ทั้งนี้ ในปี 2016 ที่ผ่านมา ตลาดชาพร้อมดื่มในประเทศไทยมีมูลค่ารวมอยู่ที่ประมาณ 14,900 ล้านบาท ซึ่งครอบคลุมทั้งชาเขียว ชาดำ และชาขาว โดยมีสัดส่วน 80% 14% และ 5% ตามลำดับ และมีอัตราการเติบโต -7% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า อย่างไรก็ตาม 'ชาดำ' ถือเป็นเพียงเซ็กเมนต์เดียวที่มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องที่อัตรา 2.4%
"สำหรับปีนี้ ลิปตัน ไอซ์ที กลับมาสร้างสีสันให้กับตลาดเครื่องดื่มในช่วงหน้าร้อนด้วยการส่งแคมเปญใหม่ 'ลิปตัน ไอซ์ที เพื่อนซี้ของอร่อย'เพื่อตอกย้ำจุดแข็งในด้านรสชาติที่เปรี้ยวหวานลงตัว ช่วยตัดเลี่ยนตัดมัน ซึ่งเหมาะกับการดื่มคู่มื้ออาหาร โดยเราได้ 'ใหม่ – ดาวิกา' มาร่วมเป็นพรีเซ็นเตอร์คนใหม่ซึ่งจะปรากฎตัวอยู่ในสื่อต่างๆ ทั้งภาพยนตร์โฆษณาทางโทรทัศน์ สื่อในโรงภาพยนตร์ สื่อออนไลน์ รวมทั้งสื่อในร้านค้าและ ณ จุดขาย โดยเฉพาะในร้านอาหาร เพื่อช่วยขยายฐานคนดื่มและเพิ่มอัตราการซื้อลิปตันไอซ์ทีให้มากขึ้น" นางสาวตวงพรกล่าว
รับชมภาพยนตร์โฆษณาชุดใหม่ของ "ลิปตัน ไอซ์ที" ได้แล้ววันนี้ที่ https://youtu.be/4hRNg9rU5KA และร่วมสัมผัสประสบการณ์ความสดชื่นจาก "ลิปตัน ไอซ์ที" ทั้งขนาดสุดคูล 300 มล. ขนาดสุดคุ้ม 445 มล. และกระป๋องขนาดสลิม 245 มล. ได้ที่ร้านสะดวกซื้อ ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลีกและร้านอาหารทั่วประเทศ พร้อมติดตามข้อมูลเกี่ยวกับ "ลิปตัน ไอซ์ที" ได้ทาง https://www.facebook.com/LiptonThailand
9 เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ "ลิปตัน ไอซ์ที"
1) "ลิปตัน" คือ แบรนด์ชาอันดับหนึ่งในโลกที่มีประวัติศาสตร์ยาวนานมากว่า 125 ปี คิดค้นโดยเซอร์ โทมัส ลิปตัน ในประเทศอังกฤษ ซึ่งถือเป็นต้นตำรับของชาเมืองผู้ดี
2) ชาพร้อมดื่ม "ลิปตัน ไอซ์ที" ถือกำเนิดมาตั้งแต่ปี 1991 โดยบริษัท Pepsi Lipton ซึ่งเป็น Joint Venture ระหว่าง 2 บริษัทชั้นนำของโลก คือ ยูนิลีเวอร์ ผู้นำในด้านสินค้าอุปโภคบริโภค ในฐานะเจ้าของแบรนด์ชา "ลิปตัน" และ เป๊ปซี่โค ผู้นำในธุรกิจอาหารและเครื่องดื่มระดับโลก ในฐานะผู้ผลิตเครื่องดื่มบรรจุขวดระดับโลก
3) ชาพร้อมดื่ม "ลิปตัน ไอซ์ที" เป็น 1 ใน 22 Flagship Brand ของเป๊ปซี่โคที่มียอดขายในแต่ละปีมากกว่า 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ (หรือประมาณ 36,000 ล้านบาท) เคียงคู่แบรนด์ระดับโลกอย่าง เป๊ปซี่ เกเตอเรดและอควาฟิน่า
