นายดนัย เอกกมล รองอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน เปิดเผยว่า กรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.) กระทรวงพลังงาน มีภารกิจหลักที่สำคัญของในการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานและการส่งเสริมให้มีการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงการพัฒนาแหล่งพลังงานทดแทนใหม่ๆ อย่างต่อเนื่องเพื่อรองรับการพัฒนาด้านเศรษฐกิจและสังคม รวมทั้งเพื่อรับมือกับสภาวะวิกฤติด้านพลังงาน เพื่อให้บรรลุเป้าหมายให้เกิดการลดระดับความเข้มของการใช้พลังงาน (Energy Intensity) ของประเทศลงให้ได้อย่างน้อยร้อยละ 30 ภายในปี 2579 ตามแผนอนุรักษ์พลังงาน 21 ปี 2558 – 2579 นั้น
กลไกสำคัญที่จะช่วยให้เกิดการดำเนินงานประสบผลสำเร็จและเกิดการอนุรักษ์พลังงานอย่างเป็นรูปธรรมได้นั้น คือการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานโดยอาศัยกลไกบริษัทจัดการพลังงาน (Energy Service Company : ESCO) ซึ่งถือเป็นมาตรการหนึ่งที่ พพ. ได้ให้ความสำคัญและให้การสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง โดยการส่งเสริมให้บริษัท ESCO เพิ่มการให้บริการที่มีความเป็นมืออาชีพมากขึ้น ขยายผลการดำเนินโครงการอนุรักษ์พลังงานแบบ ESCO ให้ครอบคลุมในทุกกลุ่มเป้าหมายทั้งภาครัฐและเอกชน รวมทั้งยกระดับความเชื่อมั่นจากบริษัท ESCO ให้เป็นที่ยอมรับอย่างกว้างขวาง ทั้งนี้การดำเนินการส่งเสริมธุรกิจบริษัทจัดการพลังงานที่ผ่านมา พพ. ได้ร่วมมือกับสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย โดยให้การสนับสนุนการดำเนินโครงการส่งเสริมธุรกิจ ESCO ซึ่งเริ่มมาตั้งแต่ปี 2550 และได้ดำเนินงานต่อเนื่องมาถึงปัจจุบันเป็นปีที่ 9
โดยที่ผ่านมา พพ. มีมาตรการสนับสนุนด้านการลงทุนสำหรับ ESCO และผู้ประกอบการที่สนใจ อาทิ เช่น การสนับสนุนเงินลงทุนแบบให้เปล่า (Subsidy), การส่งเสริมการลงทุนภายใต้โครงการ ESCO Revolving Fund, เพื่อกระตุ้นให้เกิดการลงทุนด้านการอนุรักษ์พลังงานเพิ่มขึ้นและการให้สินเชื่อดอกเบี้ยต่ำในการลงทุนและ พพ. ยังได้ให้การสนับสนุนการจัดทำ IGA (Investment Grade Audit) และ M&V (measurement and verification) ที่เหมาะสม (IGA M&V Plan และ Baseline consumption) สำหรับโครงการนำร่องการอนุรักษ์พลังงานในรูปแบบ ESCO (ESCO Pilot Projects) ที่เหมาะสมในหน่วยงานราชการหรือรัฐวิสาหกิจ ตลอดจนการให้การสนับสนุนในการจัดทำร่างกฎระเบียบต่างๆ ที่จำเป็นต้องมีการแก้ไข รวมถึงจัดทำแนวทางแผนกลยุทธ์ในการผลักดันการดำเนินโครงการอนุรักษ์พลังงานโดยกลไกบริษัทจัดการพลังงานให้กับหน่วยงานราชการด้วย
ด้าน นายหิน นววงศ์ รองประธานคณะกรรมการบริหารสถาบันพลังงานเพื่ออุตสาหกรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย กล่าวว่า การจัดงานสัมมนาเผยแพร่ผลงานโครงการในภาพรวม "ESCO ก้าวหน้า ประชารัฐก้าวไกล พาไทยประหยัดพลังงาน" ประกอบด้วยงานหลัก 2 ส่วนคือ ส่วนของงานนิทรรศการและการจัดสัมมนา โดยมุ่งเน้นที่จะเผยแพร่หลักการของธุรกิจบริษัทจัดการพลังงาน ด้วยการแสดงผลงานความสำเร็จของโครงการต่างๆ เพื่อให้สถานประกอบการเห็นถึงประโยชน์ที่จะได้รับจากการใช้บริการของบริษัทจัดการพลังงาน ซึ่งในส่วนของงานนิทรรศการจะมีการนำเสนอรูปแบบการให้บริการของบริษัทจัดการพลังงาน (ESCO) ธนาคาร และเทคโนโลยีอุปกรณ์ด้านอนุรักษ์พลังงาน จำนวน รวม 15 บูธ
สำหรับการจัดสัมมนา ช่วงเช้าจะเริ่มการเสวนาหัวข้อ "ESCO ก้าวหน้า ประชารัฐก้าวไกล พาไทยประหยัดพลังงาน" ประเด็น นโยบายภาครัฐกับการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงานโดยใช้กลไก ESCO การสรุปผลภาพรวมโครงการส่งเสริมธุรกิจและกระตุ้นตลาดการอนุรักษ์พลังงานโดยกลไก ESCO และกิจกรรมภายใต้โครงการปี 2559 และแนวทางความสำเร็จการอนุรักษ์พลังงานด้วย ESCO จากภาคเอกชนสู่ภาครัฐ ช่วงบ่ายจะเป็นเสวนาหัวข้อ "Success cases of ESCO" ต่อด้วยการเสวนาหัวข้อเสวนา "ประชารัฐร่วมใจอนุรักษ์พลังงาน" จากหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และผู้ประกอบการที่ประสบความสำเร็จ
"ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่างานสัมมนาเผยแพร่ผลงานโครงการในภาพรวม "ESCO ก้าวหน้า ประชารัฐก้าวไกล พาไทยประหยัดพลังงาน" ในครั้งนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของผู้ประกอบการจะหันมาลงทุนเพื่อการอนุรักษ์พลังงานเพิ่มขึ้น และขอความร่วมมือไปยังผู้บริหารของสถานประกอบการทั้งภาคอุตสาหกรรม ภาคธุรกิจ และภาครัฐ ในการอนุรักษ์พลังงานด้วย ESCO ซึ่งสภาอุตสาหกรรมฯ มั่นใจว่า ESCO จะเป็นกลไกอันสำคัญส่วนหนึ่งที่จะช่วยขับเคลื่อนการอนุรักษ์พลังงานและลดต้นทุนการผลิตในสถานประกอบการ และให้กับประเทศไทยต่อไป" นายหินฯ กล่าว