นางสาวอรนุช ไวนุสิทธิ์ ที่ปรึกษาด้านพัฒนาระบบการเงินการคลัง ในฐานะโฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าวว่า กรมบัญชีกลางได้พัฒนาการจัดซื้อผ่านบัตรพัสดุ เพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับหน่วยงานต่างๆ ทั้งขั้นตอนการจัดซื้อจัดจ้าง การเบิกจ่าย และทำให้มีข้อมูลที่สามารถนำมาใช้ในการวิเคราะห์ต่อยอดต่อไป
บัตรพัสดุที่ส่วนราชการจะนำไปใช้ชำระเงินให้ผู้ประกอบการ จะมีวงเงินการใช้จ่ายไม่เกิน 10,000 บาทต่อครั้ง ซึ่งจะใช้ลักษณะเดียวกับบัตรเครดิต และไม่มีค่าใช้จ่ายในการเปิดบัตรดังกล่าว ในส่วนของการชำระเงิน ส่วนราชการสามารถนำบัตรพัสดุ ไปใช้กับผู้ประกอบการที่รับชำระผ่านเครื่องสำหรับบัตรเครดิต (Electronic Data Capture : EDC) ที่สามารถออกใบเสร็จรับเงินได้ ทั้งนี้ บัตรพัสดุจะช่วยเพิ่มความสะดวกในขั้นตอนการจัดซื้อและการเบิกจ่ายเงิน
หน่วยงานเกิดความคล่องตัว สามารถจัดซื้อสินค้าได้รวดเร็วมากกว่าวิธีเดิม และยังช่วยลดช่องทางการทุจริตจากการใช้เงินสดในการจัดซื้อ
โฆษกกรมบัญชีกลาง กล่าวต่อว่า กรมบัญชีกลางจะนำร่องเริ่มใช้งานบัตรพัสดุกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงการคลัง จำนวน 9 หน่วยงาน ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2560 เป็นต้นไป พร้อมทั้งได้เตรียมขยายการใช้บัตรพัสดุให้ครอบคลุมหน่วยงานทั่วประเทศต่อไป
นางสาวอรนุช ไวนุสิทธิ์ กล่าวในตอนท้ายว่า เพื่อให้เกิดความสอดคล้องกับนโยบายรัฐบาล กรมบัญชีกลางจึงพร้อมผลักดันการใช้จ่ายผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ทดแทนการใช้เงินสดตามยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ระบบการชำระเงินของประเทศ (National e-Payment) ให้มีประสิทธิภาพและครบวงจร เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการทำงานลดภาระการใช้จ่ายเงิน ลดช่องทางการทุจริตคอรัปชั่น รวมทั้งทำให้มีข้อมูลในระบบอิเล็กทรอนิกส์ครบถ้วนมากยิ่งขึ้น