับของ Export Administration Regulations (EAR) โดยจะมีการยับยั้งหรือจำกัดการทำธุรกรรมบางส่วน และชะลอการส่งมอบผลิตภัณฑ์เพื่อตรวจวิเคราะห์การแยกประเภทผลิตภัณฑ์อย่างละเอียด รวมถึงการยกเว้นแบบฟอร์มใบอนุญาต หรือเรียกแบบฟอร์มใบอนุญาตตามความจำเป็น ทั้งนี้ ZTE ยังคงเดินหน้าลงทุนในด้านการพัฒนาระบบอัตโนมัติอย่างต่อเนื่อง เพื่อนำไปใช้งานในบริษัทสาขาทั่วโลก
- การฝึกอบรมด้านการควบคุมการส่งออกทั่วโลก: เมื่อปี 2559 ทาง ZTE ได้ทำการฝึกอบรมพนักงานกว่า 45,000 คนในเรื่องกฎหมายควบคุมการส่งออกและบทลงโทษ รวมทั้งนโยบายของบริษัท และจะทำการฝึกอบรมเพื่อมอบความรู้ความเข้าใจเช่นนี้ต่อไปในปี 2560 ขณะเดียวกันก็จะเพิ่มการฝึกอบรมที่ตรงเป้าหมายมากขึ้นสำหรับหน้าที่สำคัญๆ อย่างเช่น การขาย การจัดซื้อจัดจ้าง การวิจัยและพัฒนา ตลอดจนห่วงโซ่อุปทาน
BIS จะเสนอแนะให้ถอนชื่อ ZTE ออกจาก Entity List ภายใต้เงื่อนไขการที่อนุมัติของศาลเกี่ยวกับข้อตกลงของ DOJ การยื่นคำร้อง และการออกคำสั่งระดับคดีของ BIS
ดร.จ้าวย้ำว่า "ZTE ได้สร้างความร่วมมืออันเหนียวแน่นกับซัพพลายเออร์สหรัฐหลายราย โดยสนับสนุนการจ้างงานในสาขาเทคโนโลยีขั้นสูงเกือบ 130,000 ตำแหน่ง และล่าสุด เรายังได้ปรับปรุงการดำเนินงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น รวมทั้งยกระดับความเป็นผู้นำนวัตกรรมในยุค 5G สิ่งเหล่านี้จะช่วยปูทางให้ ZTE มีผลการดำเนินงานโดยรวมที่ดี บริษัทคาดหวังว่าจะเติบโตและขยายธุรกิจออกไปอย่างต่อเนื่องในหลายปีข้างหน้านี้ ในขณะที่เราทำงานร่วมกับพันธมิตรทั่วโลก"
เกี่ยวกับ ZTE Corporation
ZTE เป็นผู้ให้บริการด้านระบบโทรคมนาคมขั้นสูง รวมถึงอุปกรณ์เคลื่อนที่ และโซลูชั่นเทคโนโลยีองค์กร เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภค ผู้ให้บริการเครือข่าย ภาคธุรกิจ และหน่วยงานภาครัฐ บริษัทนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการให้กับผู้ให้บริการเครือข่ายกว่า 500 รายในประมาณ 160 ประเทศ กลยุทธ์ M-ICT ของ ZTE มีเป้าหมายเพื่อนำเสนอนวัตกรรมแบบครบวงจรที่ทำงานแบบบูรณาการให้กับลูกค้า เพื่อมอบความเป็นเลิศและคุณประโยชน์ต่างๆ ในยุคที่เทคโนโลยีโทรคมนาคมและเทคโนโลยีสารสนเทศหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว ในแต่ละปี ZTE จัดสรรเงินรายได้จำนวนมากให้กับการวิจัยและพัฒนาและมีบทบาทผู้นำในองค์กรผู้กำหนดมาตรฐานในระดับโลก ทั้งนี้ ZTE มุ่งมั่นเพื่อแสดงความรับผิดชอบต่อสังคม และยังเป็นสมาชิกของข้อตกลงโลกแห่งสหประชาชาติ (UN Global Compact) ด้วย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติม สามารถรับชมได้ที่ www.zte.com.cn
สื่อมวลชนติดต่อ:
Margrete Ma
ZTE Corporation
อีเมล: [email protected]