ดีดีพร็อพเพอร์ตี้เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทยปี 60 ต่อภาคอสังหาฯ ลดลง สวนกระแสตลาดเพื่อนบ้าน

พฤหัส ๓๐ มีนาคม ๒๐๑๗ ๑๔:๕๘
เว็บไซต์ซื้อ-ขายอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำของไทย ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ (DDproperty.com) ภายใต้การบริหารงานของ พร็อพเพอร์ตี้กูรู กรุ๊ป เว็บไซต์สื่อกลางด้านการค้นหาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย เผยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคไทยปี 60 ต่อภาคอสังหาริมทรัพย์ ลดลงเหลือเพียง 62% ในรอบผลสำรวจนี้ จาก 68% ในปี 59 เนื่องจากเศรษฐกิจที่ชะลอตัว และมาตรฐาน การปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดของธนาคาร ขณะที่ความเชื่อมั่นผู้บริโภคตลาดอินโดนีเซีย สิงคโปร์ และมาเลเซีย เพิ่มขึ้น 5%, 8% และ 10% ตามลำดับ

พร็อพเพอร์ตี้กูรู เว็บไซต์สื่อกลางด้านการค้นหาอสังหาริมทรัพย์ชั้นนำในภูมิภาคเอเชียได้ทำแบบสำรวจออนไลน์ ในกลุ่มผู้ซื้อบ้านหลังแรกและผู้ซื้ออสังหาฯใน 4 ประเทศได้แก่ ไทย สิงคโปร์ มาเลเซีย และอินโดนีเซีย รวมทั้งสิ้น 3,255 คน พบว่า ผู้บริโภคชาวอินโดนีเซียมีความพึงพอใจต่อสภาวะอสังหาฯในประเทศตนมากที่สุด โดยดัชนีความ เชื่อมั่นขยับขึ้น 5% เป็น 66% จากปีก่อน ซึ่งพวกเขามองว่าราคาสินทรัพย์ในกลุ่มอสังหาฯ จะขยับสูงขึ้นใน อนาคต ด้านผู้บริโภคชาวมาเลเซียก็ขยับขึ้นเช่นกันจาก 28% ในปีก่อน เป็น 38% ในปีนี้ ขณะที่ ชาวสิงคโปร์ซึ่งมองว่า เศรษฐกิจของประเทศตนอยู่ในสภาพที่ดีเยี่ยม มีดัชนีความเชื่อมั่นในกลุ่มอสังหาฯ ขยับขึ้นจาก 28%ในปีที่แล้วเป็น 36% ในปีนี้

ในขณะที่ไทยเป็นประเทศเดียวในรอบสำรวจนี้ ที่ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคต่อภาคอสังหาฯ ลดลง ซึ่งเป็นผล มาจาก 5 ปัจจัยหลัก คือ สภาพเศรษฐกิจที่ไม่ดี (55%) อสังหาริมทรัพย์มีราคาสูงจนเกินไป (52%) ราคาอสังหาฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเกินไป (46%) มาตรฐานการปล่อยสินเชื่อที่เข้มงวดของธนาคาร (30%) และสภาวะที่ ไม่แน่นอนในตลาดอสังหาฯ (25%)

อย่างไรก็ตาม ผู้ตอบแบบสำรวจไทยเกือบ 50% ระบุเตรียมวางแผนซื้ออสังหาริมทรัพย์ ภายในอีก 6 เดือน ขณะที่ผู้ซื้อชาวมาเลเซียมีแผนซื้ออสังหาฯ อยู่ที่ 58% ตามด้วยอินโดนีเซียที่ 52% โดยชาวสิงคโปร์เป็นกลุ่มที่มีความต้องการซื้อ อสังหาฯ น้อยที่สุดเพียง 42% เท่านั้น เนื่องจากชาวสิงคโปร์ส่วนใหญ่มองว่าราคาอสังหาฯ จะปรับตัว ลดลงภายในอีก 6 เดือนข้างหน้า ผู้ประกอบการจะมีการตัดราคา เพื่อหลีกเลี่ยงการจ่ายค่าต่ออายุ และค่าปรับ จากห้องที่ขายไม่หมด ด้วยเหตุนี้เอง ผู้ซื้ออสังหาฯในสิงคโปร์ จะสามารถซื้ออสังหาฯ ได้ในราคาที่ต่ำลง

ด้านการถือครองอสังหาริมทรัพย์ ชาวสิงค์โปร์เป็นกลุ่มที่มีการถือครองน้อยที่สุดในบรรดาทั้ง 4 ประเทศที่ 60% ตาม มาด้วย อินโดนีเซีย 82% มาเลเซีย 66% และไทย 65%

สำหรับปัจจัยในการตัดสินใจซื้ออสังหาฯ ของผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทย อินโดนีเซีย และมาเลเซีย ให้ความสำคัญ กับทำเลที่ตั้งเป็นอันดับแรก ส่วนชาวสิงคโปร์คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด

หากมองถึงชนิดของอสังหาฯที่ได้รับความนิยมสูงสุดภายในอีก 6 เดือนข้างหน้า ผู้ตอบแบบสอบถามทั้ง 4 ประเทศให้ ความสนใจทั้งสินทรัพย์ใหม่และสินทรัพย์มือสองมากที่สุด แต่สำหรับในประเทศสิงคโปร์ บ้าน มือสองได้รับความนิยมมากกว่าเนื่องจากราคาไม่สูงเกินไป สามารถจับจองเป็นเจ้าของได้ง่ายกว่า

