TMBAM เผยปัจจัยหลักส่งผลเติบโตอย่างก้าวกระโดด พร้อมชูกลยุทธ์มุ่งสู่ปีที่ 21

พฤหัส ๒๓ มีนาคม ๒๐๑๗ ๐๙:๕๙
ดร.สมจินต์ ศรไพศาล กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน ทหารไทย จำกัด ("TMBAM") เปิดเผยว่า "พัฒนาการและความสำเร็จของบริษัทฯในช่วง 20 ปีที่ผ่านมาจวบถึงปัจจุบัน ปี 2560 ทั้งธุรกิจกองทุนรวมที่บริษัทฯบริหารจัดการได้เติบโตมาโดยลำดับจนมีมูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การจัดการ (AUM) ถึงกว่า 3 แสนล้านบาท มีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 5 ของอุตสาหกรรม (AUM ณ สิ้นสุดปี ธันวาคม 2559 อยู่ที่ 305,972 ล้านบาท คิดเป็นอัตราเติบโตเพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 41.6% จาก AUM ณ สิ้นปี 2558 ที่ 216,126 ล้านบาท ที่มาจาก: AIMC) และธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ประสบความสำเร็จจนได้รับรางวัลชนะเลิศอันทรงเกียรติจากสมเด็จพระเทพฯรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี ถึง 2 ปีซ้อน (ประจำปี 2558-9 จัดโดยสมาคมกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ) ล้วนเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงการบริหารงานของบริษัทที่ยึดมั่นให้ความสำคัญต่อการเป็น "คู่ชีวิตการลงทุน" ให้ความสำคัญต่อผู้ถือหน่วยลงทุนเป็นอันดับแรก (Customer Centric) มุ่งสร้างประสบการณ์ที่ดีต่อแบรนด์ (Brand Experience) ที่พร้อมตอบสนองความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์กองทุนและบริการของ TMBAM ที่เรียบง่ายแต่ทรงประสิทธิภาพ"

ดร.สมจินต์ กล่าวเสริมว่า "ความสำเร็จของธุรกิจกองทุนรวมที่ผ่านมานั้น คือผลจากการทำงานเยี่ยงมืออาชีพอย่างต่อเนื่องในการออกแบบสร้างสรรค์หรือเฟ้นหาผลิตภัณฑ์ที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมประสิทธิภาพสามารถตอบโจทย์การลงทุนในช่วงเวลาขณะใดขณะหนึ่งได้อย่างทันท่วงที หรือให้คุณภาพของผลตอบแทนภายใต้การจัดการความเสี่ยงอย่างเหมาะสมเพื่อความมั่งคั่งและยั่งยืนในระยะยาว รวมถึงการให้ทางเลือกที่หลากหลายและการมีพันธมิตรที่มีประสบการณ์และความรู้ในระดับสากล อาทิ Mercer, Amundi และ FTSE เป็นต้น

