- ภาวะการลงทุนตราสารหนี้ในปี 59 มีความผันผวนบ้าง ตามการปรับตัวสูงขึ้นของอัตราดอกเบี้ยในตลาด
- ปี 60 เพิ่มการลงทุนในตราสารหนี้ระยะยาว อายุเฉลี่ย 3-5 ปี และเพิ่มการลงทุนในหุ้นไม่เกินร้อยละ 20
นายสมพร จิตเป็นธม เลขาธิการคณะกรรมการกองทุนการออมแห่งชาติ หรือ กอช. เปิดเผยว่า การลงทุนของ กอช. ในปี 2559 ที่ผ่านมาให้ผลตอบแทนเพิ่มขึ้นโดยต้นปี 59 ราคาสินทรัพย์ กอช. ต่อหน่วยลงทุนเท่ากับ 10.0318 บาท ณ สิ้นสุดปี 59 (30 ธ.ค. 2559) ราคาเพิ่มขึ้นเป็น 10.0651 บาทต่อหน่วยลงทุน โดยราคาต่อหน่วยระหว่างปีอาจขึ้นลงบ้างตามปกติ ซึ่งเป็นผลจากการปรับอัตราดอกเบี้ยในตลาดที่ กอช. ต้องมีการบันทึกราคาหลักทรัพย์ที่ถือครองตามราคาตลาด (Mark to Market) ทั้งนี้ สมาชิก กอช. ที่มีการออมจนครบกำหนดอายุ 60 ปี จะไม่ได้รับผลกระทบจากการปรับขึ้นลงของราคาดังกล่าว เนื่องจากอัตราผลตอบแทนโดยเฉลี่ยของทรัพย์สินทั้งหมดในพอร์ตการลงทุนของ กอช. โดยเฉลี่ยเท่ากับร้อยละ 1.87 ต่อปี
ปัจจุบัน สถานะกองทุน (ข้อมูล ณ 10 มี.ค. 2560) กอช. มีเงินสะสมและเงินสมทบ รวม 2,080 ล้านบาท อัตราผลตอบแทนโดยเฉลี่ยของทรัพย์สินทั้งหมดในพอร์ตการลงทุนเท่ากับร้อยละ 2.08 ต่อปี ราคาสินทรัพย์ กอช. ต่อหน่วยลงทุนเท่ากับ 10.0847 บาทต่อหน่วย ทั้งนี้ การลงทุนทั้งหมดเป็นการลงทุนในตราสารที่มีความมั่นคงสูง ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการลงทุนที่กำหนดไว้ เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของการจัดตั้ง กอช. ที่เป็นกองทุนการออมระยะยาว โดยแบ่งประเภทของตราสารหนี้ที่ลงทุนได้เป็น 3 กลุ่ม คือ
(1) เงินฝากและพันธบัตรที่กระทรวงการคลังค้ำประกัน ร้อยละ 72.20
(2) พันธบัตรรัฐวิสาหกิจ ร้อยละ 1.44
(3) หุ้นกู้ภาคเอกชนชั้นดี ร้อยละ 26.36
แม้ตลาดคาดการณ์ว่าในปี 2560 นี้ อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรและตราสารหนี้ของประเทศไทยและทั่วโลกจะปรับตัวสูงขึ้นตามปัจจัยกดดันจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) ก็ตาม พอร์ตการลงทุนของ กอช. ยังคงเป็นการลงทุนในตราสารประเภทที่ให้ผลประโยชน์อย่างมั่นคงในระยะยาว เพื่อสร้างผลตอบแทนแก่การออมระยะยาวของสมาชิก สอดคล้องตามวัตถุประสงค์และวิสัยทัศน์ของกองทุนที่มุ่งมั่นสร้างหลักประกันบำนาญพื้นฐานให้แก่แรงงานนอกระบบ ซึ่งอาจทำให้การลงทุนของ กอช. มีความผันผวนขึ้นลงบ้างเป็นระยะๆ โดยในปี 2560 นี้ กอช. กำหนดกลยุทธ์การลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุระหว่าง 3-5 ปี และถือครองจนครบระยะเวลาเพื่อให้ได้ผลตอบแทนตามที่กำหนด รวมถึงการลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนเพิ่มขึ้นด้วย นอกจากนี้ ยังเตรียมเพิ่มสัดส่วนการลงทุนในหุ้นอีกไม่เกินร้อยละ 20 ซึ่งเป็นไปตามนโยบายการลงทุนฉบับใหม่ของ กอช. ที่มีการปรับทิศทางการลงทุนสร้างผลตอบแทนระยะยาวให้กับสมาชิก
เพื่อให้มีโอกาสสร้างผลตอบแทนได้มากขึ้น โดยการลงทุนของ กอช. อาจเผชิญความผันผวนกว่าเดิมแต่เป็นเพียงความผันผวนระยะสั้น ซึ่งจะเป็นผลดีต่อการออมระยะยาวของสมาชิกหากสมาชิกมีการออมจนครบกำหนดอายุ 60 ปี ซึ่งจะทำให้สมาชิกมีเงินออมเพียงพอ มีโอกาสได้รับผลประโยชน์มากขึ้นด้วย
สอบถามข้อมูลเกี่ยวกับกองทุนการออมแห่งชาติได้ที่ กอช. สายด่วนเงินออม 02-017-0789 ในวันและเวลาทำการ และติดต่อสมัครสมาชิกได้ที่ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน ธ.ก.ส. และ ธอส. ทุกสาขาทั่วประเทศ ... "กอช. ออมสบาย ได้บำนาญ" www.nsf.or.th