นอกจากนี้ ผลสำรวจยังแสดงถึงเงินทุนที่แตกต่างกันในกลุ่มผู้ที่ต้องการซื้ออสังหาฯในอีก 6 เดือนข้างหน้า ชาวไทย 34% ต้องการซื้อบ้านราคาประมาณ 2-3 ล้านบาท, 16% ที่ราคา 3-4 ล้านบาท และ15% ที่ราคา 5-8 ล้านบาท ชาว สิงคโปร์ 25%ต้องการซื้ออสังหาฯที่ราคาประมาณ 250,000-500,000 เหรียญสิงคโปร์ (6.25-12.5 ล้านบาท) และ ชาวมาเลเซีย 38% ที่ราคา 300,000-500,000 ริงกิตมาเลซีย (2-3.5 ล้านบาท) ชาวอินโดนีเซียส่วนใหญ่กว่า 50% ต้องการซื้อบ้านที่ราคา 500 ล้าน รูเปียอินโดนีเซีย หรือต่ำกว่า 1 ล้านบาท

ด้านระยะเวลาพักอาศัยโดยเฉลี่ย ผู้ตอบแบบสอบถามชาวไทยมีแนวโน้มที่จะอยู่ในบ้านที่ตนซื้อเป็นเวลาประมาณ 12 ปี ชาวสิงคโปร์และอินโดนีเซียที่ 11 ปี และมาเลเซียที่ 9 ปีเท่านั้น

"ความเชื่อมั่นผู้บริโภคต่อภาคอสังหาฯ จำเป็นต้องมีปัจจัยหนุนหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็นสภาพเศรษฐกิจ ที่เติบโตขึ้น การลงทุนและการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐบาล รายได้ประชากรที่เพิ่มสูงขึ้น ดอกเบี้ยเงินกู้ที่ต่ำ และหนี้ครัวเรือนที่ลดลง ผู้บริโภคส่วนใหญ่จึงมองว่าราคาอสังหาฯในระยะ 3-5 ปี ข้างหน้า จะมีการปรับตัวสูงขึ้น ถึงแม้ว่าปีที่ผ่านมา สภาพตลาดอาจไม่เอื้ออำนวยต่อภาคธุรกิจอสังหาฯ ปัจจุบัน อสังหาฯ ไม่เพียงเป็นความต้องการพื้นฐาน ในปัจจัยสี่อีกต่อไป แต่เป็นอีกหนึ่งวิธีการลงทุนเพื่อ สร้างความมั่งคั่งในอนาคตของตนต่อไป" นางสาวกมลภัทร แสวงกิจ ผู้จัดการประจำประเทศไทย ดีดีพร็อพเพอร์ตี้ กล่าว

ข่าวประชาสัมพันธ์ล่าสุด

๑๖:๔๑ ดิ เอราวัณ กรุ๊ป เปิดตัว HOP NextGen ชวนนักศึกษาเยี่ยมชม ฮ็อป อินน์ เรียนรู้เทคนิคบริการแบบ Consistency is Yours พร้อมพัฒนาบุคลากรรุ่นใหม่
๑๖:๓๙ คิง เพาเวอร์ ต้อนรับเทศกาลแห่งความสุขส่งท้ายปี เปิดแคมเปญ THE POWER OF FUNTASTIC CELEBRATION 2025 ฉลองทุกความสุข สนุกไม่รู้จบ
๑๖:๐๘ พันธุ์ไทย ชวนแฟนด้อม คัลแลนและพี่จอง จุ่ม การ์ดพันธุ์ไทยใจฟู ลิมิเต็ด อิดิชั่น
๑๖:๐๑ BAM ทรานส์ฟอร์มองค์กรสู่ DIGITAL ENTERPRISE ตอกย้ำผู้นำ AMC ยุค 4.0 วางเป้าหมายยกระดับองค์กรสร้างโอกาสเติบโตอย่างยั่งยืน เตรียมส่ง อิสระ เดอะซีรีส์ ชวนลูกหนี้ BAM
๑๖:๒๘ บางจากฯ ได้รับการประเมินด้านความยั่งยืนอันดับสูงสุดของโลก จาก SP Global 2024 ในกลุ่มอุตสาหกรรม Oil Gas Refinery and
๑๔ พ.ย. ซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล ออกบูธให้ความรู้เรื่องการใช้งานระบบดับเพลิงนร. พระหฤทัยนนทบุรี
๑๒ พ.ย. พนักงานซีเอเค อินเตอร์เนชั่นแนล รับรางวัลเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงานดีเด่น
๑๖:๐๖ PROSPECT REIT ชูไตรมาส 3/67 โตเกินเป้า อัตราการเช่าพุ่งนิวไฮ หนุนจ่ายปันผลเด่น 0.2160 บาท
๑๖:๔๖ CHAO ประกาศงบ Q3/67 กำไรพุ่งกว่า 62% รับตลาดส่งออกพีค จีนโตเด่น แย้ม Q4 เดินหน้าบุกตลาดในประเทศ สินค้าใหม่หนุนยอดขายปลายปี
๑๖:๒๕ ฉลองเทศกาลลอยกระทงประจำปี 2567 ณ โรงแรมแมนดาริน โอเรียนเต็ล กรุงเทพฯ