แหล่งข่าวจาก บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ IFEC เปิดเผยว่า ที่ประชุมผู้คณะกรรมการบริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เมื่อวันที่ 15 มี.ค.2560 ที่ผ่านมา หลังจากคณะกรรมการมาครบองค์ประชุมทั้ง 9 ท่าน ประกอบด้วย 1.นายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ 2.นายศุภนันท์ ฤทธิไพโรจน์ 3.นายฉัตรณรงค์ ฉัตรภูติ 4.พลตรีบุญเลิศ แจ้งนพรัตน์ 5.นายทวิช เตชะนาวากุล 6.รองศาสตราจารย์ประนอม โฆวินวิวัฒน์ 7.นายสมชาย สกุลรัตน์ 8.พล.ต.อ.สุนทร ซ้ายขวัญ 9.นายปริญญา วิญญรัตน์ โดยกรรมการทั้ง 9 ท่านดังกล่าวได้ลงนามการเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้
"ดังนั้นการประชุมคณะกรรมการดังกล่าวถือว่า มีผลตามกฎหมายแล้ว โดยวาระที่กรรมการรับทราบและดำเนินการคือการจัดประชุมสามัญประจำปี 2560 ซึ่งกรรมการเห็นว่ามีความจำเป็น เพราะเป็นระยะเวลาที่กฎหมายกำหนด อีกทั้งเป็นกระบวนการสำคัญในการที่จะออกจากการถูกขึ้นเครื่องหมายเอสพี (SP) เพื่อให้บริษัทกลับเข้าสู่ภาวะปกติ"
สำหรับการประชุมคณะกรรมการในวันดังกล่าว เริ่มขึ้นเวลา 15.10 น. โดยมีนายวิชัย ถาวรวัฒนยงค์ ประธานกรรมการ บริษัท อินเตอร์ ฟาร์อีสท์ เอ็นเนอร์ยี่ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เป็นประธานในการประชุม
ทั้งนี้วาระการประชุมคณะกรรมการบริษัทครั้งนี้ มีวาระการประชุม 9 วาระประกอบด้วย
1.ประธานกรมการแจ้งให้ที่ประชุมทราบ
2.รับทราบกฎหมายเกี่ยวกับความรับผิดชอบทางแพ่งและทางอาญาของกรรมการบริษัทมหาชน
3.รับทราบความคืบหน้าของคดี และการตรวจสอบภายใน และพิจารณาอนุมัติการดำเนินการผู้เกี่ยวข้องในคดี และผู้กระทำความผิด
3.1.การตรวจสอบตามคำสั่งของคณะกรรมการตรวจสอบชุดเดิม
3.2. คดีฟ้องร้อง
4.พิจารณาอนุมัติแก้ไขข้อขัดข้องในการบริหารงานของบริษัทย่อย 4 บริษัท
5.พิจารณารับทราบความคืบหน้างบการเงินของบริษัทและบริษัทย่อย สำหรับรอบบัญชีสิ้นสุด ณ วันที่ 31 ธ.ค.2559
6.พิจารณาการอนุมัติกำหนดวันประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2560
7.พิจารณาอนุมัติกำหนดวันปิดสมุดทะเบียนผู้ถือหุ้น
8.พิจารณาอนุมัติแต่งตั้งเลขานุการบริษัท และ
9. พิจารณาการแก้ไขปัญหาหนี้ของบริษัท
สำหรับการประชุมคณะกรรมการในครั้งนี้ บริษัทได้ดำเนินการจัดส่งหนังสือและวาระการประชุมดังกล่าว ถึงกรรมการทุกท่าน เพื่อแจ้งกำหนดการและวาระการประชุมถูกต้องตามกฎหมายทุกวาระการประชุม ตามวาระการประชุมดังกล่าวข้างต้น
อย่างไรก็ตาม หลังการประชุมคณะกรรมการผ่านไปได้ 30-40 นาที ซึ่งอยู่ระหว่างการประชุมระเบียบวาระรับทราบความคืบหน้างบการเงินของบริษัทและบริษัทย่อย สำหรับรอบบัญชีสิ้นสุดวันที่ 31 ธ.ค.2559 และงบไตรมาสสี่ ปี 2559 ปรากฎว่า นายทวิชและกรรมการกลุ่มนายทวิช ได้ขอออกจากการประชุม
"สำหรับการกำหนดวาระการประชุมข้างต้น บริษัทได้ยึดหลักผลประโยชน์ของผู้มีส่วนได้เสียทุกฝ่าย ประกอบด้วย บริษัท ผู้ถือหุ้น และเจ้าหนี้ โดยเปิดทางให้กรรมการทุกคนได้แสดงความคิดเห็น และลงมติอย่างอิสระ แม้บางวาระไม่สามารถลงมติได้ แต่บริษัทจะเดินหน้าในการบริหารจัดการปัญหาดังกล่าว อย่างดีที่สุด สะท้อนได้จากเจตนาในการบริหารจัดการหนี้ ซึ่งบริษัทได้ว่าจ้าง บริษัท เพลินจิต แคปปิตอล จำกัด"