นายจิรวัฒน์ ปรีชา หรือคุณแมน บีเอ็มดับบลิว เจ้าของเพจ World War Classic Bike (BMW Only) และประธานกรรมการ บริษัท ดับบลิว ซี จี ไดมอนด์ จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายจิวเวลรี่แบรนด์WCG DIAMOND ในฐานะผู้สนับสนุนการจัดงาน Motor Classic Show vol.3 เปิดเผยว่าการจัดงานในครั้งนี้ถือว่าเป็นงานใหญ่อีกงานของผู้ที่รักในรถมอเตอร์ไซค์คลาสสิค เพราะเป็นงานที่รวบรวมรถมอเตอร์ไซค์คลาสสิคที่หาดูได้ยากจากทุกค่ายมาแสดงที่นี่ เพราะฉะนั้นถือเป็นโอกาสอันดีที่คอรถมอเตอร์ไซค์คลาสสิคไม่ควรพลาด สำหรับทาง World War Classic Bike (BMW Only) ได้นำรถมอเตอร์ไซค์คลาสสิคหายากเข้าร่วมแสดงหลายรุ่น แต่ที่เป็นไฮไลท์ของเราจะเป็นมอเตอร์ไซค์BMW ในยุดสงครามโลกครั้งที่ 2ที่ถูกบรรจุเข้าประจำการในกองทัพเยอรมัน 3 รุ่นได้แก่ BMW R35 ,BMW R71และBMW R12
BMW R35 ปี1937-1940 เป็นรถBMWรุ่นที่ถูกบรรจุให้ประจำการในสงครามโลกครั้งที่ 2 เครื่องยนต์เป็นสูบเดียว ขนาด 350 cc เกียร์จะเป็นเกียร์มือ คันเล็กและคล่องตัว เฟรมขึ้นรูปด้วยวิธีการปั้มแผ่นเหล็ก
BMW R71 ปี 1938-1941 เป็นรถที่ถูกบรรจุให้ประจำการในสงครามโลกครั้งที่ 2 ลักษณะเด่นของรุ่นนี้อยู่ที่เสื้อสูบจะเป็นลักษณะแบบไซค์วาล์ว เครื่องยนต์ 750 ซี.ซี. เครื่องยนต์มีขนาดใหญ่ เพื่อการดูแลรักษาที่ง่าย ใช้งานสมบุกสมบันในสนามรบได้เป็นอย่างดี
BMW R12ปี1935-1942 เป็นรถอีกรุ่นที่เป็นรถประจำการใช้ในสงครามโลกครั้งที่สองมีความแข็งแรง ถังน้ำมันอยู่ในเฟรมรถ รูปทรงบอดี้จะมีลักษณะคล้ายR35 เพียงแต่ขยายเครื่องยนต์ให้เป็น 2สูบ745 ซี.ซี.
นอกจากนี้แล้วทาง World War Classic Bike (BMW Only)ยังได้นำรถมอเตอร์ไซค์ BMWคลาสสิคในรุ่นอื่นมาจัดแสดงอีกหลายรุ่นอาทิ
BMW R27 ปี 1960-1966 โครงสร้างรถแบบสวิงอาร์ม 1สูบ 250ซี ซีกำลังสูงสุด 18แรงม้าที่7,400รอบต่อนาที
BMW R51/2 ปี 1950-1951รุ่นแรกที่ BMW ผลิตขึ้นเพื่อการพาณิชย์ สมัยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 สงบลง เครื่องยนต์ขนาด 500 ซี.ซี. พิเศษแบบแคมคู่และใช้โซ่ตรงกลางคล้องเครื่องและคล้องแคม ใช้ระบบไดนาโมในการจุดระเบิด ซึ่งจะมีไดกลมๆ อยู่ตรงหลังเครื่อง เป็นรถที่มีรอบเครื่องยนต์ที่ค่อนข้างสูงจึงจัดได้ว่าเป็นรถที่แรงกว่าคู่แข่ง ในสมัยนั้นนิยมนำมาใช้ในสนามแข่งขัน.
BMW R51/3 ปี1951-1954 รถที่ผลิตต่อจากรุ่น BMW R51/2 หลังสงครามโลกครั้งที่สอง มีโช๊คสไลด์หรือที่คอมอเตอร์ไซค์ชอบเรียกว่าหลังสไลด์ เครื่องยนต์ 500 ซี.ซี. จุดระเบิดด้วยระบบแม็กนิโต เปลี่ยนจากโซ่แคมคู่มาเป็นระบบฟันเฟืองแคมเดี่ยว
BMW R67/2 ปี 1952-1954 ผลิตประมาณ4,000คัน เครื่องยนต์ 594 ซี.ซี.กำลังสูงสุด85แรงม้าที่5,600รอบ เป็นรถที่กำลังลากค่อนข้างดีนิยมเอาไซค์คาร์มาติดกับรถรุ่นนี้
BMW R68 ปี 1954 เครื่องยนต์ประมาณ 594 ซี.ซี. เป็นรุ่นที่หายากสุดเพราะผลิตน้อยประมาณ1,200กว่าคัน และเป็นยุคสุดท้าย สิ้นสุดหลังความเป็นรุ่นโช๊คสไลด์ ที่จะพัฒนาเป็นสวิงอาร์ม และจัดเป็นรถยุคหลังสงครามโลกที่นักสะสมทุกคนต้องเสาะหามาเป็นเจ้าของให้ได้
สำหรับผู้ที่ชื่นชอบรถจักรยานยนต์ BMWคลาสสิคถ้าพลาดจากงานนี้คุณแมนได้แนะนำ ให้มาดูตัวจริงได้ที่โชว์รูมWCG DIAMOND แมคโครสาขาศรีนครินทร์ หรือติดตามรายละเอียดได้ที่ Facebook Fanpage:World War Classic Bike (BMW Only)