โดยในส่วนของการสร้างความโดดเด่นของผลิตภัณฑ์ตอกย้ำการเป็นผู้นำในการบริหารกองทุนเชิงรับ (Passive Investment) นั้น บริษัทฯได้สร้างแนวทางและนโยบายการลงทุนที่ชัดเจนเข้าใจได้ง่าย มีค่าใช้จ่ายเป็นธรรมสมเหตุผล โดยพัฒนาการให้สอดคล้องตามยุคสมัย อาทิเช่น กองทุนดัชนีประเภท Pure Index Fund ในตระกูล SET50 ซึ่งประกอบไปด้วย กองทุนเปิดทหารไทย SET50 กองทุนเปิดทหารไทย SET50 ปันผล และกองทุนเปิดทหารไทย SET50 RMF ปัจจุบันมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวมกว่า 11,759 ล้านบาท ณ วันที่ 14 มีนาคม 2560 ให้ผลตอบแทนนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนจนถึง 13 มีนาคม 2560 อยู่ที่ 14.54% ต่อปี กองทุนดัชนีประเภท Rule Base ในตระกูลJumbo25 ที่มีชื่อเสียง ประกอบด้วย กองทุนเปิด Jumbo25 กองทุนเปิด Jumbo25 RMF กองทุนเปิด Jumbo25 LTF และกองทุนเปิด Jumbo Plus LTF ซึ่งมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวมกว่า 15,850 ล้านบาท ณ วันที่ 14 มีนาคม 2560 กองสร้างผลตอบแทนได้อย่างโดดเด่นจนเคยได้รับรางวัลจาก Morningstar และล่าสุดกองทุนดัชนีน้องใหม่ในลักษณะ Smart Beta ที่ได้พัฒนาร่วมกับพันธมิตรผู้เชียวชาญการลงทุนแบบดัชนีระดับโลก FTSE และเพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปลายปี 2559 ที่ผ่านมากับกองทุนในตระกูลหุ้นขนาดกลาง-เล็ก หรือที่เรียกชื่อว่า Thai Mid Small Minimum Variance ที่ให้โอกาสของผลตอบแทนพร้อมควบคุมความผันผวนของพอร์ตลงทุนโดยเฉพาะที่เกิดจากคุณลักษณะของหุ้นขนาดกลาง-เล็กอีกด้วย

กล่าวโดยเฉพาะสำหรับธุรกิจกองทุนรวมในรอบปี 2559 ที่ผ่านมานั้น เราพบว่าการที่เศรษฐกิจทั่วโลกมีความไม่แน่นอนสูง อัตราดอกเบี้ยต่ำลงอย่างเป็นปรากฏการณ์นั้น ได้นำโลกเข้าสู่ยุคที่เรียกกันโดยทั่วไปว่า New Normal อย่างเต็มตัว การลงทุนที่เสี่ยงต่ำ ได้ผลตอบแทนน้อยลงมาก ในขณะที่การลงทุนที่ให้ผลตอบแทนสูงก็มีความผันผวนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ นักลงทุนจึงพยายามแสวงหาผลิตภัณฑ์ลงทุนที่เข้าใจได้ง่าย ให้ผลตอบแทนที่สูงพอประมาณขณะที่มีความผันผวนที่ไม่สูงจนเกินไป ดังนั้นการสร้างผลิตภัณฑ์ที่เรียบง่ายแต่เปี่ยมประสิทธิภาพสามารถตอบโจทย์การลงทุนในช่วงเวลาดังที่กล่าวมาจึงเป็นหัวใจสำคัญแห่งความสำเร็จของบริษัทฯ ความโดดเด่นและผลสำเร็จจากกองทุนที่เพิ่งจัดตั้งใหม่ในปี 2559 ที่ผ่านมา โดยเฉพาะกองทุนเปิดทหารไทย ธนเพิ่มพูน จัดตั้งขึ้นเมื่อต้นปี (25 ม.ค. 2559) โดยทีมงานได้ออกแบบให้เป็นกองทุนตราสารหนี้ระยะสั้นที่ต่อยอดความสำเร็จของกองทุนเปิดทหารไทย ธนพลัส เหมาะสำหรับผู้ลงทุนที่ต้องการบริหารสภาพคล่องแต่ขณะเดียวกันก็ต้องการยกระดับของผลตอบแทนให้สูงกว่าการลงทุนรูปแบบเดิมๆ ปัจจุบัน AUM ของกองทุนได้เติบโตถึง 106,346 ล้านบาท (ข้อมูล ณ 14 มีนาคม 2560) และกองทุนเปิดทหารไทย Global Income ที่ทีมงานได้กลั่นกรองและคัดสรรกองทุนทั่วโลกจนได้เป็นพันธมิตรกับ PIMCO ซึ่งกองทุนหลัก (Master Fund—PIMCO GIS Income Fund) มีประวัติที่สามารถสร้างผลตอบแทนในรูปแบบปันผลได้อย่างสม่ำเสมอ บริษัทฯได้จัดตั้งกองทุนเปิดทหารไทย Global Income ขึ้นในวันที่ 19 พ.