บล.เอเชีย เวลท์ คาดหุ้นยังเคลื่อนไหวแบบ Sideway จากปัจจัยต่างประเทศ

อังคาร ๒๘ มีนาคม ๒๐๑๗ ๑๔:๓๘
บล.เอเชีย เวลท์ คาดปัจจัยต่างประเทศยังคงกดดันตลาดหุ้นไทยเคลื่อนไหวในกรอบแคบ ๆ 1,563-1,579 จุด Trading Idea ประจำสัปดาห์นี้ แนะนำซื้อ TTA จากธุรกิจที่กำลังฟื้นตัวชัดเจน ให้ราคาเป้าหมาย 13.00 บาท

นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ กรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด กล่าวว่า พรรค Republican ของประธานาธิบดีทรัมป์ได้ถอนร่างกฎหมาย American Health Care Act (AHCA) ก่อนการลงมติโดยสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ตามกำหนดการในวันศุกร์เนื่องจากขาดเสียงสนับสนุนภายในพรรคเอง ร่างกฎหมายนี้เป็นส่วนสำคัญของนโยบายที่ประธานาธิบดีทรัมป์ได้หาเสียงไว้ก่อนชนะการเลือกตั้ง ถือเป็นความล้มเหลวทางการเมืองที่ส่งผลให้เกิดความกังวลว่าร่างกฎหมายอื่น ๆ โดยเฉพาะที่เกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ อาจจะเผชิญปัญหาแบบเดียวกันจนต้องล่าช้าออกไปด้วย

นอกจากนี้ ประธานาธิบดี ทรัมป์ กำลังจะแก้ไขข้อตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) จำนวน 14 ฉบับ ที่มีกับหลายประเทศรวมทั้งเอเชีย เพื่อให้ประโยชน์ตกกับบริษัทสหรัฐฯ มากขึ้นแล้วอาจส่งผลลบต่อประเทศคู่สัญญาได้ ทำให้ตลาดเกิดความวิตกกังวลขึ้นมาใหม่อีก

สำหรับปัจจัยภายในประเทศ กระทรวงการคลังมีแนวคิดที่จะแก้ไขกฎหมายสิทธิ์ในการเช่าที่ดิน (Leasehold) ของชาวต่างชาติโดยจะขยายระยะเวลาการถือครองเพิ่มเป็น 50 ปี เพื่อจูงใจให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนทางตรงในไทยมากขึ้น ซึ่งปัจจัยนี้อาจจะช่วยกระตุ้นตลาดอสังหาริมทรัพย์ในประเทศได้ นอกจากนี้ ต้องติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ในวันพุธนี้ ซึ่งคาดว่าจะยังคงดอกเบี้ยนโยบายโดยไม่เปลี่ยนแปลง

ด้านภาวะตลาดสิ้นเดือน มีนาคม ตลาดอาจมีแรงซื้อเพื่อปิดบัญชีสิ้นไตรมาส (Window dressing) แต่ บล.เอเชีย เวลท์ คาดว่าไม่มีผลกระทบมากนัก อย่างไรก็ตามช่วงนี้ไปจนถึงไตรมาสที่ 2 ถือว่าเป็นจังหวะเหมาะในการซื้อลงทุนในหุ้นปัจจัยพื้นฐานดี เนื่องจากตลาดได้เข้าสู่ฤดูกาลจ่ายเงินปันผล จะส่งผลให้ราคาหุ้นมีแนวโน้มปรับตัวลดลงมากกว่าขึ้น ดังนั้น เราคาดว่า สัปดาห์นี้ SET Index จะเคลื่อนไหวในลักษณะ Sideways ระหว่าง 1,563-1,579 จุด

นายวรุตม์ กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้าน Trading Idea ของ บล.เอเชีย เวลท์ แนะนำซื้อ TTA ของ บริษัท โทรีเซนไทย เอเยนต์ซีส์ จำกัด (มหาชน) ราคาเป้าหมาย 13.00 บาท โดย TTA มีธุรกิจหลัก 3 กลุ่ม คือ การขนส่งทางเรือ กลุ่มโครงสร้างพื้นฐาน เช่น ขายปุ๋ย ขายถ่านหิน และคลังสินค้า และกลุ่มพลังงาน ได้แก่ แท่นขุดเจาะน้ำมัน และก๊าซธรรมชาติ นอกชายฝั่งทะเล ในปีนี้คาดว่าธุรกิจกลุ่มพลังงานสามารถสร้างรายได้ให้กับ TTA มากที่สุด คิดเป็น 40% ของรายได้ทั้งหมด (48% ในปีที่แล้ว) ธุรกิจขนส่งเรือคิดเป็น 36% ของรายได้ (23% ในปีที่แล้ว) และธุรกิจโครงสร้างพื้นฐาน คิดเป็น 24% (29% ในปีที่แล้ว)

ธุรกิจของ TTA อยู่ในช่วงฟื้นตัว จากสัญญาณการฟื้นตัวที่สำคัญของอุตสาหกรรมเรือเทกองและคาดว่าบริษัทจะพลิกฟื้นจากผลขาดทุนขึ้นมามีกำไรในปี 2560 และมีการเติบโตที่แข็งแกร่งต่อไปในอนาคต การฟื้นตัวของอุตสาหกรรมขนส่งสินค้าทั่วโลกจะได้รับแรงหนุนจากแนวโน้มอุปสงค์ที่จะเพิ่มขึ้นแต่อุปทานที่จะลดลงในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

