นายวิทวัส กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ บลจ.กสิกรไทย ยังเตรียมจ่ายเงินปันผลกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานโรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ (ABPIF) ในอัตรา 0.6194 บาทต่อหน่วย สำหรับผลการดำเนินงานตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม 2559 - 31 ธันวาคม 2559 โดยจะจ่ายเงินปันผลให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนที่มีรายชื่ออยู่ในสมุดทะเบียนพักการโอนหน่วยลงทุนในวันที่ 22 มีนาคม 2560 พร้อมกันนี้กองทุนได้มีการลดทุนจดทะเบียนครั้งที่ 7 และจะจ่ายเงินลดทุนให้แก่ผู้ถือหน่วยลงทุนในอัตรา 0.4058 บาทต่อหน่วย โดยมีกำหนดจ่ายเงินปันผลและเงินลดทุนพร้อมกันในวันที่ 31 มีนาคม 2560
สำหรับผลการดำเนินงานของกองทุน WHAPF ที่ผ่านมาถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่ดีอย่างต่อเนื่อง และมีการจ่ายปันผลให้กับผู้ถือหน่วยลงทุนอย่างสม่ำเสมอนับตั้งแต่จัดตั้งกองทุนในปี 2553 เป็นต้นมา ซึ่งหากนับรวมการจ่ายเงินปันผลในครั้งนี้ด้วย กองทุน WHAPF มีการจ่ายเงินปันผลแล้ว 24 ครั้ง เป็นอัตรารวมทั้งสิ้น 4.2521 บาทต่อหน่วย โดยสามารถคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) เฉลี่ยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ประมาณ 7% ต่อปี อย่างไรก็ตามสำหรับผลการดำเนินงานในรอบบัญชีที่ผ่านมา (1 พ.ย. 2559 - 31 ม.ค. 2560) กองทุนยังคงมีรายได้อย่างสม่ำเสมอจากค่าเช่าของอาคารคลังสินค้าและอาคารโรงงานต่างๆ ซึ่งในปัจจุบันกองทุน WHAPF ถือครองทรัพย์สินในโครงการรวมแล้วทั้งสิ้นจำนวน 17 โครงการ
ด้านกองทุน GOLDPF มีนโยบายลงทุนในสิทธิการเช่าที่ดินและอาคารเซอร์วิส อพาร์ทเมนท์ขนาด 162 ห้องของโครงการเดอะ เมย์แฟร์แมริออท เอ็กเซคคิวทีฟ อพาร์ทเม้นท์ ซอยหลังสวน ถนนเพลินจิต ซึ่งในปีที่ผ่านมามีอัตราการเข้าพักเฉลี่ยประมาณ 85% ทั้งนี้ ตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมา มีการจ่ายปันผลแล้วรวม 18 ครั้ง รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 4.8185 บาทต่อหน่วย คิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) เฉลี่ยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ประมาณ 5.07% ต่อปี
ส่วนกองทุน ABPIF มีนโยบายลงทุนในสัญญาโอนผลประโยชน์จากการประกอบกิจการไฟฟ้าของโรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ 1 และ 2 ซึ่งตั้งอยู่ในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร จ.ชลบุรี ที่มีรายได้หลักมาจากการทำสัญญาระยะยาวในการจำหน่ายกระแสไฟฟ้าให้กับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) และโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมอมตะนคร โดยผลการดำเนินงานในช่วงปี 2559 โรงไฟฟ้าอมตะ บี.กริม เพาเวอร์ สามารถสร้างผลการดำเนินงานได้อย่างเป็นที่น่าพอใจ โดยกองทุน ABPIF มีกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้วรวมเป็นมูลค่า 545.65 ล้านบาท ทั้งนี้ ตั้งแต่จัดตั้งกองทุนมามีการจ่ายปันผลแล้วรวม 7 ครั้ง รวมเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 2.6511 บาทต่อหน่วย หรือคิดเป็นอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผล (Dividend Yield) เฉลี่ยตั้งแต่จัดตั้งกองทุนอยู่ที่ประมาณ 8.02% ต่อปี
กองทุนรวมอสังหาริมทรัพย์และกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานทั้ง 3 กองทุนดังกล่าว จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ดังนั้นสำหรับผู้ลงทุนที่สนใจลงทุนในกองทุน WHAPF กองทุน GOLDPF และกองทุน ABPIF สามารถซื้อขายผ่านตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยหรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ KAsset Contact Center 02673 3888 หรือที่www.kasikornasset.com