ค. 2559 ปัจจุบันมีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิถึง 42,855 ล้านบาท (ข้อมูล ณ วันที่ 13 มีนาคม 2560) ตอบโจทย์หลักของผู้ลงทุนคือสามารถสร้างกระแสเงินสดให้แก่ผู้ลงทุนมาโดยตลอดทุกไตรมาสผ่านการขายคืนอัตโนมัติ (Auto Redemption) โดยกองทุนสามารถสร้างผลตอบแทนสะสมได้ถึง 6% นับตั้งแต่จัดตั้งกองทุน (ในระยะเวลาประมาณ 10 เดือน)

สำหรับธุรกิจกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งในความภาคภูมิใจของ TMBAM นั้น การออกแบบผลิตภัณฑ์โดยมุ่งพัฒนาให้การลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่บริหารโดยบริษัทฯ มีธรรมชาติในการลงทุนลักษณะเดียวกับการลงทุนในกองทุนรวม โดยเฉพาะการให้อำนาจพิเศษ 3 ประการคือ "อำนาจในการเลือกลงทุนเองได้" เพราะความต้องการและความสามารถในการรับความเสี่ยงของแต่ละบุคคลไม่เหมือนกัน "อำนาจในการกระจายการลงทุนได้" โดยเฉพาะการเปิดโอกาสลงทุนยังต่างประเทศ เพื่อเพิ่มโอกาสของผลตอบแทน และลดทอนความเสี่ยง และ "อำนาจในการปรับเปลี่ยนได้" ซึ่งก็คือการที่พนักงานมีช่องทางได้รับข้อมูลข่าวสารการลงทุนอย่างต่อเนื่อง สามารถตัดสินใจปรับเปลี่ยนการลงทุนได้อย่างอิสระ มีประสิทธิภาพและทันท่วงที เพราะสินทรัพย์ต่างประเภทย่อมมีความเสี่ยงที่แตกต่าง และเหมาะสมกับสถานการณ์ที่แตกต่างกันไป ด้วยแนวคิดดังกล่าวจึงทำให้กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ TMBAM M Choice ซึ่งจดทะเบียนแล้ว ของ TMBAM ได้รับความสนใจจากลูกค้ากลุ่มต่างๆ และสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศอันทรงเกียรติ 2 ปีซ้อน (ประจำปี 2558 และ 2559) ได้รับโล่ห์พระราชทานจาก สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ในประเภทกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่จัดการแบบกองทุนร่วม (Pooled Fund) และยังส่งผลต่อเนื่องไปถึง กองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่ทาง TMBAM ช่วยบริหารจัดการลงทุนในลักษณะกองทุนเดี่ยว (Single Fund) คือ กองทุนสำรองเลี้ยงชีพของสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ซึ่งจดทะเบียนแล้ว (สสวท) ยังได้รับรางวัลยอดเยี่ยมสูงสุดด้วยสองปีซ้อนในประเภทกองทุนสำรองเลี้ยงชีพที่มีขนาดเล็กกว่า 1,000 ล้านบาทเช่นกัน (ประจำปี 2558-2559)