ด้านอุปสงค์ ตามที่กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ระบุว่าปริมาณการค้าโลก คาดว่า จะขยายตัว 3.8% ในปี 2560 และ 4.1% ในปี 2561 ซึ่งดีกว่าการขยายตัว 2.7% และ 1.9% ในปี 2558 และ 2559 ตามลำดับ เนื่องจากการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก

ด้านอุปทาน เราคาดว่ากองเรือเทกองจะลดปริมาณลงประมาณ 5-7% ภายใน 3 ปีข้างหน้า เนื่องจากกฎระเบียบของระบบการจัดการน้ำเสีย (Ballast Water Management) ที่นำมาบังคับใช้เป็นกฎหมายกับเรือทุกประเภท ซึ่งจะส่งผลให้ต้นทุนของผู้ประกอบการเรือเพิ่มขึ้นและเป็นเหตุจูงใจให้มีขายเรือที่เก่าเกินกว่า 15 ปี ทิ้งเป็นเศษเหล็กมากขึ้นเพราะไม่คุ้มจะนำมาเดินเรือ

เราคาดการณ์อย่างระมัดระวังว่า ดัชนีค่าระวางเรือ Baltic Dry Index (BDI) อยู่ที่ระดับ 1,000 จุด ในปี 2560 และ 1,200 จุด ในปี 2561 ซึ่งพลิกจากระดับ 673 จุด ในปี 2559 และ 718 ในปี 2558 ซึ่ง BDI ล่าสุด 24 มี.ค.60 ขึ้นมา 29%YTD มาเป็น 1,240 จุด

"TTA จะได้รับประโยชน์อย่างมากจากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมเดินเรือโดยที่อัตราค่าระวางเรือของโลกมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้น ในขณะที่คาดว่าธุรกิจอื่น ๆ ภายใต้ TTA จะมีการเติบโตในระดับคงตัวหรือปานกลางแต่จะยังคงมีส่วนช่วยสร้างรายได้และกระแสเงินสดอย่างต่อเนื่อง โดยคาดว่ากำไรของ TTA จะฟื้นตัวจากขาดทุน 418 ล้านบาทในปี 2559 และมีกำไรสุทธิ 1.54 พันล้านบาทในปี 2560 และเพิ่มขึ้นอีก 14% เป็น 1.76 พันล้านบาทในปี 2561 โดยราคาเป้าหมายของเราอยู่ที่ 13.00 บาท" นายวรุตม์ กล่าว

ด้าน Technical รูปแบบราคาของ TTA มีความแข็งแกร่งอย่างมากในแนวโน้มขาขึ้น (Uptrend) จากสัญญาณซื้อรายวัน รายสัปดาห์ และรายเดือน

นักลงทุนทั่วไป ติดต่อ บริษัทหลักทรัพย์ เอเชีย เวลท์ จำกัด 02-680-5000

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม ติดต่อ ฝ่ายประชาสัมพันธ์ มุกพิม จุลพงศธร (มุก) โทร. 02-880-6008

อีเมล์ : [email protected]

ติดต่อฝ่ายวิจัย นายวรุตม์ ศิวะศริยานนท์ (No.17923) โทร. 02-680-5041

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๕:๓๒ อาลีเพย์พลัสขยายเครือข่ายพันธมิตรด้านการชำระเงินเป็น 35 ราย เชื่อมโยงผู้ค้ากับนักท่องเที่ยวเข้าด้วยกันผ่านการชำระเงินบนมือถือ การขายของในแอปพลิเคชัน
๑๕:๓๙ ยกระดับบริการหลังการขายขึ้นอีกขั้นกับ Volvo Mobile Service เพียงนัดหมาย เราพร้อมให้บริการถึงหน้าบ้านคุณ
๑๕:๓๔ ประกาศราคาไทย HUAWEI Mate X6 สมาร์ทโฟนนแบบพับได้ระดับท็อป โฉบเฉี่ยวแต่แข็งแกร่ง พร้อมกล้องเพื่อการถ่ายรูปที่สมบูรณ์แบบ
๑๕:๒๔ มหัศจรรย์แห่งเฟสทีฟกลางลมหนาว ที่ห้างหรูในยุโรปของกลุ่มเซ็นทรัล
๑๕:๑๘ บี.กริม เพาเวอร์ ครองตำแหน่งเรตติ้งสูงสุด SET ESG Rating ระดับ AAA และอยู่ในรายชื่อหุ้นยั่งยืน 7 ปีซ้อน ตอกย้ำความมุ่งมั่นสู่การพัฒนาอย่างยั่งยืน ควบคู่ความรับผิดชอบต่อสังคม สิ่งแวดล้อม
๑๔:๐๑ ธนาคารกรุงเทพ สำรองเงินสดช่วงเทศกาลปีใหม่ 40,000 ล้านบาท แนะลูกค้าทำธุรกรรมทางการเงินผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์
๑๔:๔๘ เที่ยวไทยสุขใจ ไทยพาณิชย์ โพรเทค มอบของขวัญปีใหม่ 2568 แจกฟรี! ประกันบ้านหรืออุบัติเหตุ 50,000 สิทธิ์
๑๕:๒๕ เจนเนอราลี่ ไทยแลนด์ ร่วมงานเลี้ยงการกุศล ส่งเสริมความเสมอภาคและโอกาสในสังคม
๑๕:๔๗ คณะผู้บริหารและพนักงาน ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล เยี่ยมชมโรงงาน 1NUO ที่ประเทศจีน
๑๔:๔๕ TFM เปิดแผนผลิตกุ้งยั่งยืน ดันไทยชิงโอกาสในตลาดโลก ชูนวัตกรรมอาหารสัตว์เศรษฐกิจ เพิ่มขีดความสามารถการแข่งขัน