นายพงศธร อังศุสิงห์ ผู้อำนวยการฝ่ายบรรษัทสัมพันธ์ ฟิลลิป มอร์ริส (ไทยแลนด์) ลิมิเต็ดเปิดเผยหลังจากพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิตฉบับได้ประกาศลงราชกิจจานุเบกษาเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 20 มีนาคมที่ผ่านมาว่า การปรับเปลี่ยนโครงสร้างการจัดเก็บภาษีสรรพสามิตในครั้งนี้จะช่วยสร้างความยั่งยืนด้านการจัดเก็บรายได้ให้กับกรมสรรพสามิตในระยะยาวโดยไม่จำเป็นต้องเพิ่มภาษีในช่วงนี้ "ระบบภาษีแบบใหม่ที่จะจัดเก็บแบบระบบผสม คือ เก็บทั้งด้านมูลค่าและด้านปริมาณซึ่งจะช่วยป้องกันปัญหาการสำแดงราคาต่ำกว่าความเป็นจริงอันจะทำให้รัฐได้รายได้มากขึ้นและยังสอดคล้องกับเป้าหมายในการควบคุมการบริโภคยาสูบอีกด้วย"
ก่อนหน้านี้เอกสารของธนาคารโลก (World Bank) ในเรื่องหลัก 10 ประการของนโยบายยาสูบที่มีประสิทธิภาพได้ระบุว่าโครงสร้างภาษียาสูบที่เรียบง่ายจะมีประสิทธิภาพมากกว่าระบบที่ยุ่งยากซับซ้อน ขณะที่การเก็บภาษีแบบมูลค่านั้นก็มีความยุ่งยากในทางปฏิบัติและลดทอนประสิทธิภาพของนโยบายภาษีเพราะทำให้ผู้ประกอบการสามารถหลีกเลี่ยงภาษีที่สูงโดยผลิตและขายสินค้าที่มีราคาถูกลง
นายพงศธรกล่าวเสริมว่ามั่นใจว่าระบบภาษีสรรพสามิตใหม่จะช่วยเสริมจุดแข็งทำให้ไทยมีสภาพแวดล้อมทางภาษีที่เป็นสากลมากขึ้น "สำหรับเรื่องอัตราการจัดเก็บจริงนั้นคงจะต้องรอดูความชัดเจนในกฎหมายลูกอีกครั้ง แต่กรมสรรพสามิตก็ยืนยันมาตลอดว่าจะเน้นรักษารายได้เท่าเดิม ไม่เพิ่มภาระผู้บริโภค ซึ่งจะช่วยให้การปฏิรูปภาษีเป็นไปอย่างราบรื่นได้"