พลเอก ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิดงานมหกรรมส่งเสริมจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบกิจการและรัฐวิสาหกิจ ว่า กระทรวงแรงงานมีภารกิจสำคัญในการขับเคลื่อนเป้าหมายการพัฒนาประเทศ โดยมุ่งส่งเสริมศักยภาพทรัพยากรแรงงานให้เป็น "Productive Manpower" คือ ทรัพยากรมนุษย์ที่มีคุณค่า มีผลิตภาพสูง ควบคู่กับการดูแลคุณภาพชีวิตผู้ใช้แรงงาน เพื่อเป็นรากฐานของการพัฒนาประเทศทุกด้านในอนาคต การน้อมนำศาสตร์พระราชาของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร มหาภูมิพลอดุลยเดชที่ทรงพระราชทานด้านสหกรณ์และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาเป็นหลักในการส่งเสริมการจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบกิจการ นับเป็นภารกิจที่มีคุณค่า เพราะไม่เพียงจะช่วยสร้างวินัยการออม การเสริมสร้างภูมิคุ้มกันและความไม่ประมาทต่อการดำรงชีวิตในอนาคตให้ผู้แก่ใช้แรงงานแล้ว ยังก่อให้เกิดประโยชน์มากมายที่เป็นผลลัพธ์ตามมา อาทิ เกิดความร่วมมือร่วมใจระหว่างนายจ้างและลูกจ้างในการจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ขึ้นในสถานประกอบกิจการ อันจะนำมาซึ่งประสิทธิภาพการทำงานตอบแทนสู่สถานประกอบกิจการและศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ
นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กระทรวงแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานมหกรรมส่งเสริมการจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบกิจการและรัฐวิสาหกิจ มีวัตถุประสงค์ส่งเสริมให้สถานประกอบกิจการและรัฐวิสาหกิจ เห็นความสำคัญของการจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์เพื่อเป็นสวัสดิการ แก่คนทำงานในองค์กร ตลอดจนเพื่อสร้างความร่วมมือภาครัฐ เอกชน และรัฐวิสาหกิจในการขับเคลื่อนให้มีการจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ให้เป็นผลสำเร็จ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการสร้างวินัยในการใช้จ่ายและเสริมภูมิคุ้มกันด้วยการออม และกรณีที่ลูกจ้างมีความขัดสนเรื่องค่าใช้จ่ายก็สามารถจะกู้ยืมเงินผ่านสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ โดยไม่ต้องมีหลักทรัพย์ค้ำประกันและเสียดอกเบี้ยในอัตราถูกซึ่งจะเป็นหนทางในการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกู้ยืมเงินจากแหล่งเงินกู้นอกระบบ ปัจจุบันมีสถานประกอบกิจการที่จัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์แล้ว ๕๔๐ แห่ง และในปี พ.ศ. ๒๕๖๐ ตั้งเป้าหมายจะส่งเสริมให้มีการจัดตั้งอีก ๓๐ แห่ง ทั้งนี้ กสร. มีกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงานซึ่งขณะนี้มีวงเงิน ๓๙๐ ล้านบาท ให้บริการแก่สหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบกิจการกู้ยืมเพื่อเป็นทุนหมุนเวียนในอัตราดอกเบี้ยต่ำ ซึ่งได้ให้บริการเงินกู้แก่สหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบกิจการ รวม ๒๕๑ สัญญา เป็นเงินกว่า ๑,๙๐๐ ล้านบาท สามารถบรรเทาความเดือดร้อนให้แก่ลูกจ้างที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ฯกว่า ๒ แสนคน สถานประกอบกิจการใดสนใจจัดตั้งสหกรณ์ออมทรัพย์ฯ ติดต่อได้ที่กองสวัสดิการแรงงาน กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน โทรศัพท์ ๐ ๒๒๔๕ ๐๐๘๐ หรือที่สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครเขตพื้นที่ ๑ ถึง ๑๐ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทั่วประเทศ