ททท. ภาคตะวันออกโชว์รายได้หลักแสนล้าน ขานรับนโยบายไทยแลนด์ 4.0 รับมือระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก EEC พร้อมกางแผนที่สร้างที่จอดเรือสำราญ รับรายได้ครบ 3 ขา เกษตร อุตสาหกรรม ท่องเที่ยว

พฤหัส ๐๙ มีนาคม ๒๐๑๗ ๑๖:๑๑
นายกฤษฎา รัตนพฤกษ์ ผู้อำนวยการภูมิภาคภาคตะวันออก การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย เผยว่า "ปี 2559 รายได้จากการท่องเที่ยวของภาคตะวันออกรวม 312,991,000 บาท (สามแสนหนึ่งหมื่นสองพันเก้าร้อยเก้าสิบเอ็ดล้านบาท) แบ่งออกเป็นรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ 184,896,000,000 บาท (หนึ่งแสนแปดหมื่นสี่พันแปดร้อยเก้าสิบหกล้านบาท) รายได้จากนักท่องเที่ยวชาวไทย 128,095,000,000 (หนึ่งแสนสองหมื่นแปดพันเก้าสิบห้าล้านบาท) รายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติคิดเป็น 59 % รายได้จากนักท่องเที่ยวชาวไทยคิดเป็น 41 % แนวทางในการทำงานของททท. ภาคตะวันออกนั้นต้องการรักษารายได้ให้สม่ำเสมอกันในทุก ๆ เดือน ด้วยการเจาะกลุ่มคนทำงานต่างชาติ กลุ่มนักท่องเที่ยวรายได้สูง ด้วยการขยายตัวของสินค้าและบริการเพื่อที่จะให้เกิดการท่องเที่ยวซ้ำ เพิ่มเรื่องอาหารอร่อย การรับประทานอาหารพื้นถิ่น อาหารสุขภาพพร้อมบรรยากาศที่ดี และการเลือกทานอาหารในย่านถนนคนเดินในพัทยาใต้ ย่านบางแสน และชุมชนบางเสร่ ส่วนรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติส่วนใหญ่มาจากชาวจีน รัสเซีย อินเดีย ยุโรป จากการที่ภาคตะวันออกมีรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติที่มากกว่านักท่องเที่ยวชาวไทยทำให้ทางกองภาคตะวันออก ต้องมีแผนการทำตลาดอยู่ตลอดเวลา หากเมื่อชาติใดชาติหนึ่งเกิดวิกฤตก็จะมีนักท่องเที่ยวจากแหล่งอื่นมาทดแทน ปัจจุบันได้ทำการตลาดกับชาวเอเชียให้เข้มข้นมากขึ้น อย่างไรก็ตามยังมีนักท่องเที่ยวอีกกลุ่มหนึ่งที่เข้ามาพักในภาคตะวันออกนานอยู่ในช่วง 7-10 วัน กลุ่มนี้เป็นนักท่องเที่ยวยุโรปและเป็นนักท่องเที่ยวที่ใช้จ่ายสูง นอกจากแผนต่างๆ ที่กล่าวมาแล้วตอนนี้รัฐบาลกำลังศึกษาเรื่องเรือสำราญ การทำตลาด ท่าจอดเรือ การหาจุดจอดเรือที่สะดวกปลอดภัย ด้านการเพิ่มรายได้จากนักท่องเที่ยวต่างชาติ "

"การที่จะรองรับนักท่องเที่ยวจากเรือสำราญได้นั้น ต้องมีท่าเรือที่มีความสมบูรณ์แบบ ซึ่งเป็นหนึ่งในแผนงานของรัฐบาล ในต่างประเทศได้สร้างเรือสำราญมีขนาดใหญ่มากขึ้น จุนักท่องเที่ยวได้ราว 3,000 – 5,000 คน เพื่อให้ตอบรับกับพฤติกรรมการท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวที่ใช้บริการเรือสำราญจะเป็นกลุ่มคนที่มีรายได้สูงมาก หากการทำตลาดเรือสำราญประสบความสำเร็จ การเข้ามาของเรือสำราญลำหนึ่ง ๆ จะสร้างรายได้ให้แก่ภาคตะวันออกเป็นจำนวนมาก" นายกฤษฎา รัตนพฤกษ์ กล่าว

