ถ้าไม่ชอบเจ็บตัวมากนัก มีเวลามาก รอได้ ช้าๆ ได้พร้าเล่มงาม แนะนำการทำ Treatment ที่เกี่ยวกับการยกกระชับผิว ได้แก่ การทำ RF, Laser Infared หรือ Ultrasoud ค่ะ
แต่ถ้าชอบความรวดเร็วขึ้นมาหน่อย แล้วก็เจ็บตัวครั้งเดียว แต่ไม่มากเท่ากับการผ่าตัดดึงหน้าเต็มรูปแบบ บางคนอาจคงเคยได้ยิน ไหมดึงหน้า หรือ Thread Face Lifting กันมาบ้าง โดยไหมดึงหน้าเหล่านี้ มีอายุ 1-3 ปี (ยกเว้นไหมทอง)
ประโยชน์ของการใช้ไหมดึงหน้า
1. เห็นผลยกกระชับและช่วยลดเลือนริ้วรอยได้ชัดเจนทันที
2. เห็นผลได้ชัดเจนขึ้นในอีก 1-2 เดือนถัดมา โดยจะเห็นผลสูงสุดที่ 3 เดือน จากการที่ไหมไปกระตุ้นกระบวนการซ่อมแซมต่อเนื้อเยื่อให้มีการกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนใต้ผิว ช่วยฟื้นฟูเซลล์ผิวให้แข็งแรง ทำให้เห็นผลยกกระชับที่เพิ่มขึ้น
3.ไม่ใช่การผ่าตัด จึงไม่มีแผลขนาดใหญ่ อาจมีรอยมีดกรีดเล็กๆ หรือ บางแบบอาจมีแค่รอยเจาะของเข็มเพียงเล็กน้อย
4. หลังจากการทำไม่ต้องพักฟื้น สามารแต่งหน้าใช้ใบหน้าได้ตามปกติทันที สามารถใช้ชีวิตตามปรกติได้เลย
5. อาจมีรอยเขียวช้ำเกิดขึ้นได้ แต่ก็เพียงเล็กน้อย จึงใช้เวลาพักฟื้น (Down Time) น้อยมาก
6. เพราะไม่ใช่การผ่าตัด จึงมีความเจ็บปวดที่เกิดในขณะทำและหลังจากทำเพียงเล็กน้อย
เจ้าไหมดึงหน้านี้มีอยู่หลากหลายชนิด ... ไปรู้จักกันดีกว่า
กลุ่มไหมถาวร
1. Gold Thread เป็นการนำไหมที่ทำด้วยทองคำที่มีความบริสุทธิ์ 99.99% ที่มีขนาดประมาณเส้นผม ร้อยเป็นลักษณะโครงตาข่ายในชั้นผิวหนัง โดยทองคำจะช่วยกระตุ้นให้ร่างกายมีการไหลเวียนโลหิตที่ดีขึ้น และมีการสร้างคอลาเจนขึ้นใหม่ แต่เพราะด้ายทองไม่มีปมหรือแง่งใดๆ จึงไม่มีผลในแง่ของ Machanic lifting มากนัก จึงต้องรอผลจากการกระตุ้นให้ร่างกายซ่อมแซม จะเริ่มเห็นผลเมื่อ 1 เดือนเป็นต้นไป
โดยไหมทอง 1 เส้น จะมีความยาวตั้งแต่ 25 - 50 cm ขณะทำก็จะตัดไปเรื่อยๆ ขณะร้อยเข้าไปในชั้นผิวหนัง ดังนั้น การร้อยไหมทั้งหน้า ก็จะใช้เพียงไม่กี่เส้น โดยปกติใช้เพียงไม่กี่เส้น แต่ก็เคยมีรายงานว่ามีการใช้ถึง 10 เส้นใน 1 คนเลยทีเดียว
2. Feather-Lift หรือ Aptos ® threads เป็นไหมที่ไม่สามารถละลายได้ (monofiliment material - "polypropylene") ที่มีลักษณะเป็นรูปก้างปลาบั่งออกเป็นซี่ๆ จากตัวเส้นไหนเอง เริ่มขึ้นที่รัสเซียเป็นประเทศแรก [ชื่อจากบริษัทอื่น ได้แก่ Silk Lift™, BPS® (Barbed Polypropylene Sutures)]
