ตามที่ นายกุลิศ สมบัติศิริ อธิบดีกรมศุลกากร ได้มีนโยบายให้ความสำคัญกับการป้องกันและปราบปรามการลักลอบค้าสัตว์ป่าอย่างเข้มงวด เพื่อปกป้องสัตว์ป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ของประเทศไทยและโลกด้วยการดำเนินการตามมติที่ประชุมของภาคีอนุสัญญา CITES โดยบูรณาการการทำงานร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และทุกหน่วยงานภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมทั้งได้สั่งการมอบหมายให้ นายไพศาล ชื่นจิตร ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบควบคุมทางศุลกากรนายบุญเทียม โชควิวัฒน ผู้อำนวยการสำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมินายวรวุฒิ วิบูลย์ศิริชัย ผู้อำนวยการสำนักสืบสวนและปราบปราม นายบุญมี บูรณะภักดี ผู้อำนวยการส่วนบริการผู้โดยสาร สผภ. และนายธนิต วัฒน์ธนนันท์ ผู้อำนวยการส่วนควบคุมทางศุลกากร สผภ. เข้มงวดกวดขันและสกัดกั้นขบวนการลักลอบนำเข้านอแรดในลักษณะกระเป๋าสัมภาระของผู้โดยสารผ่านทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
โดยเมื่อวันที่ 10 มีนาคม 2560 เวลาประมาณ 14.00 น. เจ้าหน้าที่ศุลกากร นำโดย นายจุมพลสุขพิบูลย์ หน.ฝบผ.2 สบผ. สผภ. นางสาวกัญญณัฐ พิพัฒน์กิจไพศาล หน.ฝปป. สคศ. สผภ. นายวีระ บุญประกอบ หน.ผลัด 1 ฝปป.สคศ. สผภ. กับพวก เจ้าหน้าที่ ฝบผ.2 สบผ. สผภ. และเจ้าหน้าที่ศุลกากร ฝปป.1 สปป.3 สสป. ภายใต้การบูรณาการร่วมกันกับเจ้าหน้าที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.2 บก.ปทส. เจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง บก.ตม.2 เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ส.3. เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่ด่านตรวจสัตว์ป่าท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ทท. และเจ้าหน้าที่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ได้ร่วมกันตรวจยึดกระเป๋าเดินทางทรงแข็ง มีล้อลาก สีเทา ยี่ห้อ AMERICAN TOURISTER ขนาด 70 x 48 ซม. สภาพเก่าใช้แล้ว จำนวน 1 ใบ ซึ่งถูกห่อหุ้มด้วยพลาสติกใสรอบตัวกระเป๋าอีกชั้นหนึ่ง โดยมีบัตรผูกติดกระเป๋า (TAG) หมายเลข ET 88 52 77 ของสายการบินเอธิโอเปียนแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ ET628 ต้นทางจากกรุงแอดดิสอาบาบา สหพันธ์สาธารณรัฐประชาธิปไตยเอธิโอเปีย ปลายทางท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ประเทศไทย ภายในบรรจุนอแรด คละขนาด จำนวนรวม ๒๑ นอ
กรณีดังกล่าวเป็นความผิดตามข้อกล่าวหา
๑. นำหรือพาของที่ยังมิได้เสียภาษี หรือของต้องกำกัด หรือของต้องห้าม หรือของที่ยังมิได้ผ่านศุลกากรโดยถูกต้อง เข้ามาในราชอาณาจักรไทย ตามมาตรา ๒๗ แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร พ.ศ.๒๔๖๙ ประกอบมาตรา ๑๖, ๑๗ แห่ง พ.ร.บ.ศุลกากร (ฉบับที่ ๙) พ.ศ.๒๔๘๒
๒. นำเข้าซึ่งซากของสัตว์ป่าชนิดที่รัฐมนตรีประกาศกำหนด โดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา ๒๓
แห่ง พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า (ฉบับที่ ๓) พ.ศ.๒๕๕๗
๓. นำเข้าซึ่งซากของสัตว์ป่า ชนิดที่ต้องมีใบอนุญาตหรือใบรับรองให้นำเข้า ตามความตกลงระหว่างประเทศว่าด้วยการค้าสัตว์ป่าและซากของสัตว์ป่า โดยไม่ได้รับอนุญาตหรือใบรับรองจากอธิบดี ตามมาตรา ๒๔ แห่ง พ.ร.บ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า (ฉบับที่ ๓) พ.ศ.๒๕๕๗
๔. นำเข้าซากสัตว์ป่าโดยไม่ได้รับอนุญาต ตามมาตรา ๓๑ แห่ง พ.ร.บ.โรคระบาดสัตว์ พ.ศ.๒๕๕๘
ผลการดำเนินการด้านคดี
เจ้าหน้าที่ได้ยึดนอแรด กระเป๋าเดินทาง และป้ายติดกระเป๋า (TAG) ไว้เป็นของกลาง และได้นำบันทึกการตรวจยึดพร้อมของกลางไปร้องทุกข์กล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ
จากการสืบสวนขยายผลการตรวจยึดนอแรด พบว่ามีผู้โดยสารหญิงไทย 2 คน มีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีนี้ คือ
1. นางฐิติรัตน์ อาราอิ อายุ 56 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 69 ซอยเดชะตุงคะ 2 ถนนเตชะตุงคะ แขวงสีกัน เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร เดินทางกลับจากกรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา โดยเที่ยวบิน TG581/10.3.60 ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ และผ่านการประทับลงตราในหนังสือเดินทางจากเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง ขาเข้า เวลาประมาณ 11.30 น.
2. นางสาวกานต์สินี อนุตรานุสาสตร์ อายุ 41 ปี ที่อยู่ บ้านเลขที่ 14/3 หมู่ 5 ต.ยายชา อ.สามพราน จ.นครปฐม เดินทางกลับจากกรุงโฮจิมินท์ ประเทศเวียดนาม โดยเที่ยวบิน VZ971/10.3.60 ถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ภูมิ และผ่านการประทับลงตราในหนังสือเดินทางจากเจ้าหน้าที่สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองขาเข้า เวลาประมาณ 12.49 น.
ซึ่งขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ขออำนาจศาลออกหมายจับหญิงทั้ง 2 คนเรียบร้อยแล้ว ตามหมายศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 350/2560 ลงวันที่ 11 มีนาคม 2560 และหมายศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 351/2560 ลงวันที่ 11 มีนาคม 2560
อนึ่ง ผลงานด้านการปราบปรามการลักลอบสัตว์ป่า และพืชป่าที่ใกล้สูญพันธ์ (CITES) ตั้งแต่ปี 2557 ถึงปัจจุบัน สำนักงานศุลกากรตรวจของผู้โดยสารท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้เคยจับกุมแล้ว รวมทั้งสิ้น 57 คดี มูลค่ารวมประมาณ 236.91 ล้านบาท และสำหรับคดี CITES ประเภทนอแรด รวมการจับกุมครั้งนี้เป็นจำนวน 2 คดี 30 นอ มูลค่าประมาณ 194 ล้านบาท
การตรวจยึดนอแรดในครั้งนี้ นับเป็นนอแรดที่สวยงามมากที่สุดตั้งแต่มีการตรวจยึดที่สนามบินสุวรรณภูมิ