นายสมคิด เวคินวัฒนเศรษฐ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ที.เค.เอส.เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ TKSผู้ประกอบการธุรกิจงานพิมพ์ครบวงจรรายใหญ่ในประเทศ เปิดเผยว่า บริษัทฯ ตั้งเป้าผลงานปี 2560 รายได้เติบโตกว่า 8% จากปี 2559 ที่ผ่านมา โดยปัจจุบันมีงานในมือที่รอรับรู้เป็นรายได้อยู่แล้วทั้งสิ้น (Backlog) 700 ล้านบาท จะทยอยรับรู้รายได้ทั้งหมดในปีนี้ พร้อมเดินหน้าประมูลงานใหม่อย่างต่อเนื่อง ควบคู่กับการรักษาอัตรากำไรสุทธิที่ดี ควบคุมต้นทุนค่าใช้จ่ายให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม และได้วางงบลงทุนในปีนี้ที่ 100 ล้านบาท เพื่อใช้ปรับปรุงเครื่องจักรให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น และใช้สำหรับการลงทุนอื่นๆ
อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ยังมองหาโอกาสจากการลงทุนอื่นๆ เพื่อสนับสนุนให้ TKS เติบโตยิ่งขึ้น และจากการที่บริษัทได้ร่วมทุนกับ Wellco จากประเทศญี่ปุ่น ในการทำธุรกิจผลิตภัณฑ์ Label ชนิด Linerless ซึ่งยังไม่มีผู้ผลิตในประเทศไทยและสามารถตอบโจทย์ผู้ใช้ได้เป็นอย่างดี จะเป็นอีกส่วนที่ช่วยสนับสนุนรายได้ในอนาคตที่จะขยายตัวขึ้นอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ บริษัทยังคงมุ่งเน้นการขยายธุรกิจไปยังกลุ่มประเทศ CLMV ได้แก่ กัมพูชา ลาว เมียนมา และเวียดนาม เพื่อรองรับงาน Printing and Solution ทั้งในส่วนของภาครัฐ เอกชน และรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมองว่าการเติบโตของกลุ่มประเทศดังกล่าวยังมีแนวโน้มที่ดี โดยล่าสุดแจ้งต่อตลาดหลักทรัพย์ฯได้ให้บริษัทย่อย ที.เค.เอส สยามเพรส แมเนจเม้นจ์ ร่วมลงทุนจัดตั้ง C.T.K.S. Technologies ในประเทศกัมพูชาประกอบธุรกิจการสิ่งพิมพ์และบริการสารสนเทศในต่างประเทศ
โดยการดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทร่วมทุน ของบริษัท ที.เค.เอส. สยามเพรส แมเนจเม้นท์ จำกัด (บริษัทย่อย) เข้าร่วมลงทุนในบริษัท C.T.K.S. Technologies Co., Ltd.เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม 2559 ที่ผ่านมา โดยใช้ชื่อบริษัทร่วมทุน C.T.K.S. Technologies Co., Ltd. ในประเทศกัมพูชา โดยประกอบธุรกิจการสิ่งพิมพ์ และบริการสารสนเทศในต่างประเทศ ทุนจดทะเบียน 240,000,000 เรียลหรือเท่ากับ 60,000 ดอลล่าร์สหรัฐ แบ่งออกเป็นหุ้นสามัญจำนวน 1,000 หุ้น โดยบริษัทย่อย ที.เค.เอส. สยามเพรส แมเนจเม้นท์ จำกัด ถือหุ้น 45%
สำหรับผลการดำเนินงานของบริษัทฯ งวดประจำปี 2559 บริษัทฯ มีรายได้จากการขาย 1,461.87 ล้านบาท เปรียบเทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 1,368.09 ล้านบาท คิดเป็นการปรับเพิ่มขึ้น 6.85 % ส่วนกำไรสุทธิอยู่ที่ 336.59 ล้านบาทเปรียบเทียบกับปีก่อนอยู่ที่ 285.37 ล้านบาท คิดเป็นการปรับเพิ่มขึ้น 17.95% แสดงถึงการเติบโตอย่างมั่นคง
ภาพรวมผลงานในปี 2559 มีรายได้เติบโตขึ้นไม่มากนักในส่วนของรายได้จากการขาย แต่รายได้ที่มาจากส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุน และรายได้อื่นๆเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ เพิ่มขึ้นร้อยละ 18.3% และ ร้อยละ 144.7% ตามลำดับ ทั้งนี้เนื่องมาจาก บริษัท ซินเน็ค (ประเทศไทย) จำกัด (บริษัทร่วม) มีผลกำไรเพิ่มสูงขึ้น ส่วนรายได้อื่นๆที่เพิ่มขึ้นหลักมาจาก กำไรจากการขายอาคารพาณิชย์ (สำนักงานเดิม) ส่งผลทำให้กำไรสุทธิเติบโตขึ้น 17.95%
พร้อมกันนี้ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัทฯ มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลจากผลการดำเนินงานปี 2559 และกำไรสะสม จากก่อนหน้านี้ได้จ่ายปันผลระหว่างกาลไปแล้วในอัตราหุ้นละ 0.15 บาท โดยจะจ่ายปันผลในงวดครึ่งปีหลังอีกในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท โดยกำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 21 มีนาคม 2560 และกำหนดจ่ายเงินปันผลวันที่ 19 พฤษภาคม 2560