NETBAY รุกขยายฐานลูกค้าที่มุ่งสู่ Digital Transformation รับแนวโน้มความต้องการใช้งาน Digital Business Technology Platform พุ่ง รุกเพิ่มสัดส่วนกลุ่ม e-Business Services และ e-Trade Finance Supply Chain ดันรายได้เติบโต

อังคาร ๒๘ มีนาคม ๒๐๑๗ ๑๔:๕๙
บมจ.เน็ตเบย์ บริษัทแห่งนวัตกรรมเทคโนโลยี (Innovative Technology Company) และผู้นำการพัฒนาผลิตภัณฑ์Digital Business Technology Platform ให้บริการด้าน e-Trade Finance Supply Chain และ e-Business Servicesครบวงจรที่ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจยุคดิจิทัล มั่นใจธุรกรรมผ่านระบบออนไลน์เติบโตต่อเนื่อง หลังรัฐบาลขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ Thailand 4.0 หนุนภาคธุรกิจปรับตัวรับยุคดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น หันทำธุรกรรมทางออนไลน์แทนการทำธุรกรรมแบบดั้งเดิม ช่วยหนุนธุรกิจของเน็ตเบย์เติบโต จากกลุ่ม e-Business Services ที่เกี่ยวกับการทำธุรกรรมกับสถาบันการเงิน และ e-Trade Finance Supply Chain ที่เกี่ยวกับการให้บริการทำธุรกรรมนำเข้าและส่งออก ที่คาดว่าจะเติบโตได้ดีจากการขยายฐานลูกค้าในภาคเอกชน พร้อมพัฒนาซอฟท์แวร์ใหม่ๆ เพื่อการขยายบริการใหม่ๆ ในอนาคต

นายพิชิต วิวัฒน์รุจิราพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็ตเบย์ จำกัด (มหาชน) หรือ NETBAYเปิดเผยว่า บริษัทฯ คาดการณ์ภาพรวมการทำธุรกรรมผ่านระบบออนไลน์ในไทยมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง จากการที่รัฐบาลมีนโยบายขับเคลื่อนประเทศไทยสู่ Thailand 4.0 โดยส่งเสริมให้ภาคธุรกิจและอุตสาหกรรมต่างๆนำนวัตกรรมเทคโนโลยีเข้ามาใช้ในการขับเคลื่อนองค์กร ซึ่งส่งผลให้ผู้ประกอบการในภาคธุรกิจต่างๆ ต้องปรับตัวเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงในยุคดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชั่น (Digital Transformation) เช่น การปรับเปลี่ยนวิธีการทำธุรกรรมมาสู่ระบบออนไลน์ ทดแทนการทำธุรกรรมด้วยกระบวนการแบบดั้งเดิม ซึ่งช่วยเพิ่มความรวดเร็วและขีดความสามารถในการแข่งขันที่ดีขึ้น

ทั้งนี้ จากปัจจัยดังกล่าว บริษัทฯ จึงวางแผนดำเนินงานในปี 2560 ที่ต้องการผลักดันรายได้จากการให้บริการ เติบโตจากปีก่อน โดยเฉพาะการขยายฐานลูกค้าให้บริการในกลุ่ม e-Business Services ที่เกี่ยวข้องกับการทำธุรกรรมกับสถาบันการเงินผ่านระบบที่บริษัทฯ พัฒนา และกลุ่ม e-Trade Finance Supply Chain (เดิมคือกลุ่ม e-Logistics Trading)ที่เกี่ยวข้องกับการให้บริการทำธุรกรรมการนำเข้าและส่งออกผ่านระบบที่บริษัทฯ พัฒนา ที่คาดว่าจะมีปริมาณการทำธุรกรรมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งจากฐานลูกค้าเดิมและการขยายฐานลูกค้าใหม่ในภาคเอกชน

นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างพัฒนาซอฟท์แวร์ที่เป็นนวัตกรรมทางเทคโนโลยี เพื่อขยายการให้บริการทำธุรกรรมในรูปแบบใหม่ๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าในอนาคต โดยปัจจุบันอยู่ระหว่างพัฒนาซอฟท์แวร์ที่จะขยายการให้บริการทำธุรกรรมทางออนไลน์ในรูปแบบใหม่ๆ เพิ่มขึ้น หลังจากในปีนี้ได้เริ่มทดลองให้บริการชำระภาษีรถยนต์ทางออนไลน์ให้แก่ผู้ประกอบการเช่าซื้อรถยนต์ (ลีสซิ่ง) ที่ต้องการทำธุรกรรมกับกรมการขนส่งทางบก

"เรามองว่าการพัฒนา Digital Business Technology Platform ถือเป็นหัวใจในการให้บริการ Software as a Service ในยุคนี้และยังสามารถเติบโตได้อย่างมีศักยภาพในอนาคต เนื่องจากเรามีรายได้ประจำที่ค่อนข้างมั่นคงจากปริมาณ Transaction ของฐานลูกค้าเก่าและผู้ประกอบการภาคเอกชนรายใหม่ๆ ที่เข้ามาใช้บริการทำธุรกรรมผ่านระบบของเราเพิ่มขึ้น เนื่องจากสะดวกและรวดเร็วกว่าการทำธุรกรรมด้วยเอกสาร ขณะเดียวกัน เราได้พัฒนารูปแบบการให้บริการธุรกรรมออนไลน์ใหม่ๆ เพื่อขยายฐานลูกค้าและสร้างการเติบโตที่ยั่งยืนในอนาคต" นายพิชิต กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๗:๒๑ 60 ปีแห่งความมุ่งมั่น! คาโอ คว้ารางวัลอุตสาหกรรมดีเด่น 2 ประเภทในปี 2567 ชูความสำเร็จด้านสิ่งแวดล้อมและความรับผิดชอบต่อสังคม
๑๗:๒๓ AVATR ก้าวสู่ความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่! ระดมทุนในรอบ Series C ได้มากกว่า 11,000 ล้านหยวน พร้อมก้าวสู่ความเป็นผู้นำในตลาดรถยนต์ไฟฟ้าหรูหราแห่งอนาคต
๑๗:๐๖ Zoom เปิด 10 เทรนด์ ใช้ AI ในการทำงานปี 2568
๑๗:๑๐ เปิดมุมมองอาชีพที่หลากหลายในอุตสาหกรรมกาแฟไทย เจาะลึกบทบาทและแนวทางยกระดับสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน
๑๗:๑๔ อนาคตแห่งการเดินทาง: 5 คนขับ AI จากแอปเรียกรถ Maxim
๑๗:๕๕ Well-Being House บ้านชั้นเดียวเอาใจคนวัยเกษียณ
๑๗:๑๖ กทม. แจงเปิดกว้างการแข่งขันโครงการเช่าคอมพิวเตอร์พกพาสำหรับนักเรียน
๑๖:๓๗ รายงาน Ericsson Mobility Report ฉบับล่าสุด เผยผู้เริ่มให้บริการ 5G กลุ่มแรกกำลังมุ่งสู่โมเดลธุรกิจที่เน้นประสิทธิภาพ
๑๗:๒๕ เมดีซ กรุ๊ป ร่วมสมทบทุนสนับสนุนมูลนิธิโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ช่วยผู้ป่วยในชนบท ถิ่นทุรกันดารที่ห่างไกล
๑๖:๔๔ CNN จับตา นวัตกรรมล่าสุดจากนักวิจัยไทย พลิกโฉมการตรวจคัดกรองความเครียดด้วย เหงื่อ