กลุ่มแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เปิดโรงแรมใหม่ใจกลางทองหล่อ ชูออนเซ็นใหม่ใหญ่สุดในไทย รับนักท่องเที่ยวเอเชียบูม

พุธ ๑๕ มีนาคม ๒๐๑๗ ๑๒:๕๒
กลุ่มโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ เผยตัวเลขปี 59 รายได้กว่า 1,750 ล้านบาท ยอดจองห้องพักทั้ง 3 แห่งแนวเส้นสุขุมวิทดีเกินเป้า ประกาศพร้อมลุยเสริมทัพเปิดโรงแรมใหม่ล่าสุดใจกลางทองหล่อ "แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สุขุมวิท 55" เน้นคอนเซปต์ Stylish Sanctuary เชื่อมั่นธุรกิจโรงแรมในกรุงเทพฯ ปรับตัวดีขึ้น พร้อมรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มเอเชียซึ่งขยายตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นางสุวรรณา พุทธประสาท ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท แอล เอช มอลล์ แอนด์ โฮเทล จำกัด เปิดเผยว่าภาพรวมธุรกิจโรงแรมในปี 2560 คาดว่ายังมีแนวโน้มเติบโตขึ้นได้อย่างต่อเนื่องเนื่องจากปริมาณนักท่องเที่ยวต่างชาติจากตะวันตกและเอเชียมาท่องเที่ยวในประเทศไทยเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะจากโซนอเมริกาสูงประมาณ 14% และจากโซนเอเชียประมาณ 10% เมื่อปีที่ผ่านมา โดยที่ตลาดเอเชียยังคงเป็นตลาดหลักของการท่องเที่ยว

สำหรับภาคธุรกิจโรงแรมในกรุงเทพ มีทิศทางปรับตัวดีขึ้น ทั้งในแง่ของอัตราการเข้าใช้บริการห้องพักและอัตราค่าเช่า เชื่อว่านักท่องเที่ยวกลุ่มหลักๆ ยังคงเป็นกลุ่มเอเชีย ไม่ว่าจะเป็น จีน ญี่ปุ่น เกาหลี อินเดีย ฮ่องกง และมาเลเซียน่าจะขยายตัวเพิ่มมากขึ้น และยังมีจำนวนนักท่องเที่ยวจากโซนอเมริกาที่มีเพิ่มขึ้นและสามารถชดเชยนักท่องเที่ยวจากโซนยุโรปที่อาจลดลงต่อเนื่องในปีนี้

สำหรับผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา กลุ่มแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ มีรายได้กว่า 1,750 ล้านบาท เติบโตขึ้นจากปี 2558 ประมาณ 15% และอัตราการเข้าพักเฉลี่ยเพิ่มขึ้นประมาณร้อยละ6 เนื่องจากอัตราการเข้าพักของโรงแรมทั้ง 3 แห่งอยู่ในระดับที่ค่อนข้างสูงอยู่แล้ว โดยในปีนี้แผนการตลาดของกลุ่มโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ยังคงใช้คอนเซปต์ "Grande Your Stay" ที่เน้นย้ำถึงคุณค่าที่ทางแบรนด์ ยึดถือคือ Space Luxury (ความหรูหราของพื้นที่) Functional Simplicity (ความครบเครื่องเรื่องการใช้งานที่เรียบง่ายและสะดวกสบาย) และ Dedicated Service (การบริการอย่างใส่ใจ) เพื่อสร้างประสบการณ์ประทับใจให้ลูกค้าในการเข้าพัก โดยมอบการบริการสุดพิเศษพร้อมการต้อนรับและการบริการอย่างอบอุ่น

นอกจากนี้ยังเป็นการทำตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ที่สามารถเชื่อมโยงไปถึงนักท่องเที่ยวทั่วโลก รวมถึงใช้ทีมขายที่เจาะตรงไปถึงกลุ่มเป้าหมายส่งเสริมการตลาดที่หลากหลายขึ้น เพื่อขยายฐานลูกค้า และรองรับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย โดยจากการศึกษาแนวโน้มลูกค้าในปัจจุบันลูกค้าสนใจค้นหาข้อมูลและ จองโรงแรม ผ่านระบบอินเตอร์เน็ตกันมากขึ้น และมักจะเลือกโรงแรมที่มีโปรโมชั่นพิเศษด้านต่างๆ ดังนั้น เพื่อให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายกลุ่มนี้ ทางโรงแรมจึงวางแผนทำการตลาดและประชาสัมพันธ์ ผ่านสื่อออนไลน์ ในรูปแบบต่างๆ มากขึ้น รวมถึงการทำโปรโมชั่น การให้ความช่วยเหลือแนะนำลูกค้าผ่าน Social Media ของทางโรงแรม เช่น Facebook, Twitter, Instagram การทำโฆษณาออนไลน์ ในเวบไซต์ต่างๆ เพื่อให้ข้อมูลที่ถูกต้องแก่ลูกค้า รวมถึงการจัดทำแบบสำรวจออนไลน์เพื่อรับฟังความเห็นของลูกค้าและนำไปสู่การพัฒนาในอนาคต

