"การระดมเงินได้ถึง 7 ล้านบาทนับเป็นความสำเร็จที่น่าภาคภูมิใจอย่างหนึ่งเลยทีเดียว" มร. ดีน ทอมป์สัน ผู้อำนวยการระดับภูมิภาคเอเชีย อินเตอร์เนชั่นแนล รีเทล วอลกรีนส์ บู๊ทส์ อลิอันซ์ กล่าว "เราคงระดมทุนได้ไม่มากเท่านี้ หากไม่ได้รับความเอื้ออารีจากพนักงานและลูกค้าทุกท่านของเรา ที่เข้าอกเข้าใจและให้การสนับสนุนพันธกิจของบ้านแกร์ด้า"
"ความรับผิดชอบต่อสังคมนับเป็นดีเอ็นเอที่สำคัญของบู๊ทส์และวอลกรีนส์ บู๊ทส์ อลิอันซ์ ความร่วมมือกันนี้จึงนับเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของการทำงานที่เราดำเนินการอยู่ในระดับสากล ที่ให้ความสำคัญในด้านสุขภาพและพลานามัยของผู้คนในชุมชนต่างๆ" มร. เอียน บลายท์ ผู้อำนวยการสายงาน CSR กลุ่มธุรกิจค้าส่งและค้าปลีกระหว่างประเทศ วอลกรีนส์ บู๊ทส์ อลิอันซ์ กล่าว "เรามีภาระในการรับผิดชอบในเรื่องที่เราสามารถหยิบยื่นโอกาสและชีวิตที่ดีขึ้นให้กับสมาชิกทั้งหลายที่อาศัยอยู่ในชุมชนที่ด้อยโอกาส เราจึงใช้ประโยชน์จากการเป็นองค์กรขนาดใหญ่ และจุดแข็งของการดำเนินธุรกิจด้านสุขภาพและความงามตามแนวทางเภสัชศาสตร์ ในการจัดการกับเรื่องต่างๆ ที่สามารถทำให้เราสร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้เกิดขึ้นในสังคมได้"
ความร่วมมือระหว่างบ้านแกร์ด้าและบู๊ทส์ ประเทศไทยเริ่มมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2553 และในเดือนมิถุนายน 2556 บู๊ทส์ ประเทศไทย เป็นตัวแทนของลูกค้าและพนักงานของบริษัท ร่วมบริจาคเงินจำนวน 5 ล้านบาท เพื่อช่วยเหลือเด็กและเยาวชนที่ได้รับผลกระทบต่อโรคร้ายนี้
นางสาวขวัญใจ สารสว่าง รองประธาน และเลขานุการมูลนิธิสิทธิเด็ก กล่าวว่า "รู้สึกดีใจ และขอขอบคุณเป็นอย่างยิ่งที่บริษัท บู๊ทส์ ประเทศไทยได้หยิบยื่น และมอบโอกาสที่ดีให้แก่เด็กๆ ที่บ้านแกร์ด้าแห่งนี้ ไม่ว่าจะเป็นจำนวนเงิน สิ่งของเครื่องใช้ต่างๆ และคอมพิวเตอร์ ที่ทำให้เด็กที่นี่ได้มีโอกาสเรียนรู้ และใช้ชีวิตเหมือนอย่างเด็กทั่วไป บ้านแกร์ด้าได้รับความช่วยเหลือจากสังคมไม่บ่อยนัก เพราะเรามีที่ตั้งอยู่ค่อนข้างไกลจากรุงเทพฯ ทำให้ต้องเดินทางหลายชั่วโมง ดังนั้นการที่บู๊ทส์มาร่วมทำกิจกรรมที่นี่ ไม่ว่าจะเป็น ร้องเพลง เล่นเกม ทำกิจกรรมเพนท์เสื้อและกระเป๋า รวมถึงการให้ความรู้โดยเภสัชกรที่จะเป็นประโยชน์ต่อเด็กๆ ในการดูแลและช่วยเหลือตัวเองเบื้องต้นอย่างถูกวิธี สิ่งเหล่านี้ล้วนมีความหมายต่อเด็กๆ ที่นี่ทุกคน เพราะทำให้พวกเขาไม่รู้สึกแปลกแยกหรือถูกทอดทิ้งจากสังคม"
