ส่วนด้านราคาทองคำในประเทศนั้น ปรับตัวเพิ่มขึ้นเพียง 500 บาทต่อบาททองคำ หรือประมาณ 2.5% เนื่องจากได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของค่าเงินบาทหลังสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่า ซึ่งส่งผลให้ราคาทองคำในประเทศปรับตัวขึ้นได้น้อยกว่าการปรับขึ้นของราคาทองคำต่างประเทศ
นางสาวฐิภา กล่าวว่า สำหรับไตรมาสที่2 นั้น ประเด็นสำคัญที่จะเข้ามาชี้นำตลาดทองคำยังคงอยู่ที่การตอบรับของนักลงทุนต่อนโยบายต่างประเทศและนโยบายในประเทศของประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ โดยหากเกิดการคาดการณ์ในเชิงบวกต่อนโยบายของประธานาธิบดีทรัมป์อาจส่งผลให้หนุนสินทรัพย์เสี่ยงให้ปรับตัวขึ้นและกดดันทองคำได้ แต่หากนโยบายดังกล่าวก่อให้เกิดความขัดแย้งกับนานาประเทศหรือส่งผลต่อการค้าโลก หรือประธานาธิบดีโดนัล ทรัมป์ ประสบเผชิญอุปสรรคในการผลักดันนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทางการคลัง ซึ่งรวมถึงแผนการลดภาษีและการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน อาจเป็นปัจจัยสำคัญที่กดดันสินทรัพย์เสี่ยงและกลับมาหนุนทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยได้ นอกจากนี้แนะนำติดตามการเลือกตั้งของฝรั่งเศสในเดือนเม.ย.และพ.ค. ทั้งนี้หากพรรคการเมืองฝ่ายขวาจัดได้รับชัยชนะหรือได้คะแนนเสี่ยงมากเกินคาดอาจบ่งชี้ถึงกระแสต่อต้านกลุ่มฐานอำนาจเดิมในอียูซึ่งสั่นคลอนอนาคตของอียู ขณะที่สัญญาณการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในระยะถัดๆไปของเฟดก็ยังคงเป็นปัจจัยที่นักลงทุนต้องให้ความสำคัญ อีกทั้งความเสี่ยงด้านภูมิรัฐศาสตร์ทั้งประเด็นเกาหลีเหนือและการก่อการร้ายถือเป็นจุดสนใจที่ต้องติดตามเช่นกัน
สำหรับกลยุทธ์การลงทุน วายแอลจี มองว่าถึงแม้ดอกเบี้ยสหรัฐจะเริ่มอยู่ในช่วงที่เป็นขาขึ้นแต่ปัจจัยความไม่แน่นอนทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจทั่วโลกจะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำเช่นกัน โดยแนะนำให้นักลงทุนเข้าซื้อเมื่อราคาย่อตัวลงมาใกล้บริเวณแนวรับ 1,200 ดอลลาร์ต่อออนซ์หรือ 19,600 บาทต่อบาททองคำ และรอไปขายทำกำไรเมื่อราคาดีดตัวขึ้นแต่ไม่สามารถยืนเหนือแนวต้านบริเวณ 1,272 ดอลลาร์ต่อออนซ์หรือ 20,800 บาทต่อบาททองคำ ได้อย่างแข็งแกร่ง แต่หากราคาทองคำสามารถยืนเหนือแนวต้านดังกล่าวได้แนะนำรอขายบริเวณแนวต้านสำคัญถัดไปในโซน 1,286-1,300 ดอลลาร์ต่อออนซ์หรือ 21,000-21,200 บาทต่อบาททองคำ และเน้นย้ำว่านักลงทุนควรวางแผนการลงทุนที่ชัดเจน มีจุดเข้าซื้อ จุดขายทำกำไร หรือจุดตัดขาดทุนและปฏิบัติตามแผนที่วางไว้อย่างเคร่งครัด (ราคาไทยคำนวณจากค่าเงินบาท ณ ระดับ 34.50 บาท/ดอลลาร์)
"ทองคำยังคงเป็นหนึ่งในสินทรัพย์ที่น่าลงทุน โดยก่อนที่นักลงทุนจะลงทุนในสินทรัพย์ใดก็ตามก็ควรจะต้องมีการศึกษาข้อมูลที่เกี่ยวข้องอย่างละเอียด พร้อมทั้งประเมินความเสี่ยงที่ตนเองรับได้และจัดสรรเงินทุนให้เหมาะสมกับความเสี่ยงและเงินทุนของตนเอง" นางสาวฐิภา กล่าว