นางสุวรรณา พุทธประสาท กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2560 กลุ่มโรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ ยังคงมุ่งมั่นการพัฒนาบริการเพื่อความสะดวกสบายที่สุดของลูกค้า โดยเน้นการใช้เทคโนโลยีที่นอกจากฟรี wifi ในทุกพื้นที่ที่เราเริ่มเป็นโรงแรมแรกๆแล้ว เรายังใส่ใจในทุกพื้นที่ของโรงแรม ตั้งแต่ห้องพัก ที่เราปรับใช้โทรทัศน์เป็นระบบอัจฉริยะ (Smart TV) ในทุกโรงแรม เพื่อความสะดวกสบายของลูกค้าที่เข้าพัก นอกจากจะเลือกดูได้จากช่องรายการซึ่งครอบคลุมช่องรายการนานาชาติแล้ว ยังสามารถเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ตและเชื่อมต่อสัญญาณจากโทรศัพท์มือถือของลูกค้าได้อีกด้วย และในพื้นที่ส่วนกลางเราได้มีบริการ Grande & Go ตู้แลกซื้อสินค้าอัตโนมัติ เพื่อความสะดวกสบายของลูกค้าที่สามารถหาซื้อสินค้าได้ 24ชม.ในราคาย่อมเยาว์ ทั้งนี้ในส่วนของการบริการลูกค้าที่มุ่งเน้นความพึงพอใจและตอบโจท์ทุกความต้องการของลูกค้า เราพัฒนาการให้บริการร้านอาหาร เพื่อให้ลูกค้าได้สัมผัสอาหารไทยในมุมพิเศษนำเสนอรายการอาหารที่ลูกค้าจะได้ลิ้มลอง โดยเน้นเมนูยอดนิยมของคนไทย เช่น ผัดกระเพรา แกงเขียวหวาน แกงมัสมั่น เป็นต้น

ด้านนายสมชาย มีศรี ผู้จัดการทั่วไป โรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สุขุมวิท 55 เปิดเผยว่าแม้ว่าธุรกิจโรงแรมในประเทศไทยจะมีการแข่งขันสูง แต่ด้วยจุดเด่นของโรงแรมในด้านทำเลที่ตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่านทองหล่อ ซึ่งเราเล็งเห็นถึงศักยภาพความเจริญที่จะมีเพิ่มขึ้น ทั้งศูนย์การค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ร้านอาหารนานาชาติ ตลอดจนสถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกด้านต่างๆ โดยที่พักส่วนใหญ่ในย่านนี้มักเป็นรูปแบบของ เซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ในขณะที่โรงแรมที่ให้บริการแบบเต็มรูปแบบมีเพียงไม่กี่แห่ง จึงทำให้มีโอกาสขยายตัวอีกมาก โดยคาดว่ารายได้ในปี 60 น่าจะอยู่ประมาณ 420 ล้านบาท

สำหรับโรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สุขุมวิท 55 เป็นโรงแรมระดับ 5 ดาว ตกแต่งสไตล์คลาสสิค โดยผสมผสานกลิ่นอายตะวันตก และตะวันออกไว้ด้วยกัน โดยมีแรงบันดาลใจมาจากเรื่องราวของ "นาคา" หรือพญานาคมุจลินทร์ ที่สะท้อนออกมาในรูปแบบของสถาปัตยกรรมของตัวอาคารและการตกแต่งภายในที่เล่าเรื่องราวออกมาได้อย่างลงตัว และได้รับรางวัลชนะเลิศด้านสถาปัตยกรรม Best Hotel Architecture Thailand จาก International Property Awards โดยโรงแรมแกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สุขุมวิท 55 ยังเป็นโรงแรมแห่งแรกในประเทศไทยที่มีบ่อน้ำร้อน (ออนเซ็น) สไตล์ญี่ปุ่น พร้อมสปาแบบครบวงจรที่ใหญ่ที่สุด ครอบคลุมพื้นที่ขนาด 1,800 ตารางเมตร โดยโรงแรมมุ่งเน้นความครบเครื่องเรื่องการใช้งานที่เรียบง่ายและสะดวกสบาย ดังจะเห็นได้จากสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ภายในโรงแรม

โรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สุขุมวิท 55 มีห้องพักทั้งหมด 442 ห้องพัก ทุกห้องพร้อมทิวทัศน์กรุงเทพมหานคร ได้รับการตกแต่งอย่างทันสมัยและมีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องพักอย่างครบครัน อาทิ อ่างอาบน้ำขนาดใหญ่ ฝักบัว ชักโครกอัตโนมัติ (automatic toilet seat) โทรทัศน์สมาร์ท TV ตู้นิรภัย เตารีด สัญญาณอินเตอร์เนทไร้สายฟรี (Free Wifi) ครอบคลุมทุกจุดของโรงแรม นอกจากนี้แล้วโรงแรมยังมีจุดเด่นอยู่ที่ประเภทของห้องพักที่หลากหลายตอบสนองความต้องการของลูกค้า โดยมีอุปกรณ์ที่พร้อมเพรียงสำหรับการพักอาศัย อีกทั้งยังมีห้องพักประเภทเลดี้ เดอลักซ์ (Lady Deluxe) สำหรับผู้เข้าพักที่เป็นผู้หญิงโดยเฉพาะ ด้วยการจัดเตรียมอุปกรณ์สิ่งอำนวยความสะดวกของผู้หญิง และยังเพิ่มระบบรักษาความปลอดภัยให้ผู้เข้าพักรู้สึกปลอดภัยมากขึ้นอีกด้วย นอกจากนี้แล้วทางโรงแรมยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆที่ครบครัน ประกอบด้วย บิสซิเนส เล้าจน์ (Business Lounge) สระว่ายน้ำกลางแจ้ง (Sunset Pool) จากุซซี่ (Jacuzzi) เดอะ ฟิต คลับ ซาวน่า สตีม ห้องโยคะ ห้องสันทนาการโซเชียล 1 และ 2 (Social Room 1 & 2)

ผู้จัดการทั่วไป โรงแรม แกรนด์ เซนเตอร์ พอยต์ สุขุมวิท 55 กล่าวเพิ่มเติมว่า เนื่องจากสัดส่วนลูกค้าหลักของโรงแรมเป็นชาวต่างชาติถึง 90% ทางโรงแรมจึงได้วางแผนกระตุ้นตลาดต่างประเทศให้มากขึ้น โดยเน้นที่กลุ่มประเทศแถบเอเชียเป็นหลัก แล้วจึงขยายฐานตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าในยุโรปเป็นลำดับต่อไป โดยแบ่งการจัดการเป็น 2 ส่วน ได้แก่ ในด้านส่งเสริมการขายและการตลาด และในด้านการบริการที่มุ่งพัฒนาความสามารถของพนักงาน เพื่อรองรับกับการเติบโตของตลาด

อย่างไรก็ตาม แม้สถานการณ์การท่องเที่ยวในประเทศไทย ยังมีแนวโน้มเติบโตได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวทั่วโลก ซึ่งจำนวนนักท่องเที่ยวในปี 2559 มีมากกว่า 32 ล้านคน สร้างรายได้เข้าประเทศกว่า 2.6ล้านล้านบาท แสดงให้เห็นได้อย่างดีว่าแหล่งท่องเที่ยวในประเทศไทย รอยยิ้มของคนไทย ประเพณีวัฒนธรรมที่เป็นเอกลักษณ์ ยังคงสร้างแรงดึงดูดจากนักท่องเที่ยวทั่วโลกได้เป็นอย่างดี

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๓๑ ม.ค. รู้จักโรคอ้วนดีแล้ว.จริงหรือ?
๓๑ ม.ค. บมจ.ไทยเซ็นทรัลเคมี ร่วมกับ MBK ส่งมอบปฏิทินในกิจกรรม ปฏิทินเก่ามีค่า เราขอ
๓๑ ม.ค. BSRC ออกหุ้นกู้รอบใหม่ 8,000 ล้านบาท ยอดจองเกินเป้า ตอกย้ำความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน
๓๑ ม.ค. คปภ. ร่วมสัมมนาประกันภัย ครั้งที่ 29 เตรียมรับมือความเสี่ยงอุบัติใหม่ พลิกโฉมธุรกิจประกันภัยสู่ความท้าทายในอนาคต
๓๑ ม.ค. มอบของขวัญให้กับครอบครัวของคุณช่วงวันหยุดพิเศษที่ สเตย์บริดจ์ สวีท แบงค็อก สุขุมวิท
๓๑ ม.ค. OR เปิดตัว CEO คนใหม่ หม่อมหลวงปีกทอง ทองใหญ่ มุ่งผลักดันไทยสู่ Oil Hub แห่งภูมิภาค พร้อมขับเคลื่อนองค์กรด้วยดิจิทัล-นวัตกรรม
๓๑ ม.ค. เดลต้า ประเทศไทย คว้ารางวัล ASEAN's Top Corporate Brand ประจำปี 2567
๓๑ ม.ค. โรงแรมอลอฟท์ กรุงเทพ สุขุมวิท 11 พลิกโฉมใหม่ สุดโมเดิร์น! พร้อมเปิดตัว w xyz bar ตอกย้ำความสนุกในแบบฉบับ
๓๑ ม.ค. PAUL JOE เปิดตัว GLOSSY ROUGE ต้อนรับฤดูใบไม้ผลิ 2025
๓๑ ม.ค. บริษัท โกซอฟท์ (ประเทศไทย) ได้รับเกียรติบัตรศูนย์ รับเรื่องและแก้ไขปัญหาให้กับผู้บริโภคระดับดีเด่น จาก สคบ. และการรับรองมาตรฐาน ISO