นายเสรี ศุภราทิตย์ ผู้ว่าการ กปภ. เปิดเผยว่า จากการที่ศูนย์วิทยาศาสตร์การแพทย์ที่ 11/1 ภูเก็ต กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ได้เก็บตัวอย่างน้ำจากแหล่งต่าง ๆ ได้แก่ หอผึ่งเย็น ถังเก็บน้ำ ฝักบัว ก๊อกน้ำ สปา สระว่ายน้ำ และถาดแอร์ของโรงแรมในจังหวัดภูเก็ต พังงา และกระบี่ ตั้งแต่เดือนมกราคม ถึง ธันวาคม 2559 เพื่อทำการตรวจวิเคราะห์หาเชื้อ "ลีจิโอเนลลา" ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคปอดอักเสบ แม้ว่าผลตรวจ พบเชื้อ "ลีจิโอเนลลา" ในปริมาณที่ไม่สูงพอที่จะก่อให้เกิดโรคในคนได้ก็ตาม กปภ.คำนึงถึงคุณภาพน้ำประปาและคุณภาพชีวิตของประชาชนเป็นสำคัญ จึงได้ตรวจวัดคุณภาพน้ำประปาตั้งแต่ในระบบผลิต และระบบจ่ายเป็นประจำ โดยมีการตรวจทั้งในระดับกปภ.สาขา และระดับห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ พบว่า ค่าคลอรีนอิสระคงเหลือในระบบจ่ายของ กปภ.สาขากระบี่ พังงา และภูเก็ต มีค่าอยู่ในช่วง 1.0-1.5 1.0-1.2 และ0.2-0.9 มิลลิกรัมต่อลิตร ตามลำดับ ซึ่งปริมาณคลอรีนอิสระคงเหลือในระดับดังกล่าวสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียรวมถึงเชื้อ "ลีจิโอเนลลา" ในน้ำประปาได้อย่างมีประสิทธิผลแน่นอน (ตามคำแนะนำขององค์การอนามัยโลกที่ให้มีคลอรีนอิสระคงเหลือไม่น้อยกว่า 0.2 มิลลิกรัมต่อลิตร) เพื่อให้ประชาชนมีความมั่นใจยิ่งขึ้น กปภ.ได้กำชับให้มีการทดสอบแบคทีเรียอย่างง่ายในระบบจ่ายน้ำร่วมกับการตรวจวัดค่าคลอรีนอิสระคงเหลือและความขุ่นซึ่งดำเนินการเป็นประจำอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม หากพบว่ามีการปนเปื้อนของเชื้อแบคทีเรียในระบบจ่าย จะจัดทีมนักวิทยาศาสตร์เข้าร่วมแก้ไขปัญหากับ กปภ.สาขาทันที
นายเสรี ศุภราทิตย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า กปภ.ขอให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า น้ำประปาที่ผ่านกระบวนการผลิตของ กปภ.สามารถนำไปใช้เพื่อการอุปโภคบริโภคได้อย่างปลอดภัย และขอความร่วมมือจากผู้ใช้น้ำให้ตรวจสอบและทำความสะอาดระบบประปาภายในบ้าน เครื่องสุขภัณฑ์ เครื่องครัว เครื่องกรองน้ำ ตลอดจนเครื่องใช้และอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำประปาอยู่เสมอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งถังพักน้ำ ซึ่งเมื่อกักเก็บน้ำประปาไว้ คลอรีนจะระเหยออกไปจนหมด อาจเป็นสาเหตุให้เชื้อจุลินทรีย์หรือสาหร่ายจากภายนอกปนเปื้อนได้ ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยหรือข้อแนะนำเกี่ยวกับน้ำประปา สามารถติดต่อ กปภ.สาขาในพื้นที่ที่ท่านใช้บริการ หรือ PWA Contact Center โทร. 1662 ได้ทันที