ด้านนโยบายไทยแลนด์ 4.0 นั้น เป็นการขับเคลื่อนประเทศไปพร้อม ๆ กัน ตามนโยบายของรัฐบาล โดยการสร้างงาน สร้างรายได้ ตั้งแต่ระดับชุมชนไปจนถึงผู้ประกอบการรายใหญ่ ๆ ให้คนในชุมชนเรียนรู้พฤติกรรมนักท่องเที่ยว นักท่องเที่ยวเรียนรู้ชุมชน ซึ่งทางททท.ได้นำเสนอการท่องเที่ยววิถีไทยผ่านการสร้างประสบการณ์ที่ประทับใจจากท้องถิ่นไทย (Local Experience) ซึ่งมีหลายระดับขึ้นอยู่กับความชื่นชอบที่แตกต่างกันของนักท่องเที่ยว เช่นการเข้าไปดูการเผาข้าวหลามแทนการจอดรถแวะซื้อเพียงอย่างเดียว สัมผัสวิถีชาวสวนที่จังหวัดระยอง ชมการร่อนพลอยที่จันทบุรี ชมการเลี้ยงหอยที่อำเภอขลุงก่อนการรับประทานอาหารซีฟู๊ดมื้ออร่อย การสัมผัสวิถีชุมชุนได้สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวเป็นอย่างมาก จะเห็นได้ว่าจังหวัดจันทบุรี เมืองท่องเที่ยวเมืองรองนั้น มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นมาอย่างรวดเร็วในระยะเวลาอันสั้น ส่วนพฤติกรรมการท่องเที่ยว คนไทยยังคงท่องเที่ยวในวันเสาร์ อาทิตย์ ช่วงวันหยุดยาว วันหยุดนักขัตฤกษ์เหมือนเดิม ซึ่งทางททท. ได้มีความพยายามอย่างต่อเนื่องที่จะจัดแพคเกจพิเศษสำหรับการท่องเที่ยวในวันธรรมดา เพื่อที่จะทำให้การใช้วันลาจากการทำงานนั้นคุ้มค่า จะเห็นได้ว่าการท่องเที่ยวในวันธรรมดาจะไม่หนาแน่น ได้ซึมซับประสบการณ์บรรยากาศได้เต็มที่

นายกฤษฎา รัตนพฤกษ์ กล่าวต่อ " ด้านระเบียงเศรษฐกิจภาคตะวันออก EEC (Eastern Economics Corridor) รัฐบาลได้มองชลบุรี ฉะเชิงเทรา ระยอง ให้เป็นระเบียงเศรษฐกิจ ซึ่งทางรัฐบาล ให้ข้อเสนอพิเศษเพื่อที่จะสร้างการลงทุนให้มากขึ้น เริ่มต้นจากการลงทุน การสร้างโรงงาน สร้างสายงานการผลิต ซึ่งจะมีการจ้างงานและมีชาวต่างชาติเข้ามาทำงานพร้อมครอบครัวในภูมิภาคนี้ ซึ่งจะก่อให้เกิดการใช้จ่ายหมุนเวียนขึ้นในภาคตะวันออกอย่างมาก การสร้างระเบียงเศรษฐกิจจะก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลง อาทิ การลงทุนเพิ่มด้านโรงแรม ห้างสรรพสินค้าชั้นนำ สถานที่ท่องเที่ยวแหล่งใหม่ ๆ การพัฒนาให้เกิดระเบียงเศรษฐกิจนั้น รัฐบาลยังได้มองเรื่องการบริหารจัดการด้านโลจิสติกส์เป็นเรื่องสำคัญอีกเรื่องหนึ่ง อาทิ ลงทุนเรื่องเรือเฟอร์รี่ที่เอารถยนต์บรรจุในท้องเรือได้ เพื่อจะเชื่อมให้เกิดความสะดวกสบายให้แก่เส้นทางท่องเที่ยวระหว่างประจวบคีรีขันธ์และพัทยา ผู้ที่ขับรถยนต์ส่วนตัวสามารถขับรถเที่ยวเองได้อย่างสะดวก และการสร้างรถไฟความเร็วสูง (High Speed Train) ระหว่างกรุงเทพ - ฉะเชิงเทรา – มาบตาพุด และจะเชื่อมต่อไปถึงจันทบุรี ตราดในอนาคต ด้านสิ่งแวดล้อมก็เป็นสิ่งสำคัญอีกเรื่องหนึ่งที่ต้องมีการควบคุม ดูแล ไม่ให้เสื่อมโทรมลงไป"

