นางจันทร์ธิดา มีเดช รองเลขาธิการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ในฐานะคณะอนุกรรมการร่วมการค้าชายแดนไทย–เมียนมาร์ เปิดเผยว่า สศก. ได้เข้าร่วมการประชุมคณะอนุกรรมการร่วมการค้าชายแดนไทย–เมียนมาร์ ครั้งที่ 1/2560 ณ โรงแรมเซ็นทารา อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ระหว่างวันที่ 23–24 มีนาคม 2560 เพื่อส่งเสริมความร่วมมือการค้าชายแดนและการลงทุนบริเวณจังหวัดชายแดนของไทย–เมียนมาร์
สำหรับการประชุมคณะอนุกรรมการร่วมการค้าชายแดนไทย–เมียนมาในครั้งนี้ เป็นผลสืบเนื่องที่เกิดขึ้นจากการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee: JTC) ไทย–เมียนมาร์ ครั้งที่ 7 เมื่อวันที่ 8 กรกฎาคม 2559 ณ กรุงเนปิดอว์ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาร์ ที่ได้เห็นชอบร่วมกันให้จัดตั้งคณะอนุกรรมการร่วมดังกล่าว เพื่อร่วมมือในการผลักดันขยายการค้า การลงทุน และการพัฒนาความเจริญทางเศรษฐกิจของเมืองชายแดนของทั้ง 2 ประเทศ
ประเด็นสำคัญในการประชุมที่เกี่ยวข้องกับภาคเกษตร คือ การอำนวยความสะดวกการค้าชายแดนไทย–เมียนมาร์ ในการจัดตั้งระบบการตรวจสอบแบบเบ็ดเสร็จจุดเดียว (Single Stop Inspection: SSI) บริเวณชายแดนแม่สอด–เมียวดี และบริเวณด่านแม่สาย–ด่านท่าขี้เหล็ก การติดตามแก้ไขปัญหา อุปสรรคทางการค้า และการลงทุนบริเวณชายแดน ตลอดจนการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารที่เป็นประโยชน์ต่อการค้าชายแดนและการลงทุนระหว่างกัน
ทั้งนี้ ปี 2559 ไทยเป็นฝ่ายได้เปรียบดุลการค้าเมียนมาร์ (กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์) คิดเป็นมูลค่า 30,715 ล้านบาท มีมูลค่าการส่งออก 109,339 ล้านบาท และมีมูลค่าการนำเข้า 78,624 ล้านบาท โดยมีสินค้าส่งออกที่สำคัญ ได้แก่ เครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ น้ำตาลทราย เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ผ้าผืนและด้าย และเครื่องโทรสาร โทรพิมพ์ โทรศัพท์และอุปกรณ์ ส่วนสินค้านำเข้าที่สำคัญ ได้แก่ ก๊าซธรรมชาติ สัตว์น้ำ สัตว์มีชีวิต เช่น โค กระบือ แพะ แกะ ผลิตภัณฑ์อื่นๆจากสัตว์ และพืชน้ำมันและผลิตภัณฑ์ โดยจังหวัดของไทยที่มีมูลค่าการค้าชายแดนกับเมียนมาร์มากที่สุด คือ จังหวัดตาก รองลงมา คือ กาญจนบุรี ระนอง เชียงราย แม่ฮ่องสอน ประจวบคีรีขันธ์ และเชียงใหม่ ตามลำดับ