"ด้วยทำเลที่ตั้งของโครงการบริเวณหัวมุมถนนอโศก-เพชรบุรี ซึ่งปัจจุบันเป็นศูนย์กลางธุรกิจและไลฟ์สไตล์ รวมถึงเป็นศูนย์กลางของการคมนาคม ที่มีศักยภาพสูงออยู่แล้ว และยังมีโอกาสที่จะเติบโตขึ้นได้อีกในอนาคต บวกกับความเชื่อมั่นในโครงการ สิงห์ คอมเพล็กซ์ ซึ่งเป็นแฟล็กชิป มิกซ์ ยูส ของสิงห์ เอสเตท รวมถึงรูปแบบของโครงการดิ เอส แอท สิงห์ คอมเพล็กซ์ ที่ตอบโจทย์ทั้งกลุ่มลูกค้าที่ต้องการใช้ชีวิตอย่างเหนือระดับ และกลุ่มลูกค้าที่ต้องการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีคุณภาพ จึงทำให้วันนี้เรามียอดจองคอนโดมิเนียม ดิ เอส แอท สิงห์ คอมเพล็กซ์ เข้ามาเกินเป้าที่ตั้งไว้เบื้องต้น โดยภายในเวลา 3 สัปดาห์หลังเปิดจองอย่างเป็นทางการ โครงการฯมียอดจองไปแล้วกว่า 70% รวมมูลค่ากว่า 3,000 ล้านบาท
โดยหากดูจากสัดส่วนลูกค้าระหว่างชาวไทย และชาวต่างชาติแล้ว พบว่าสัดส่วนลูกค้าที่เป็นชาวต่างชาติสูงถึง 35% ของยอดจองทั้งหมด เนื่องจากทำเลอโศกเป็นทำเลที่ชาวต่างชาติให้ความนิยมอยู่แล้ว และเทรนด์การอยู่อาศัยในโครงการมิกซ์ ยูส เป็นเทรนด์ที่ลูกค้ากำลังให้ความสนใจ
นอกจากนั้นห้อง Penthouse ราคา 62 ล้านบาทขึ้นไป จำนวน 4 ยูนิต ได้ถูกจองไปหมดแล้ว จากข้อมูลนี้จึงยืนยันได้ว่า ตลาดคอนโดมิเนียมระดับ Luxury นั้นยังได้รับความสนใจอยู่มาก และมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ภาพรวมของโครงการนี้ในปี 2560 เราตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 85% และคาดว่าจะเป็นไปตามเป้า ในส่วนของการก่อสร้างนั้น ปัจจุบันโครงการผ่านการอนุมัติการจัดทำรายการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม หรือ EIA เป็นที่เรียบร้อยแล้ว คาดว่าจะสามารถก่อสร้างได้ตามกำหนด คือ ภายในไตรมาส 1 ปี 2560" นายณัฐวุฒิ กล่าวทิ้งท้าย