4) ปัจจุบัน "ลิปตัน ไอซ์ที" มีวางจำหน่ายในกว่า 150 ประเทศทั่วโลก และถือเป็นชาพร้อมดื่มที่มียอดขายเป็นอันดับหนึ่งใน 24 ประเทศ ซึ่งรวมถึง อังกฤษ ฝรั่งเศส เบลเยี่ยม กรีซ และรัสเซีย
5) นอกจากชาดำพร้อมดื่มแล้ว "ลิปตัน ไอซ์ที" ยังขยายพอร์ตโฟลิโอโดยนำเสนอผลิตภัณฑ์รูปแบบใหม่ๆ ที่หลากหลาย ในตลาดต่างประเทศ อาทิ ชาพร้อมดื่มอัดแก๊ส "ลิปตัน สปาร์คกลิ้ง ไอซ์ที" (Lipton Sparkling Ice Tea) และชาพร้อมดื่มสไตล์ค็อกเทลสูตรไร้แอลกอฮอล์ "ลิปตัน ไอซ์ที ม็อคเทล" (Lipton Ice Tea Mocktail)
6) ในปี 2016 ที่ผ่านมา เป๊ปซี่โคประเทศไทยได้ปรับโมเดลธุรกิจของชาพร้อมดื่ม "ลิปตัน ไอซ์ที" โดยหันมาเป็น ผู้ผลิต จัดจำหน่าย และดำเนินกิจกรรมการตลาดด้วยตัวเอง ภายหลังเปิดโรงงานผลิตเครื่องดื่มแห่งที่สองในประเทศไทยตั้งแต่เดือนมีนาคม ซึ่งเป็นไปตามกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจในระยะยาวที่มุ่งสร้างการเติบโตในธุรกิจเครื่องดื่ม ทั้งเครื่องดื่มอัดลมและไม่อัดลม
7) ในปี 2016 ตลาดชาพร้อมดื่มในประเทศไทยมีมูลค่ารวมทั้งสิ้นประมาณ 14,900 ล้านบาท1 ซึ่งครอบคลุมทั้งชาเขียว (Green Tea) 80% ชาดำ (Black Tea) 14% และชาขาว (White Tea) 5% โดยชาดำถือเป็นเซ็กเมนต์เดียวที่มีการเติบโตเป็นบวกด้วยอัตรา 2.4 %2 ทั้งนี้ ในปีที่ผ่านมา คนไทยบริโภคชาดำพร้อมดื่มรวมทั้งสิ้นถึง 71.5 ล้านลิตร3
8) สำหรับแคมเปญโฆษณาในประเทศไทย "ลิปตัน ไอซ์ที" จะเลือกใช้สาวฮอตแห่งยุคที่มีบุคลิกสดใสมาเป็นตัวแทนเพื่อถ่ายทอดเอกลักษณ์ของแบรนด์และสะท้อนความสดชื่นของผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็น 'น้ำชา' ชีรณัฐ ยูสานนท์ 'พีค' ภัทรศยา เครือสุวรรณศิริ'ญาญ่า' อุรัสยา สเปอร์บันด์ และรวมถึง 'ใหม่' ดาวิกา โฮร์เน่ พรีเซ็นเตอร์ซุป'ตาร์คนล่าสุด ที่จะมาช่วยสร้างสีสันและรุกขยายฐานลูกค้าในช่วงหน้าร้อนนี้
9) ด้วยจุดเด่นด้านรสชาติที่มีความ 'เปรี้ยว หวาน ลงตัว' ของชาดำแท้ๆ ผสมเลมอน ทำให้ "ลิปตัน ไอซ์ที" ได้รับความนิยมจากผู้บริโภคไทย โดยเฉพาะเมื่อดื่มคู่กับมื้ออาหาร ไม่เพียงช่วยตัดเลี่ยนตัดมัน แต่ยังเพิ่มอรรถรสให้กับทุกจาน จนส่งผลให้ "ลิปตัน ไอซ์ที"กลายเป็นผู้นำตลาดชาดำพร้อมดื่มในช่องทางร้านอาหาร ด้วยส่วนแบ่งการตลาดถึง 80%4