3. Silhouette Lift เป็นไหมที่ไม่สามารถละลายได้ ไหมมีการทำปมเป็นระยะๆ โดยระหว่างปมจะมีกรวยรูปร่างคล้ายไอศครีม ซึ่งจะถูกล็อคตำแหน่งไว้โดยปมข้างต้น เจ้ากรวยนี้ทำจากวัสดุเดียวกับไหมละลาย
ไหมไม่ละลายแบบนี้ มีใช้ทางการแพทย์มานานกว่า 50 ปี ในการผ่าตัดหัวใจ ซึ่งไม่มีปฏิกิริยาต่อเนื้อเยื่อมนุษย์ (Biocompatibility)
กลุ่มไหมละลาย จะเป็นไหม PDO (plydioanone) ซึ่งเป็นไหมละลายที่ใช้ในการเย็บผนังเส้นเลือดหัวใจ ซึ่งมีโอกาสแพ้น้อยมาก ไม่มีผลปฏิกิริยาต่อผิวหนัง ไหมละลายที่นำมาร้อยกระชับจะค่อยๆ ละลายไปภายใน 6-8 เดือน ไม่เหลือตกค้างให้เกิดผลข้างเคียงภายหลัง นอกจากจะเห็นผลทันทีหลังทำแล้ว ยังพบผลดีต่อเนื่องได้อีก คือขณะที่ไหมละลายอยู่ใต้ผิวหนัง จะกระตุ้นการสร้างเส้นเลือดใหม่ (Local microcirculation) มีผลให้เกิดกระบวนการสร้างคอลลาเจนรอบๆ เส้นไหม จึงเกิดการยกกระชับมากขึ้น เมื่อเวลาผ่านไป ผิวหน้าจะยิ่งดีขึ้น กระชับขึ้นเรื่อยๆ และได้ผลต่อเนื่องนานถึง 12-18เดือน
4. Happy Lift ไหมจะลักษณะเหมือนกับ Aptos (ข้อ 3) แต่เปลี่ยนเป็นไหมละลาย
5. TR - Line
6. Ultra Fine Thread Lift หรือ Ultra V-Lift
ไหมข้อ 5 และ 6 เป็นนวัตกรรมจากเกาหลี ไหมเส้นหนึ่งๆ จะมีขนาดเล็กมาก และไม่ยาวมากนัก โดยแต่ละเส้นจะมีขนาดตั้งแต่ 3-9 cm เท่านั้นเอง ดังนั้นถ้าทำทั้งหน้าและลำคอ อาจต้องใช้มากถึง 200 เส้นเลยทีเดียว
วิธีการร้อยไหม แบบคร่าวๆ หลักการของทุกๆ อย่างจะคล้ายๆ กัน
1. ทายาชาบริเวณใบหน้าของคุณผู้หญิงที่ต้องการยกกระชับไว้ 30-45 นาที โดยแพทย์อาจเพิ่มการฉีดยาชาเฉพาะจุดในไหมบางชนิด
2. ทำความสะอาดให้ทั่วใบหน้าด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อ
3. แพทย์จะนำเส้นไหมเข้าไปยึดตามเนื้อเยื่อผิว โดยจะใช้วิธีร้อยเรียงเส้นไหมด้วยเทคนิคเฉพาะของไหมแต่ละชนิดในเวลาเพียง 30- 60 นาที
4. หลังจากร้อยไหมแล้ว อาจมีการเพิ่มแรงดันบริเวณใบหน้าด้วยการกดเบาๆ ทั่วๆ ใบหน้า ร่วมกับการประคบเย็น เพื่อลดการไหลออกของเลือด ทำให้การเกิดการเขียวช้ำลดลง เป็นเวลา 10-15 นาที เป็นอันเสร็จสิ้นขั้นตอนการร้อยไหม
6. อาจได้รับยาปฏิชีวนะ เพื่อป้องกันการติดเชื้อ กลับไปรับประทานต่อที่บ้านประมาณ 1 สัปดาห์