นายมนตรี ศรไพศาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ.หลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน เปิดเผยว่า หลังจากที่ร่วมกับ บริษัท มัดแมน จำกัด (มหาชน) หรือ MM กำหนดช่วงราคาเสนอขายหุ้น IPO ของ MM ในเบื้องต้นที่ 5.00 – 5.50 บาทต่อหุ้น ซึ่งได้รับความสนใจจากนักลงทุนสถาบันในประเทศและต่างประเทศเป็นอย่างมาก โดยที่ราคาสูงสุด มีความต้องการซื้อจากนักลงทุนสถาบันกว่า 4 เท่าของจำนวนหุ้นที่จัดสรร ล่าสุด เพื่อให้นักลงทุนได้รับผลตอบแทนจากการลงทุนที่สูงขึ้น บริษัทจึงพิจารณากำหนดราคาเสนอขายสุดท้ายที่หุ้นละ5.25 บาท โดยขั้นตอนต่อไปจะร่วมกับผู้ร่วมจัดจำหน่ายอีก 6 ราย เปิดให้ประชาชนทั่วไปจองซื้อหุ้นในวันที่ 3-5 เมษายนนี้ และคาดว่าจะเข้าทำการซื้อขายหลักทรัพย์ในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ได้ในช่วงก่อนเทศกาลสงกรานต์
การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ ครั้งนี้ MM เสนอขายหุ้น IPO จำนวน 210,980,750 หุ้น คิดเป็นร้อยละ 20 ของจำนวนหุ้นที่ออกและเรียกชำระแล้วทั้งหมดของบริษัทฯ ภายหลังการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ โดยแบ่งส่วนแรกเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นของ บมจ.ทรัพย์ศรีไทย (SST) เฉพาะกลุ่มที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้น (Pre-emptive Right) ไม่เกิน 41,437,135 หุ้น คิดเป็นไม่เกินร้อยละ 20 ของจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ และส่วนที่สองจะเสนอขายต่อประชาชนและนักลงทุนสถาบันไม่เกิน 169,543,615 หุ้น หรือไม่เกินร้อยละ 80 ของจำนวนหุ้นสามัญเพิ่มทุนในครั้งนี้ รวมกับหุ้นส่วนที่เหลือทั้งหมดจากการเสนอขายให้แก่ผู้ถือหุ้นของ SST ทั้งนี้ ผู้ถือหุ้นของ SST เฉพาะกลุ่มที่มีสิทธิได้รับการจัดสรรหุ้น (Pre-emptive Right) จะต้องจองซื้อที่ราคาสูงสุดของช่วงราคาเสนอขายเบื้องต้นที่ 5.50 บาทต่อหุ้น โดยผู้จัดการการจัดจำหน่ายจะดำเนินการคืนเงินส่วนต่างค่าจองซื้อระหว่างราคาเสนอขายสุดท้าย (5.25 บาทต่อหุ้น) และราคาจองซื้อ (5.50 บาทต่อหุ้น) ให้แก่ผู้จองซื้อตามที่ผู้จองซื้อระบุไว้ในใบจองซื้อ
นายนาดิม ซาเวียร์ ซาลฮานี ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MM กล่าวว่า บริษัทฯ จะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ไปใช้ขยายธุรกิจ ชำระหนี้ธนาคารและใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน โดยปัจจุบันมีธุรกิจหลัก 2 กลุ่มคือ ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่มที่ดำเนินการภายใต้สัญญามาสเตอร์แฟรนไชส์กับต่างประเทศ ได้แก่ 1.ดังกิ้น โดนัท 2.โอ บอง แปง และ 3.บาสกิ้น ร็อบบิ้นส์ และที่ดำเนินการภายใต้แบรนด์ของตนเอง ได้แก่ 1.ครัวเอ็ม 2.เกรฮาวด์ คาเฟ่ และธุรกิจไลฟ์สไตล์ ภายใต้แบรนด์เกรฮาวด์ โดย ณ สิ้นปีที่ผ่านมา มีสาขารวมทั้งสิ้น 456 สาขา
ทั้งนี้ บริษัทฯ มีความมั่นใจในโอกาสเติบโตที่ดี ถึงแม้มีผลการดำเนินงานขาดทุนสุทธิในปีที่ผ่านมา แต่เป็นการขาดทุนจากการตัดค่าจำหน่ายสินทรัพย์ที่ไม่มีตัวตนที่ได้มาจากการเข้าซื้อกิจการ และการด้อยค่าของสินทรัพย์ โดยบริษัทฯ มีแผนลงทุนเพิ่มสาขาร้านเกรฮาวด์ คาเฟ่ ในไทยเอง และขยายสาขาในต่างประเทศผ่านการให้สิทธิแฟรนไชส์ รวมถึงมีแผนเปิดร้านเกรฮาวด์ คาเฟ่ แหร่งแรกในอังกฤษ ใช้งบลงทุน 80-100 ล้านบาท เพื่อเป็นต้นแบบสำหรับขยายธุรกิจในทวีปยุโรปผ่านการให้สิทธิแฟรนไชส์ รวมถึงจะขยายสาขาดังกิ้น โดนัท โอ บอง แปง และบาสกิ้น รอบบิ้นส์ ในไทยอย่างต่อเนื่อง