ด้านการส่งเสริมการตลาดให้แก่ผู้ประกอบการด้านโรงแรม ที่พัก รีสอร์ท ในภาคตะวันออกนั้นก็ยังเป็นกลยุทธ์ที่สำคัญกลยุทธ์หนึ่ง สำหรับปี 60 นี้ จัดไปแล้วหลายครั้ง ครั้งนี้มีผู้ประกอบการ 56 ราย สำหรับท่านที่สนใจการท่องเที่ยวในภาคตะวันออก เยี่ยมชมข้อมูลและการท่องเที่ยวภาคตะวันออกได้ที่ www.เที่ยวภาคตะวันออก.com หรือโทร 1672

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๐ ธ.ค. ASMT ผนึก TFT ร่วมลงนามด้านวิชาการด้านอุตสาหกรรมการบิน
๒๐ ธ.ค. กรมวิชาการเกษตร เดินหน้า ถ่ายทอดองค์ความรู้การผลิตอะโวคาโดคุณภาพ สร้างรายได้เพิ่มให้เกษตรกรกว่า 2 แสนบาท/ไร่
๒๐ ธ.ค. Dow มุ่งพัฒนาประสิทธิภาพผลิตภัณฑ์ Personal Care ควบคู่ความยั่งยืน ตอบโจทย์ผู้บริโภคตลาดเครื่องสำอางในภูมิภาคเอเชีย
๒๐ ธ.ค. โอซีซี มอบความรู้ พัฒนาอาชีพให้ผู้ต้องขังหญิง
๒๐ ธ.ค. ดร.นุชนารถ ชลคงคา นำทีมสถาบัน ESTC จัดอบรมให้ Karmakamet
๒๐ ธ.ค. กนภ. เห็นชอบร่าง พรบ. การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ กลไกสำคัญสู่เส้นทางเศรษกิจคาร์บอนต่ำ และมีภูมิคุ้มกันฯ
๒๐ ธ.ค. WePlay x คอลแลบตัวละครสุดปัง! พบกับมินิเกมใหม่ และการ์ตูนสุดน่ารักที่คุณจะต้องหลงรัก
๒๐ ธ.ค. เดลต้า ประเทศไทย และ WEnergy Global ร่วมลงนามบันทึกข้อตกลงเพื่อขับเคลื่อนอนาคตพลังงานสีเขียว
๒๐ ธ.ค. ความภาคภูมิใจของ ไลอ้อน กับ 3 รางวัลแห่งเกียรติยศ เผยผลงานโดดเด่นกับหลายรางวัลที่ได้รับในปี 2567
๒๐ ธ.ค. NOBLE คว้าเรทติ้งสูงสุด ระดับ AAA SET ESG Ratings ประจำปี 2567 ยกระดับองค์กรสู่ความยั่งยืนภายในแนวคิด Live Different ตามกรอบ