เด็กชายบอย (นามสมมติ) อายุ 14 ปี เล่าว่า "รู้สึกดีใจมากๆ ที่พี่ๆ จากบู๊ทส์ เข้ามาจัดกิจกรรมต่างๆ ที่บ้านแกร์ด้าแห่งนี้ ทั้งร้องเพลงและเล่นเกม ทำให้พวกเราทุกคนสนุกสนานเพลิดเพลิน อยากให้พวกพี่ๆ มากันบ่อยๆ ส่วนกิจกรรมเพนท์เสื้อ เลือกเพนท์ภาพในหลวงรัชกาลที่ 9 เพราะอยากรำลึกถึงความดีของพระองค์ที่ทรงทำงานอย่างหนักเพื่อให้ประชาชนอย่างพวกเราได้อยู่กันอย่างมีความสุข แม้ว่าไม่เคยได้เจอท่าน แต่ก็รู้สึกรักและคิดถึงท่าน จึงอยากเพนท์เสื้อเป็นรูปของท่านเพื่อเป็นที่ระลึก และเตือนใจให้เป็นแบบอย่างในการทำความดี"
ส่วนนางสาวบี (นามสมมติ) อายุ 19 ปี เล่าว่า "รู้สึกดีใจ และตื่นเต้นมากๆ ที่พี่ๆ มาจัดกิจกรรมที่นี่ ปกติจะชอบปลูกดอกไม้หน้าบ้านพักของตัวเองเมื่อมีเวลาว่าง ในช่วงเพนท์เสื้อ จึงเลือกเพนท์เป็นรูปดอกไม้และลงด้วยสีชมพูสีโปรด เพราะเวลามองแล้ว รู้สึกสดชื่น ทำให้มีความสุข ส่วนเสื้อตัวนี้จะเก็บไว้เป็นที่ระลึกว่าครั้งหนึ่งเคยได้มีโอกาสร่วมทำกิจกรรมดีๆ ร่วมกับพี่ๆ จากบู๊ทส์"
นอกจากที่ มร. ดีน ธอมสัน มร. เอียน ไบล์ธ และผู้บริหารและพนักงานทั้งหลายของบู๊ทส์ ประเทศไทย จะได้เข้าไปมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่างๆ ณ ชุมชนของบ้านแกร์ด้าในจังหวัดลพบุรี อาทิ ติดตั้งคอมพิวเตอร์จำนวน 10 เครื่อง เพื่อให้น้องได้มีโอกาสสืบค้นข้อมูลที่เป็นประโยชน์ ทาสีโต๊ะ เก้าอี้ ตัดผม ร้องเพลงอวยพรวันเกิด รวมทั้งแบ่งปันและถ่ายทอดเคล็ดลับดีๆ การดูแลสุขภาพจากทีมเภสัชกรของบู๊ทส์แล้ว เด็กๆ จากบ้านแกร์ด้ายังได้วาดภาพตัวเอง กับผู้บริหารจากบู๊ทส์ เพื่อมอบเป็นของที่ระลึกสุดพิเศษจากใจเพื่อเป็นการตอบแทน งานนี้เรียกว่าอิ่มใจทั้งผู้ให้และผู้รับ
บรรยายภาพ: มร.ดีน ทอมป์สัน (กลาง) ผู้อำนวยการระดับภูมิภาคเอเชีย อินเตอร์เนชั่นแนล รีเทล วอลกรีนส์ บู๊ทส์ อลิอันซ์ พร้อมบุคลากรจากบู๊ทส์ มอบเงินบริจาคจากลูกค้าบู๊ทส์ตลอดระยะเวลา 3 ปี จำนวน 7 ล้านบาท แก่มูลนิธิสิทธิเด็ก บ้านแกร์ด้า ซึ่งดูแลเด็กกำพร้าที่ติดเชื้อเอดส์ โดยมี คุณขวัญใจ สารสว่าง (ที่ 3 จากซ้าย) รองประธานมูลนิธิสิทธิเด็ก บ้านแกร์ด้า ให้เกียรติรับมอบ