ดร.สมจินต์กล่าวเพิ่มเติมว่า "การต่อยอดความสำเร็จอันโดดเด่นในปี 2559 คือความท้าทายที่สำคัญและต้องอาศัยความร่วมมือช่วยเหลือของบริษัทแม่คือธนาคาร TMB และพันธมิตรทางธุรกิจโดยเฉพาะผู้สนับสนุนการขายและรับซื้อหน่วยลงทุน โดยกลยุทธ์ในการบริหารงานในปี 2560 เพื่อให้ผู้ลงทุนให้ได้รับผลสำเร็จทางการลงทุนอย่างยั่งยืน และบริษัทสามารถยืนหยัดในการเป็น "คู่ชีวิตการลงทุน : Life Partner" ได้อย่างแท้จริง รวมถึงการขยายฐานผู้ลงทุนให้เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยยะนั้น จะประกอบด้วยกลยุทธ์การตลาดยุคใหม่ที่ผสมผสานการให้ความรู้ทางการลงทุน (Educational Marketing) การสื่อสารการตลาดแบบบูรณาการเบ็ดเสร็จ และระบบธุรกรรมออนไลน์อันปี่ยมประสิทธิภาพ เป็นสำคัญ และเติมเต็มด้วยการพัฒนาเครื่องมือเพื่อช่วยให้การลงทุนมีประสิทธิภาพและสอดคล้องกับยุคสมัยดิจิตอลกับพฤติกรรมของผู้ลงทุนที่เปลี่ยนแปลงไป ได้แก่การพัฒนาต่อยอดโปรแกรมแบบจำลองการลงทุนและติดตามผลออนไลน์ที่เราเรียกว่าโปรแกรม My Dream สำหรับผู้ลงทุนทั่วไปในการลงทุนในกองทุนรวม และโปรแกรม Retire Rich Workbook สำหรับพนักงาน ลูกจ้างบริษัทเอกชนในการลงทุนในการลงทุนในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ" ดร.สมจินต์กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๒๒ พ.ย. รีเลชั่นชิพรีพับบลิค แนะกลยุทธ์สำคัญ นำพาธุรกิจร้านอาหารสู่ความสำเร็จ มัดใจลูกค้าให้อยู่หมัด
๒๒ พ.ย. ชมนวัตกรรมสุดล้ำในงาน METALEX 2024 หลายแบรนด์แกะกล่องเครื่องจักรครั้งแรกในงานนี้
๒๒ พ.ย. Bangkok Illustration Fair 2024 สู่การเติบโตก้าวใหญ่ในปีที่ 4
๒๒ พ.ย. ผลการจัดอันดับขีดความสามารถในการแข่งขันด้านดิจิทัลโดย IMD ประจำปี 2567 TMA เผยไทยครองอันดับ 37 ในการจัดอันดับด้านดิจิทัลปีนี้
๒๒ พ.ย. โก โฮลเซลล์ จัดเต็มสินค้า ส่งสุข สุดอร่อย เฉลิมฉลองเทศกาลส่งท้ายปี เข้มกระเช้าปีใหม่ดีมีมาตรฐาน พร้อมชู อาหารแช่แข็ง-อาหารสด
๒๒ พ.ย. กทม. จับมือสถานทูตเนเธอร์แลนด์ ประจำประเทศไทย จัดประชุมเชิงปฏิบัติการ ACTIVE Workshop เมืองเดินเท้า และจักรยานสัญจร ครั้งที่
๒๒ พ.ย. สัมผัสความหรูหราของวิลล่าริมทะเล VEYLA NATAI RESIDENCES ผ่านประสบการณ์เหนือระดับในงาน SOUL of VEYLA
๒๒ พ.ย. 'แอสเซทไวส์' จับมือ 'สยามกีฬา' เปิดศึกลูกหนังยุวชนทัวร์นาเมนต์ใหญ่แห่งปี AssetWise Siamkeela Cup 2024-25 ต่อเนื่องเป็นปีที่
๒๒ พ.ย. โรงแรมเรเนซองส์ เปิดตัว R FINDS แพลตฟอร์มดิจิทัลระดับโลก ที่จะเชื่อมมนต์เสน่ห์ชุมชนท้องถิ่นสู่นักเดินทางทั่วโลก
๒๒ พ.ย. electric.neon.lamp หยิบเพลงฮิต แม้ ใส่ฟีลดนตรีเหงาปนเศร้าในแบบ Piano Version